- ปีดับคนดังPosted 11 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
เรดดี้แพลนเน็ตเผย 3 มุมมองใหม่วัดผลธุรกิจ
เรดดี้แพลนเน็ต (www.readyplanet.com) ผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปร ายแรกในประเทศไทย และผู้ให้บริการด้านการตลาดออนไ ลน์แบบครบวงจร เผยมุมมองการวัดผลธุรกิจออนไลน์ รูปแบบใหม่ตามแนวคิดของ Balanced Scorecard ที่ไม่ได้เน้นแค่ยอดขายหรือกำไร แต่สามารถวัดผลไปถึงทุกๆ ด้านในการทำธุรกิจ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็ม อี ที่ต้องการวัดผลธุรกิจตั้งแต่ต้ นทางจนถึงปลายทาง เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรในองค์ กรและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า
นายบุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด กล่าวว่า “ในขั้นตอน และกระบวนการของการทำการตลาดออน ไลน์ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบมักมุ่งเป้าไป ที่การวัดผลความสำเร็จของธุรกิ จผ่านยอดขายหรือผลกำไรเป็นหลัก ไม่ว่าจะวัดผลจากการที่ลูกค้าเข้ ามาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน คลิกซื้อสินค้าบนหน้าเว็บไซต์ หรือโทรเข้ามาสอบถาม และพนักงานปิดการขาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการวัดผลความ สำเร็จในมุมทางการเงินทั้งสิ้น ซึ่งแท้จริงแล้วยังมีการวัดผลธุ รกิจออนไลน์อีก 3 แง่มุม ที่หลายธุรกิจอาจมองข้ามไป แต่ล้วนมีผลต่อการทำธุรกิจออนไล น์อย่างยั่งยืน เรดดี้แพลนเน็ตในฐานะผู้นำการตล าดดิจิทัลแบบเน้นผลลัพธ์ที่ทำธุ รกิจในประเทศไทยมานานกว่า 16 ปี ขอแนะนำผู้ประกอบการเสริมการวัด ผลธุรกิจออนไลน์ด้วย
1.แง่มุมด้านลูกค้า (The Customer Perspective)
ผู้ประกอบการ สามารถวัดความสนใจของลูกค้าเป้า หมายต่อสินค้าหรือบริการ ได้จากจำนวนคลิกที่ลูกค้า คลิก เข้ามายังโฆษณาของธุรกิจ เช่น
ผู้ประกอบการทำโฆษณาแบบดิสเพลย์ แบนเนอร์ กลุ่มเป้าหมายที่เห็นแบนเนอร์มี จำนวนทั้งสิ้น 10,000 คน มีคนเห็นทั้งหมด 5,000 คน เท่ากับ 50% ของกลุ่มเป้าหมาย มีคนคลิกแบนเนอร์มาเยี่ยมเว็บไซ ต์ทั้งหมด 50 คน เท่ากับ 1% ของจำนวนผู้เห็นทั้งหมด การวัดผลนี้ทำให้ผู้ประกอบการสา มารถทราบได้ว่าโฆษณาเข้าสู่กลุ่ มเป้าหมายได้มากเพียงใด มีความสนใจต่อการโฆษณานี้มากเพี ยงใด และนำมาปรับปรุงโฆษณาให้ดีขึ้นต่ อไป
ผู้ประกอบการอาจวัดผลแง่มุมด้าน ลูกค้าด้วยการดูสถิติของผู้เข้ าชมเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊คเพจ ว่ามีการสมัครสมาชิก กดติดตามเพจ หรือกดไลค์ คอมเมนท์ แชร์คอนเทนต์บนเพจมากน้อยเพียงใ ด การวัดผลในแง่มุมนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บ ริโภคกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้ น และสามารถปรับปรุงเพจ หรือเว็บไซต์ให้ตรงกับสิ่งที่กลุ่ มเป้าหมายต้องการมากที่สุด
2.แง่มุมด้านกระบวนการและประสิทธิ ภาพการทำงาน (The Business Process/Internal Operations Perspective)
องค์กรที่ทำธุรกิจด้านดิจิทัล ควรจะวัดผลธุรกิจ จากกระบวนการ และการวางระบบในการปฏิบัติงาน เช่น
ท่านมีหน้าร้านออฟไลน์ และเปิดเว็บไซต์ขายของออนไลน์ด้ วย ท่านควรวัดผลความเร็วของการนำสิ นค้าจากหน้าร้านออฟไลน์ ขึ้นมาขายบนโลกออนไลน์ ว่าสินค้าเหล่านั้นใช้เวลาเท่าใ ด จึงจะสามารถนำขึ้นมาขายบนหน้าเว็ บไซต์ได้
กระบวนการทำงานขององค์กรมีความค ล่องตัวมากน้อยเพียงใด
จำนวนบุคลากรที่ใช้เหมาะสมแค่ไห น
ข้อมูลของสินค้าถูกต้อง ครบถ้วน มีการอัพเดทสินค้าใหม่ให้แก่ลูก ค้าอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
ผู้ประกอบการควรจะทำการวัดผลกระ บวนการในการทำงานตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทางที่สินค้าถูกส่งไปยั งลูกค้า เพื่อที่จะทราบว่าควรแก้ไข หรือเพิ่มเติมกระบวนการใด เพราะการทำธุรกิจออนไลน์ สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงมากที่สุด คือความคุ้มค่า ความถูกต้อง และความเร็ว
หากผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับ การวัดผลในแง่มุมนี้ ธุรกิจที่จะสำเร็จจากออฟไลน์ สู่ออนไลน์ เพื่อให้นำมาซึ่งยอดขายได้อย่าง มีประสิทธิภาพมากที่สุด
3.แง่มุมด้านการเรียนรู้และเติบโต ขอบคนในองค์กร (The Learning and Growth Perspective)
นอกจากการวัดผลด้านลูกค้า และการวัดผลประสิทธิภาพการทำงาน แล้ว ผู้ประกอบการควรวัดผลพนักงาน หรือบุคลากรภายในองค์กรด้วย เพราะบุคลากรถือเป็นตัวชี้วัดคว ามสำเร็จที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ ง สำหรับทุกๆ องค์กรเลยก็ว่าได้ ซึ่งวิธีการวัดผลการเรียนรู้ของ คนในองค์กร สามารถวัดได้จาก ขีดความสามารถ (Competency) ของบุคลากรในแต่ละด้าน เช่น
ความรู้เรื่องดิจิทัลในแพลตฟอร์ มต่างๆ
ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล และวัดผลการตลาดดิจิทัล
บุคลากรในองค์กรสามารถอธิบายควา มโดดเด่นของสินค้าหรือบริการผ่ านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้มากน้ อยเพียงใด เนื่องจากบนโลกออนไลน์ไม่สามารถ ใช้พนักงานขายมาสื่อสารเพื่อโน้ มน้าวใจผู้บริโภคได้ แบบโลกออฟไลน์ ดังนั้น แบรนด์จึงต้องสื่อสารกับผู้บริโ ภคในลักษณะเข้าใจง่าย มีข้อมูลครบ แต่ในขณะเดียวก็ต้องไม่ยาวจนเกิ นไป
องค์ความรู้ในด้านเทคโนโลยี เช่น เว็บไซต์ โฮสติ้ง เพื่อการจัดการช่องทางในการสื่อ สารการตลาดได้อย่างครบวงจร
การจัดสรรบุคลากรตามความถนัด และหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพของชิ้ นงานให้เพิ่มมากขึ้น
ควรมีบุคลากรที่มีความสามารถในก ารทำ Content Marketing เพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้า หมายได้ตรงความต้องการ
ความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้ า ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ การตอบความคิดเห็นบนกระดานสนทนา หรือการโต้ตอบผ่านแชท ฯลฯ
ด้านความเร็วของการดำเนินการ ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์มักต้องกา รได้รับสินค้าหรือบริการที่รวดเ ร็วจากแบรนด์ ทำให้ผู้ประกอบการต้องวัดผลในด้ านความเร็วของการทำงานของบุคลาก ร จากออฟไลน์ เข้าสู่ออนไลน์ ว่าตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้หรือไม่
ความเข้าใจของพนักงานต่อพฤติกรร มของผู้บริโภค ว่าผู้บริโภคมีแนวคิดอย่างไร ในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริ การ และนำจุดนั้นมาสื่อสารไปยังเป้า หมายได้โดยตรง
ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากั บความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
การวัดผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เหมาะสำหรับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการวัดผลธุรกิจตั้งแต่ต้ นทางจนถึงปลายทาง เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรในองค์ กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งหากผู้ประกอบการ นำข้อมูลที่ได้จากการวัดผลดังกล่ าวมาใช้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริ หารจัดการองค์กร และส่งผลให้สามารถสร้างความพึงพ อใจให้กับลูกค้าบนโลกออนไลน์ อันจะนำมาซึ่งโอกาสในการเพิ่มยอ ดขายได้ในที่สุด
You must be logged in to post a comment Login