เก้าอี้ต่างตอบแทน

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ส่งกลับถึงศาลรัฐธรรมนูญเป็นคำรบที่สองสำหรับร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลฯช่วยตรวจดูว่าเนื้อหาที่เขียนไว้สอดคล้องกับคำถามพ่วงที่ผ่านประชามติมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมหรือไม่

ตามข่าวว่าของใหม่ที่ส่งกลับไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเนื้อหาอะไรเพิ่มอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวลก่อนหน้านี้

ดังนั้นต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะโอเคกับข้อกำหนดให้อำนาจส.ว.เฉพาะร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวอย่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้หรือไม่

ถ้าไม่โอเคก็จะส่งเรื่องกลับมาให้ปรับแก้ใหม่ โดยทีมงานของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ จะมีเวลาปรับแก้ 15 วัน แต่หากโอเคเห็นชอบตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสนอไปเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่มีอันจบ รอส่งขึ้นทูลเกล้าฯเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ประเด็นของรัฐธรรมนูญก็เหลือให้ติดตามแค่นี้

ส่วนประเด็นใหม่ที่น่าติดตามคือเรื่องครหาเก้าอี้ต่างตอบแทน เก้าอี้ปลอบใจคนอกหัก ที่ตอนนี้มีให้โฟกัสกันหลายเก้าอี้ หลายหน่วยงาน

เริ่มจาก 30 ที่นั่งที่จะเพิ่มขึ้นมาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งขณะนี้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อเพิ่มเก้าอี้เหลือเพียงขั้นตอนการโปรดเกล้าฯให้มีผลบังคับใช้เท่านั้น

30 ที่นั่งที่เพิ่มมาแม้จะมีคำยืนยันจากผู้เกี่ยวข้องถึงความจำเป็นว่าเพิ่มมาเพื่อช่วยกันเร่งพิจารณาร่างกฎหมายในสภาที่ค้างอยู่มากมายหลายฉบับให้ทันกับเวลาการทำงานที่เหลือน้อยลง

แต่จากสถิติที่มีคนนำมาเปิดเผยกลับปรากฏว่าการทำงานของ สนช.ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สนช.มี 220 คน สถิติการเข้าประชุมเพื่อร่วมพิจารณากฎหมายสูงสุดอยู่ที่ 196 คนเท่านั้น

จึงไม่แปลกที่จะมีคนกระแซะผู้มีอำนาจว่าไปไขลาน สนช.ที่มีอยู่ให้ทำงานให้เต็มประสิทธิภาพ ให้ขยันทำหน้าที่ ดีกว่าแต่งตั้งเพิ่มอีก 30 คนให้สิ้นเปลืองงบประมาณ

เมื่อสถิติสวนทางกับข้อเหตุผลข้ออ้างที่ต้องแต่งตั้งเพิ่มจึงไม่แปลกที่จะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า 30 เก้าอี้ที่เพิ่มมาเป็นการเปิดตำแหน่งเอาไว้ใช้ปลอบใจผู้ที่ผิดหวังจากการแต่งตั้งโยกย้าย หรือเอาไว้ตอบแทนกันทางการเมือง

อีกเก้าอี้ที่ถูกจับตามองคือการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดเองว่าจะมีการปรับเปลี่ยน

ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีทำให้มีเสียงวิจารณ์มากมายถึงคนที่จะเข้ามาใหม่ ซึ่งเสียงวิจารณ์ก็ไม่พ้นตอบแทนให้กับคนในเครือข่ายเดียวกันที่เกษียณอายุราชการ

ทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาสยบเสียงวิจารณ์ด้วยคำยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่มีการเอาใครออก ส่วนคนที่จะเข้ามามีตำแหน่งเดียวคือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ล่าสุดกับกรณีคณะรัฐมนตรีเห็นตามข้อเสนอกระทรวงกลาโหมที่ขอแต่งตั้งอัตราจอมพลให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม

เก้าอี้นี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเก้าอี้ปลอบใจบิ๊กทหารบางคนที่พลาดเก้าอี้ใหญ่ในกองทัพ แต่ก็ได้รับคำยืนยันว่าเป็นการตั้งแทนคนเก่าที่เกษียณอายุราชการ และไม่ได้ใช้ปลอบใจบิ๊กทหารที่อกหักจากเก้าอี้ใหญ่

ทั้งการเพิ่ม สนช. 30 คน การปรับคณะรัฐมนตรีและการแต่งตั้งนายทหารกินอันตราจอมพลในตำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมล้วนถูกมองว่าเป็นเก้าอี้ปลอบใจเก้าอี้ต่างตอบแทนเพราะมีบทเรียนมาแล้วจากการแต่งตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา

ข้อสงสัยเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ คำปฏิเสธของผู้มีอำนาจจะเป็นจริงหรือไม่ รอดูคำเฉลยหลังประกาศแต่งตั้งออกมา

You must be logged in to post a comment Login