- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 1 month ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 1 month ago
- โลกธรรมPosted 1 month ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 1 month ago
- สลายความเกลียดชังPosted 1 month ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 1 month ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 1 month ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 1 month ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 1 month ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 1 month ago
เป้าหมายมีไว้ชน

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ส่งกันไปมาสองสามรอบสำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติระหว่างคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กับศาลรัฐธรรมนูญ โดยข่าวบอกว่ามีปัญหาเรื่องระบบเอกสารที่ไม่ครบตามระเบียบ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ กรธ.ไม่ได้แก้ไขอะไรเพิ่มเติม
น่าสงสัยเหมือนกันว่า กรธ.ที่นำโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ทำงานด้านกฎหมายมาตลอดชีวิตทำไมถึงพลาดเรื่องง่ายๆ เกี่ยวกับกฎระเบียบเล็กๆน้อยๆ ในการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญยังต้องรอผลการพิจารณาจากศาลฯว่า เนื้อหาที่ กรธ.เขียนไปนั้นสอดคล้องกับคำถามพ่วงของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่ ในทางการเมืองก็มีประเด็นใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดกับกรณี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ได้จัดทำรายงานเสนอต่อ กรธ. เรื่องการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส.
ข้อเสนอทั้งหมดมี 11 ส่วน 27 หน้า มีสาระสำคัญที่น่าสนใจคือ
1.ให้โอนอำนาจจัดเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลับไปให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดเลือกตั้งทุกระดับรวมถึงการออกเสียงประชามติ
2.ให้มีบทลงโทษบางประการกับผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกระดับต้องได้รับโทษมากกว่าประชาชนทั่วไปคือให้มีโทษทางวินัยเพิ่มเติมด้วย
3.ผู้ประสงค์จะลงสมัครเลือกตั้งต้องเปิดตัวให้ประชาชนรับรู้ก่อนเลือกตั้ง 1 ปี และต้องเข้ารับการอบรมจาก กกต.
4.ให้รัฐจัดงบประมาณส่วนหนึ่งสนับสนุนการหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมือง ให้กกต.จัดพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับผู้สมัครแจกจ่ายประชาชนทุกครัวเรือน
5.ห้ามผู้สมัครส.ส.ใส่ซองช่วยงานศพ งานแต่ง งานบวชและให้เงินช่วยเหลืองานตามประเพณีต่างๆภายในเขตเลือกตั้งที่ลงสมัคร
6.ขายเวลาการใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งไปถึง 18.00 น. และให้พัฒนาระบบลงคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
7.ให้ประชาชนสามารถร้องคัดค้านผลเลือกตั้งต่อ กกต.ในฐานะผู้เสียหายได้
8.ให้ยกเลิก กกต.จังหวัดแล้วให้ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้าไปทำหน้าที่แทน โดยมีกกต.เป็นผู้บังคับบัญชา
9.เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่สอบสวนของกกต.ให้มีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยให้เวลาทำสำนวน 15 วันก่อนส่งให้กกต.ยื่นฟ้องศาลภายใน 15 วัน โดยศาลต้องมีคำพิพากษาภายใน 30 วัน
10.ผู้ที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตต้องถูกถอนสิทธิ์เลือกตั้งตลอดชีวิต และให้มีมาตรการทางอาญา ทางแพ่ง และทางการเมือง อย่างรุนแรง และรวดเร็ว เช่น โทษตัดสิทธิ์ตลอดลงสมัครเลือกตั้งชีวิต โทษจำคุก 1-10 ปี ไม่รอลงอาญา และโทษปรับ 20 ล้านบาท อายุความ 20 ปี
หากพบว่าการกระทำนั้นมีหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรครู้เห็นแล้วไม่ระงับยับยั้งต้องมีความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง
11.ประชาชนที่เป็นผู้แจ้งเบาะแสทุจริตเลือกตั้งเมื่อคดีถึงที่สุดจะได้รับรางวัลไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
12.กำหนดบทเฉพาะกาลให้การเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2560 ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกกต.ในการควบคุมการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันข้อครหาปฏิวัติล้มเหลว
ต้องย้ำว่าทั้งหมดเป็นเพียงข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านการเมือง สปท. ทั้งหมดจะมีผลเกิดขึ้นจริงหรือไม่อยู่ที่การเขียนกฎหมายลูกของ กรธ.
ถ้าเอาตามที่เสนอมาทั้งหมดนี้ก็ต้องถือว่าเดินหน้ากันสุดตัวเพื่อไม่ให้ผลการเลือกตั้งกระทบต่อเป้าหมายที่วางไว้และที่จะทำต่อไปในวันข้างหน้า โดยเฉพาะการให้ กระทรวงมหาดไทยจัดเลือกตั้งและให้คสช.คุมเลือกตั้ง
You must be logged in to post a comment Login