- ปีดับคนดังPosted 7 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ทีเส็บเปิดแผนการตลาดธุรกิจ MI ปี’60
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “จากการศึกษาเรื่องผลกระทบเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2558 คิดเป็นจำนวน 2.2 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมไมซ์ยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 164,427 อัตรา และยังส่งผลประโยชน์เชิงปริมาณที่เกิดจากการสร้างเครือข่าย การสร้างตราสินค้าและการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรม สำหรับอุตสาหกรรมการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ MI นั้นพบว่า ในปี 2558 มีมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรม MI คิดเป็นจำนวน 1 แสนล้านบาท และยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 73,000 อัตรา นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงธุรกิจไมซ์ โดยเฉพาะในส่วนของ MI ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
ด้านภาพรวมของธุรกิจไมซ์ ในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท คิดเป็นนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากอินเดียเป็นอันดับหนึ่ง รองมา คือ จีน และสิงคโปร์ โดยตลาดหลักของธุรกิจ MI คือภูมิภาคเอเชีย ตลาดรอง คือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และโอเชียเนีย ส่วนกลุ่มตลาดใหม่ที่กำลังศึกษาข้อมูลและเริ่มสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย คือ ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศ CIS (Commonwealth of Independent States) ทั้งนี้สำหรับภาพรวมแผนตลาด MI ในปี 2560 นั้น ทีเส็บกำหนดแผนตลาดธุรกิจ MI เน้นกลยุทธ์เชิงลึก แบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ตามเซ็กเมนต์หลักที่มีการใช้งบประมาณในการเดินทางและทำกิจกรรมต่อครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายของแต่ละกลุ่ม และแนวทางการเจาะตลาดของกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้
ด้าน นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ทีเส็บ กล่าวว่า “ในปี 2560 ตลาด MI มีการกำหนดเป้าหมายใหม่เป็น 3 กลุ่มหลักที่มีคุณภาพ ได้แก่ กลุ่มเมกะไซส์ ที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2,000 รายขึ้นไป เน้น กลุ่มธุรกิจขายตรง/ ประกัน/ โทรคมนาคม/ ไอที/ ยานยนต์ โดยเฉพาะประเทศจีน/ อินเดีย และกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก กลุ่มการจัดประชุมองค์กร โดยมีลักษณะเป็นการประชุมบอร์ด ประชุมประจำปี ประชุมระดับภูมิภาค ในธุรกิจอาทิ การเงิน การธนาคาร/ ยานยนตร์/ ไอที/ โทรคมนาคม/ เภสัชภัณฑ์ มุ่งเน้นที่ประเทศญี่ปุ่น/ สิงคโปร์/ มาเลเซีย/ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย และ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่มีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวสูง อาทิ ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจขายตรง/ ไอที/ โทรคมนาคม/ ยานยนต์ มุ่งเน้นที่ประเทศจีน/ สิงคโปร์/ สหรัฐอเมริกา/ ญี่ปุ่น/ อินเดีย/ ออสเตรเลีย และยุโรป”
ทีเส็บกำหนดแผนและแนวทางส่งเสริมการตลาดใน 5 รูปแบบหลัก เน้นทำงานร่วมกับภาคีพันธมิตร ขยายตลาดใหม่และสร้างกิจกรรมที่หลากหลายให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ ประกอบด้วย แนวทางแรก การเข้าร่วมงานเทรดโชว์ครอบคลุมทุกภูมิภาค อาทิ งาน AIME 2017 / IMEX Frankfurt 2017 / IMEX America 2017 เป็นต้น แนวทางที่ 2 จัดกิจกรรมโรดโชว์ในตลาดเป้าหมาย อย่าง อินเดีย จีน ญี่ปุ่น แนวทางที่ 3 ตั้งเป้าหมายการขายในตลาดศักยภาพใหม่ อาทิ ตลาดพรีเมี่ยม แนวทางที่ 4 จัดกิจกรรมเชิญกลุ่มลูกค้าองค์กร และตัวแทนการขาย ร่วมเสวนาในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสัมผัสประสบการณ์ไมซ์ในประเทศไทย โดยมีโครงการ Thailand Incentive and Meeting Exchange (TIME) เป็นงานประจำปีที่มี 3 กิจกรรมภายในงาน คือ Knowledge Exchange / Business Exchange และ Experience Exchange และแนวทางที่ 5 การขยายตลาดผ่านตัวแทนในต่างประเทศ ซึ่งในปีหน้าได้ขยายไปสู่ยุโรปและออสเตรเลีย จากปัจจุบันที่มีในจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอย่างจีน ก็มีการขยายกิจกรรมจากเมืองหลักอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ออกสู่เมืองรอง ได้แก่ เซินเจิ้น เฉิงตู ฉงชิ่ง หังโจว ซูโจว และนานจิง
นางสาวนุช กล่าวต่อไปว่า “ในปีหน้า MI ยังได้พัฒนาแคมเปญส่งเสริมการตลาดใหม่อย่าง Meet in Style, Meet in Thailand โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มสินค้าและบริการหลักที่จะเสนอคือ “Meet at Delightful Destinations” นำเสนอจุดหมายปลายทางที่หลากหลายนอกเหนือจาก 5 เมืองไมซ์หลัก โดยนำเสนอเมืองที่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์อื่นๆ อาทิ เชียงราย/ เกาะสมุย สุราษฏร์ธานี/ กระบี่/ เขาใหญ่ นครราชสีมา/ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ “Meet at Breathtaking Venues” นำเสนอการจัดงานในสถานที่แปลกใหม่ ไม่จำเจ “Meet with Energy” ชูกิจกรรมการผจญภัย (Outdoor Adventures) รวมถึงกิจกรรมการสร้างทีมเวิร์ค (Treasured Team Building) “Meet the Sustainable Way” ยกกิจกรรม CSR และการจัดประชุมเชิงอนุรักษ์ (CSR and Green meetings) และ “Meet Around Great Flavours” การนำเสนออาหารไทยและความหลากหลายของวัฒนธรรมการทางอาหารในทุกกิจกรรม (Culinary Journeys)
ในส่วนของโปรโมชั่นส่งเสริมการขายมีการพัฒนาที่สอดรับกับทุกกลุ่มเป้าหมายของ MI โปรโมชั่นแรก “Meet Double Cities” สำหรับการเดินทางที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 200 คน และมีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 4 คืน และมากกว่า 1 จุดหมายปลายทาง โดยทีเส็บจะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 100,000 บาท เปิดรับสมัครแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องเดินทางในประเทศไทย ภายใน 31 ธันวาคม 2560 โปรโมชั่นที่ 2 “Meet Sustainable” สำหรับการเดินทางที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 200 คน มีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน และมีกิจกรรม CSR ในกำหนดการจัดงาน หรือ จัดงานในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน “Thailand MICE Venue Standard (TMVS)” โดยทีเส็บจะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 100,000 บาท เปิดรับสมัครแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องเดินทางในประเทศไทยภายใน 31 ธันวาคม 2560
ในส่วนของโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมกลุ่มเมกกะไซต์ ทีเส็บยังคงสนับสนุนด้วยแคมเปญ “Thailand BIG Thanks!” สำหรับการเดินทาง ที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 2,000 คน และมีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน โดยทีเส็บจะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 2,000,000 บาท เปิดรับสมัครต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องมีการเดินทางในประเทศไทยภายใน 31 ธันวาคม 2560 นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนงานเมกกะอีเวนต์ที่จัดขึ้นในประเทศไทยด้วยการเป็นเจ้าภาพงาน IT&CMA การประมูลสิทธิ์การจัดงาน SITE Global Conference ด้วย
ด้านการจัดงาน “Industry Day 2016” ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำทุกปีเพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการไมซ์ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในธุรกิจ MI นั้น ปีนี้กำหนดจัดขึ้นวันที่ 31 สิงหาคม 2559 ณ โรงแรม อวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซปต์ “MI Dynamic : SHARE, CONNECT, DISCOVER” เพื่อให้ความรู้ด้านแนวโน้มทางการตลาดและการทำธุรกิจในต่างประเทศของธุรกิจ MI สำหรับหน่วยงานและองค์กรที่อยู่ในภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการตลาดและการดำเนินงานในอนาคต โดยมีรูปแบบการจัดงานทั้ง Panel Discussion เชิญวิทยากรให้ความรู้ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ MI และ ช่วง Meet the Rep โดยผู้ประกอบการมีโอกาสได้พบปะตัวแทนการตลาดของทีเส็บจาก 5 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกกับตัวแทนฯ เกี่ยวกับการเจาะตลาดและการประมูลสิทธิ์การจัดงานให้สำเร็จในแต่ละประเทศ
“จากข้อมูลของ 2016 GBTA Global BTI Outlook ที่สำรวจภาพรวมการเติบโตของประเทศต่างๆ ในโลกของการใช้งบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2559-2563) คาดว่า ประเทศที่จะเติบโตสูงได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ตุรกี และจีน ส่วนประเทศที่เติบโตในระดับปานกลาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจภาพรวมนี้ทำให้เรามองเห็นโอกาสเติบโตของบางประเทศในเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของประเทศไทย ทีเส็บและผู้ประกอบการจึงต้องร่วมกันปรับแผนการดำเนินงานให้พร้อมที่จะรอบรับการเติบโตดังกล่าวนี้ โดยตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในปี 2560 ด้วยจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,109,000 คน สร้างรายได้ 101,000 ล้านบาท” นายนพรัตน์ กล่าวสรุป
You must be logged in to post a comment Login