วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ดี-เสีย’จะมองแบบไหน? / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On September 9, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

บางคนวิพากษ์วิจารณ์วัดอู่ทรายคำที่เชียงใหม่ว่าจัดห้องเหมือนเป็นโรงแรมไว้ต้อนรับแขกมาพักคนละ 600 บาท มีอาหารเช้าให้ด้วย เรื่องอย่างนี้จะมองเสียก็ได้ จะมองดีก็มี

อย่างที่วัดสวนแก้วก็มีคนต่างจังหวัด ทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสานที่เข้ามาพัก แต่ไม่มีการเก็บเงิน ส่วนอาหารถ้าสั่งมา เราก็ไปสั่งให้ ทางมูลนิธิสั่งให้ แต่ไม่ทำเอง ถ้ามีคนมาก จะสั่งเป็นร้านโต๊ะจีนก็มี

ถ้าถามในมุมดีมีมั้ย ก็ขอบอกว่ามี คือช่วงที่เขามาพัก เขาก็จะได้มาสวดมนต์ ฟังเทศน์ฟังธรรม อย่างนี้บวกลบกลบแล้วเขาก็จะได้ธรรมะไปด้วย ไม่ใช่มาพักอย่างเดียว คือถ้าวัดไหนจัดให้ที่พัก แต่ไม่ให้ธรรมะก็ไม่มีใครบังคับ แต่ก็ไม่ได้อะไร ไม่เหมือนมาพักแล้วได้ฟังเทศน์ฟังธรรมอย่างที่วัดสวนแก้ว ถ้ามาพัก 2-3 คืน ไม่ฟังเทศน์ก็ไม่ให้พัก เพราะมันเสียระเบียบแบบแผน ธรรมเนียมจารีต อีกอย่างก็ถือเป็นการอนุเคราะห์ด้วย

วัดที่เชียงใหม่เก็บเงิน 500-600 บาท แต่ที่วัดสวนแก้วจะให้ไม่ให้ก็ได้ คือมานอนฟรีก็ไม่ว่า ถือเป็นการอนุเคราะห์ วัดก็ต้องอนุเคราะห์ ก็ขึ้นอยู่ที่แต่ละวัดจะเอายังไง จึงบอกว่ามองให้ดีมีแต่ได้ ไม่มีเสีย แต่วัดต้องทำให้ได้ เทศน์สอนให้ได้ อบรมธรรมะเขาได้ ไม่ให้เขานอนเฉยๆ

ถ้าเป็นแบบที่สวนโมกข์ แม้จะเป็นสามีภรรยา เขาก็จะให้นอนแยกกัน เพราะจะให้มาสมสู่ในวัดมันก็ไม่ถูก มีการแยกหอพักหญิง หอพักชาย ส่วนหอสวดมนต์ก็อยู่ตรงกลาง ศาลาฟังเทศน์อยู่ตรงกลาง อย่างนี้เรียกว่าได้ ไม่มีอะไรเสียหาย อาจมีบางคนมองเสียบ้าง แต่โดยรวมก็ได้มากกว่าเสีย ได้อบรมธรรมะ ซึ่งมันวิเศษที่สุด

ถ้าเขาไปนอนโรงแรม เขาก็ไม่ได้ฟังอะไรเลย ไม่ได้อ่าน ไม่ได้อบรมธรรมะอะไร ที่วัดยังมีห้องสมุด มีหนังสือธรรมะให้ค้นหา ยังมีบรรยากาศอบรมบ่มธรรมะ จึงไม่มีเรื่องอะไรที่เสียหาย นอกจากทางโรงแรมอาจอิจฉา เพราะรายได้ลดลง

อีกเรื่องที่เป็นข่าวคือกรณีกิมเอ็งกับยายไก่อะไรนี่ โยมทั้งสองนี่ เราจะมองว่าแกร้ายเหลือเกิน แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง แกก็ทำประโยชน์ได้เหมือนกัน คืออาตมามองว่า แกทำให้เราได้ลากไส้พวกเจ้าหน้าที่วัง นายตำรวจผู้ใหญ่ หรืออะไรก็ตาม ถ้าลากคนเหล่านี้ออกมาได้ก็จะได้รู้ว่ามันมีโยงใยอะไร

ถ้านางไก่ไม่โดน นางกิมเอ็งไม่โดน ก็ไม่มีใครรู้ ใครแฉ ไม่สามารถลากไส้ได้อย่างนี้ เราก็จะไม่รู้ว่าใครชั่ว ใครดี นึกว่าคนที่มีตำแหน่งสูงๆ จะเป็นคนดี นึกว่าคนทำงานในรั้วในวังน่าจะเป็นคนดี

พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า “คนจะดีไม่ใช่ดีเพราะชาติตระกูล แต่ดีเพราะความประพฤติดี”

ดังนั้น นางไก่แกทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้ก็แล้วแต่ เมื่อถูกจับก็จะเห็นคนที่อยู่เบื้องหลัง คนที่ร่วมทีม มีทั้งดาราใหญ่รุ่นเก่า ทั้งพระ ทั้งคนในวัง นายทหาร นายตำรวจ ที่ร่วมที่หนุนให้คนทำชั่วได้สะดวก ถ้าผู้หลักผู้ใหญ่มียศมีตำแหน่งไม่ร่วมทำชั่วด้วย ก็ทำได้ยาก ทำไม่ได้สะดวกอย่างนี้

จึงขอฝากว่า ถ้ามองอะไรให้ดีมันมีดีทั้งนั้นแหละ มองร้ายในดีมันก็มีเหมือนกัน หลวงพ่อพุทธทาสท่านถึงใช้คำว่า “ทั้งชั่ว ทั้งดี อัปรีย์ทั้งเพ”

อย่านึกว่าเรื่องดีๆแล้วมันจะไม่มีอะไรเสียหายเลย เรื่องบุญเรื่องกุศลไม่ใช่เรื่องดีหรือ อย่างติดคุกผูกคอตายก็ทำให้คนเป็นทุกข์ ดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ต้องสอบกันวุ่นวายในไปหมด แม้แต่ที่วัดมันก็มีอะไรเสียหายได้ จึงขอให้พวกเราเตรียมตัวทำใจกันไว้บ้าง ถ้าเจออะไรดีก็อย่าไปดีอกดีใจ อย่าเชื่อจนงมงาย อาจมีร้ายอะไรที่เราไม่รู้ เราจึงศึกษา ต้องเรียนรู้ให้รู้เท่าทัน รู้แก้ รู้กันไว้ก่อน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login