วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เมืองที่ตายแล้ว! / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On September 12, 2016

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

พูดกันมานานว่า “กรุงเทพฯ” ตายแล้ว ประเทศไทยต้องหา “เมืองหลวง” ใหม่ แล้วทิ้งให้ “กรุงเทพฯ” เหมือน “กรุงบอนน์” ที่เคยเป็นเมืองหลวงของเยอรมนี แต่ไม่ใช่เมืองราชการและศูนย์กลางประเทศ

แต่ไทยเราไม่ทำครับ สนจ. ไม่ได้สนเรื่อง “ชุมชนป้อมมหากาฬ” มาตั้งแต่ต้น มารับรู้เมื่อเป็นข่าวแล้ว ข้อมูลเบื้องต้นคือ มีการเจรจาเพื่อรื้อถอนมา 24 ปีแล้ว ระหว่างรัฐคือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณป้อมมหากาฬ เจรจาและสู้กันยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ วันที่ประเทศไทยกลับสู่วงจรอุบาทว์เดิมๆคือรัฏฐาธิปัตย์ การทำรัฐประหารครั้งที่แปดหมื่นสี่พัน รวมถึงภาวะเปลี่ยนผ่านในแทบจะทุกเรื่อง แม้กระทั่งแผนพัฒนา “เกาะรัตนโกสินทร์” ที่เริ่มปรากฏให้เห็นในช่วง 2 ปีหลัง ตั้งแต่ไล่รื้อคลองถม สะพานเหล็ก พาหุรัด ปากคลองตลาด ขายทิ้งเวิ้งนาครเขษม เป็นความรู้ใหม่ว่า บ้านเรือนของประชาชนในชุมชนป้อมมหากาฬมี “โฉนด” บางบ้านอยู่กันมาตั้งแต่รัชกาลที่ 2 นับเป็นอายุคนก็ 6 ชั่วอายุคน

รับรู้ข่าวสารทำให้นึกถึงอดีตของตัวเองกับ “สี่แยกบ้านแขก” ชุมชนสุเหร่านูรุ้ลมูบีน หลังตลาดสี่แยกบ้านแขก ตรอกโรงหนังเฉลิมมณี หมู่บ้านทำขลุ่ยบางไส้ไก่ วัดมอญเจริญพาสน์ ซึ่งเส้นทางสามารถทะลุวัดใหญ่ศรีสุพรรณ วัดกัลยาณมิตร วัดพิชัยญาติ และวัดอนงคารามได้

สมัย สนจ. อาศัยบ้านเช่าอยู่ละแวกวัดบางไส้ไก่นั้น ทั้งหมดเป็นหมู่บ้านทำขลุ่ยไม้ไผ่ขาย บางบ้านทำมาแล้ว 2 ชั่วอายุคนคือ รุ่นปู่ รุ่นพ่อ และกำลังจะเข้าสู่รุ่นลูก หลายบ้านมีฝีมือรับทำ “ขลุ่ยเพียงออ” ให้พวกนักดนตรีไทยระดับมืออาชีพหรือแถวหน้าของประเทศ ประมาณครูแจ้ง คล้ายสีทอง ครูอุทัย ครูสอนดนตรีไทย สนจ. ที่โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ หรือพวกสายสกุลดุริยประณีต พวกพี่เข้-นฤพนธ์ ดุริยพันธ์

สนจ. ไม่ได้กลับไปสี่แยกบ้านแขกกว่า 30 ปี ไม่รู้ว่าสภาพตอนนี้เป็นอย่างไร ที่แน่ๆ “หมู่บ้านทำขลุ่ยไม้ไผ่” ถ้าเป็นเมืองนอกรับรองว่าเขารักษาอนุรักษ์เอาไว้ และปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวไปเยือนแน่นอน

ที่เกาหลีใต้ขนาดหมู่บ้านทำกิมจินั้น โอ่งกิมจิหลายโอ่งบอกว่าใช้ดองมาเป็น 100 ปี เราก็ต้องเชื่อ ใครจะไปรู้ว่าจริงหรือเท็จ…ฮา สนจ. ไปไต้หวัน แค่วัฒนธรรมดื่มชาจีนและชงชายังทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกไปชม

น่าแปลกที่ต่างจังหวัดพากันแห่แหนอนุรักษ์ตลาดเก่าริมแม่น้ำที่มีห้องแถวเรือนไม้ ประตูบานเฟี้ยมแทบทุกจังหวัด ขนาดเขาใหญ่ไม่มีแม่น้ำยังมีพ่อค้าดันทุรังไปทำตลาดน้ำ แต่กรุงเทพฯกลับรุกไล่และรื้อทำลายชุมชนเก่าแก่ทีละชุมชน ซึ่งเกาะรัตนโกสินทร์ ฝั่งตรงข้าม กทม. ซอยตึกดินทะลุถนนแพร่งนราหรือประตูแพร่งสรรพศาสตร์ ย่านข้างคุกเก่าคลองเปรมเป็นร้านขายผลิตภัณฑ์หวายและเครื่องจักสานนายเหมือน ย่านโบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า วังบ้านหม้อ สำราญราษฎร์ ประตูผี กุฎีจีน สำเพ็ง พาหุรัด ล้วนเป็นชุมชนเก่าแก่ทั้งนั้น

ในซอกหลืบระหว่างพาหุรัดกับสำเพ็งที่ทะลุออกหน้าร้านขายยาเจ้ากรมเป๋อ วัดจักรวรรดิ สมัย สนจ. ไปถ่ายหนัง “ซุ้มมือปืน” มีเถ้าแก่ร้านขายผ้าในพาหุรัดซื้อบ้านเก่า 2 ชั้นทรงเก๋งจีนเก็บรักษาไว้หลังหนึ่ง มูลค่า 27 ล้านบาท แกรวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร แต่กระเบื้องคอตโต้ปูห้องน้ำ ยังดีที่มันถูกซ่อนอยู่แค่ห้องน้ำ ถ้ารื้อกระเบื้องซีเมนต์เขียนสีลายโบราณออกทั้งหมดก็ “อิ๊บอ๋าย” ไม่เหลือรากเหง้าทางสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างบ้านเรือนของคนยุคก่อน

เมืองนอกเขารักษาเอาไว้หมด มีแต่เมืองไทยนี่แหละ คิดอะไรไม่ออก “ทุบทิ้งไว้ก่อน”


You must be logged in to post a comment Login