‘พลูอิต ซิตี’ต้านเมืองจมทะเล / โดย กองบรรณาธิการ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : รายงาน
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

ประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีฝนตกค่อนข้างชุก และ กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ ก็เป็นเมืองที่มีอัตราการทรุดตัวของพื้นดินเร็วที่สุดในโลกประมาณ 10-11 เซนติเมตรต่อปี

ด้วยความกังวลว่าหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อาจทำให้ทรุดตัวต่ำกว่าระดับน้ำทะเลได้ ทำให้ทางรัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศเดินหน้าโครงการแปรสภาพที่ดินนอกชายฝั่ง โดยการสร้างกำแพงทะเลยาว 15 ไมล์ และปรับปรุงระบบคลองระบายน้ำซึ่งมีสภาพเสื่อมโทรม โดยใช้ชื่อโครงการว่า พลูอิต ซิตี (Pluit City)
ซึ่งโครงการนี้ คือการก่อสร้างเมืองใหม่บนเกาะเทียมที่มีสาธารณูปโภคครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ สำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้า โดยเป็นโครงการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ พีที อากุง โปโดโมโร (PT Agung Podomoro)

“หากการก่อสร้างกำแพงทะเลไม่สำเร็จจะเกิดการรุกล้ำของน้ำเค็ม ซึ่งจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อจาการ์ตา” ลุฮุต ปันไจตัน รัฐมนตรีผู้ประสานงานกระทรวงกิจการทางทะเล กล่าว

รัฐบาลอินโดนีเซียยังมีแผนเนรมิตหมู่เกาะเทียม 17 เกาะขึ้นที่นอกชายฝั่งตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา โดยจะมีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยว คล้ายกับเกาะเซ็นโตซาของสิงคโปร์

ที่จริง อินโดนีซีย มีแนวคิดที่จะทำโครงการนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถูกระงับไว้เมื่อเดือน เม.ย. หลังเกิดข้อโต้แย้งระหว่างรัฐบาลกลางและผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาว่าหน่วยงานใดกันแน่ที่มีอำนาจออกใบอนุญาต

“เรายังรอดูทิศทางของรัฐบาลอยู่ ก่อนหน้านี้ เราวางแผนงานก่อสร้างบนเกาะให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2018” จุสตินี โอมาส เลขานุการของ พีที อากุง โปโดโมโร ให้สัมภาษณ์

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นดีเห็นงามกับโครงการนี้ ชาวประมงท้องถิ่นบางส่วนออกมาคัดค้านการปรับสภาพที่ดินริมชายฝั่ง เพราะเกรงจะจับสัตว์น้ำได้น้อยลง ซึ่งรัฐบาลก็ได้ตอบสนองเรื่องนี้โดยการเสนอให้ใบอนุญาตออกไปจับสัตว์น้ำรอบๆ หมู่เกาะนาตูนา (Natuna Islands) ที่อยู่ห่างออกไป

ซึ่งหากโครงการนี้สำเร็จ น่าจะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการป้องกันน้ำท่วมในกรุงจาการ์ตา หลังจากที่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมหลายครั้ง และที่สำคัญอีกอย่างคือน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจาการ์ตาและของอินโดนีเซีย ที่น่าจะโกยเงินเข้าประเทศได้ไม่น้อยทีเดียว

You must be logged in to post a comment Login