- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
พึ่งตัวเองให้มากที่สุด! / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
มีข่าว “ขาวผ่อง สิทธิชูชัย” หรือ ทวี อัมพรมหา อดีตยอดนักมวยไทยและนักมวยสากลสมัครเล่นเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอสแองเจลิส ปี 1984 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงโอลิมปิกครั้งล่าสุด นับจากโอลิมปิก ครั้งที่ 23 ผ่านมาแล้วถึง 32 ปี แต่เห็นนักกีฬาที่ได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลแล้วรู้สึกน้อยใจในวาสนาทุกที แม้แต่เจ็บป่วยยังเบิกไม่ได้ จึงตัดพ้อว่าไม่ใช่คนไทยหรือ
หลังการโพสต์ข้อความก็มีแฟนคลับจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ซึ่งปัจจุบันขาวผ่องหันมาขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในชื่อ “ลิลลี่ไวท์” แต่ยังอยู่ในแวดวงมวยในฐานะผู้บรรยายและวิเคราะห์มวยไทย
การออกมาแสดงความน้อยอกน้อยใจรัฐบาลไม่ได้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่นักกีฬาในอดีตที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ไม่เหมือนนักกีฬาปัจจุบันที่ได้เงินรางวัลและค่าโน่นค่านี่ เรียกว่าอิ่มหมีพีมัน เปรียบเทียบกับขาวผ่องที่ค่อนข้างจะตกอับ จนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอย่างที่ระบายความรู้สึกออกมา ต่อว่า ต่อขาน เสียดสีรัฐบาลไม่ให้ความดูแลอะไรต่างๆนั้น
นี่ขนาดคนเป็นนักกีฬาที่ถือว่าต้องมีน้ำใจนักกีฬานะ ยังน้อยอกน้อยใจ ยังประชดประชัน ถ้าเป็นคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักกีฬาล่ะ จะเรียกร้องจะต้องการอะไรได้ การแสดงความน้อยอกน้อยใจ ไม่ปลื้มกับรัฐบาลที่มีต่อนักกีฬาที่เคยสร้างชื่อเสียง จึงน่าเห็นใจ ยิ่งเปรียบเทียบกับความอู้ฟู่ของนักกีฬาในปัจจุบันที่ให้กันชนิดที่ว่าเดี๋ยวให้โน่นเดี๋ยวให้นี่กันเต็มที่ ก็เป็นธรรมดาล่ะที่เขาจะมีความรู้สึกน้อยอกน้อยใจอย่างนั้น
ยังไงรัฐบาลก็ควรเหลียวแลหน่อย รวมถึงอยากเห็นประชาชนทุกคน ไม่ใช่แค่นักกีฬา จะนักอะไรก็ตาม ให้เป็น “นักพึ่งตัวเอง” ให้มากที่สุด อย่าคิดว่า คนนี้เป็นที่พึ่ง คนนั้นเป็นที่พึ่ง อย่าไปหวังพึ่งรัฐบาลจนเกินไปนัก ไม่ไหวหรอก
ถังของรัฐบาลก็ไม่ใช่ถังชนิดเงินไหลมาเทมา ยิ่งช่วงนี้รู้สึกจะไม่ค่อยมีเงินลงถังสักเท่าไรด้วย เผลอๆจะเป็นถังแตกซะด้วย แล้วจะให้โน่นให้นี่ ให้รุ่นนี้รุ่นโน้น คงจะยาก จึงต้องจะทำใจให้เป็นนักกีฬา ให้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เอา ไม่งอนง้อ ไม่ต่อว่าต่อขาน ไม่แสดงอาการน้อยอกน้อยใจ
อาตมาก็ขอให้ทุกคนฝึกตนให้เป็นคนทำใจได้ ไม่ร้องไห้ร้องห่ม ไม่ระทมตรมใจ รู้จักคำว่า “ทำใจได้” เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งช้ำใจกับการขอให้ความคุ้มครองเหลียวแลอะไรนัก ถ้าไม่ดูแลก็จะทำใจ พึ่งตนเองให้ได้
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login