วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ขาวกับดำ?

On September 16, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

รัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขนผลงานรอบ 2 ปีใส่กระบุงมาตั้งโชว์ประชาชนที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยความภาคภูมิใจเพราะตัวเลขบ่งชี้ดีขึ้นทุกด้าน

ฟังจากที่ “บิ๊กตู่” ร่ายยาวสรุปได้ว่าที่ผ่านมาประเทศมีความวุ่นวาย การพัฒนาประเทศไร้ทิศทาง ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์น้อยและไม่ทั่วถึงจึงเกิดความเหลื่อมล้ำ ปัญหาเหล่านี้นำมาซึ่งความขัดแย้ง จนทำให้เกิดความรุนแรงทางการเมือง แต่ในระยะนี้เริ่มเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนไทย หลังจากที่ยิ้มฝืดๆกันมานาน ช่วง10 ปีที่ผ่านมา ประเทศมีปัญหามาหลายด้าน แต่ในระยะนี้เริ่มดีขึ้น

รัฐบาลได้วางแผนและมาตรการต่างๆทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในช่วงมาตรการระยะสั้น โดยการดำเนินการของรัฐบาลมีมาตรการหลัก มาตรการรอง และมาตรการเสริม โดยช่วงที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศนั้นเกิดปัญหาทั้งใน และนอกประเทศในทุกมิติ เช่น ในประเทศเกิดความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่นอกประเทศเกิดการก่อการร้าย

ด้านเศรษฐกิจเกิดปัญหาราคาผลผลิตด้านการเกษตรตกต่ำ ขณะที่นอกประเทศมีปัญหาการขยายตัวของเศรษฐกิจทรุดตัว สหรัฐ ญี่ปุ่น และกลุ่มยูโรโซน ต่างตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ต่างประเทศยังไม่เข้าใจการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ เกิดคำถามต่างๆมากมาย

2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลทำให้ความเสี่ยงด้านความไม่มั่นคงทางการเมืองดีขึ้น ความโปร่งใสดีขึ้น ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลง คดียาเสพติดลดลง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรสหประชาชาติจัดอันดับความน่าลงทุนดีขึ้น ผลการจัดอันดับพบว่าประเทศไทยมีความทุกข์ยากน้อยที่สุด สื่อต่างประเทศระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยว น่าลงทุนเป็นอันดับ 4 ของโลก

ด้านกฎหมาย รัฐบาลพยายามแก้ไขกฎหมายต่างๆที่ล้าสมัย มีกฎหมายใหม่ๆออกมา โดยกฎหมายเหล่านี้ที่ออกมาก็เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ด้านสังคม มีการปฏิรูปตำรวจ ทหาร จัดระเบียบรถตู้โดยสาร ปราบปรามผู้มีอิทธิพล

ด้านเศรษฐกิจได้สนับสนุนการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วทุกภูมิภาค ผลักดันประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

“บิ๊กตู่” ย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ คือ การวางแผนแม่บท วางเข็มทิศไว้ให้กับรัฐบาลต่อไปในอนาคต

ฟัง “บิ๊กตู่” และทีมงานแถลงผลงานแล้วต้องบอกว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กำลังอู้ฟู่เจริญก้าวหน้า ไพร่ฟ้าหน้าใส

แต่อยู่ๆก็มีคนมากระตุกขาให้ตื่นจากความฝัน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย 2559 ว่า สถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยปี 2559 สูงสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 โดยมีหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 298,005.81 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ถือว่าเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 9 ปี ด้านการผ่อนชำระต่อเดือนก็สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 9 ปีเช่นกัน ผ่อนเดือนละกว่า 14,889 บาท

ภาระหนี้ครัวเรือนไทยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 83-84 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งสูงอยู่ในอันดับต้นๆของโลก ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้ประชาชน ขณะที่ประชาชนก็ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีปัญหาต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บวกกับปัญหาภัยแล้ง

แต่ยังดีที่รัฐบาลทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น ส่งผลให้การกู้ยืมเงินของประชาชนนอกระบบปรับตัวลดลง สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไม่น่าเป็นห่วงเพราะปรับลดลง และคาดว่า 3 ปีข้างหน้า ภาระหนี้ครัวเรือนจะลดลงอยู่ในระดับร้อยละ 80 ของจีดีพี

ประชาชนมีหนี้สูง มีภาระผ่อนชำระหนี้ เดือนละกว่า 14,889 บาท ยังไม่มีความเชื่อมั่นจนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย แถมธนาคารยังไม่กล้าปล่อยกู้

โอ้..แม่เจ้า

ผลงานที่รัฐบาลแถลงกับสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ขาวกับดำ


You must be logged in to post a comment Login