- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 2 weeks ago
กวาดล้างจัดสรรอำนาจใหม่ / โดย Pegasus
คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus
ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งใกล้เวลาเปลี่ยนผ่าน การเตรียมการเพื่อรักษาระบบอำนาจรูปแบบเดิมยิ่งมีความเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้ แม้ในระดับชนชั้นนำจะมีการแย่งชิงอำนาจกันเอง แต่การรวมตัวกันเพื่อรักษาสถานะของตนไว้ก็มีความสำคัญ จึงเป็นสภาวะที่ฝ่ายประชาชนเท่านั้นต้องถูกจัดระเบียบใหม่เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระยะยาวของกลุ่มทุนผูกขาด
ความเปลี่ยนแปลงข้างต้นจะไม่กล่าวถึง เพราะเป็นเรื่องปรกติของการชิงอำนาจหรือสมการแห่งอำนาจ ซึ่งใครได้อำนาจก็จะอยู่ยาวกินยาว คำพูดที่ว่า “ไม่มีความขัดแย้ง” ที่ทุกฝ่ายเข้าใจกันนั้นเป็นเพียงภาพมายา เมื่อถึงเวลาก็จะรู้ว่าแท้จริงเป็นอย่างไร
ในส่วนของประชาชนคือผู้ที่มีความผิดติดตัว แม้ในสภาวะปรกติจะไม่ผิดก็ตามก็อาจติดร่างแหโดนจัดการไปด้วยเพียงเพื่อให้เกิดความสงบราบคาบเท่านั้น จึงถือว่าเข้าเทศกาลกวาดล้างและจัดสรรอำนาจใหม่อย่างแท้จริงแล้ว
การกวาดล้างที่ว่าคือ การจัดการกับผู้ที่อาจนำมวลชนทั้งหลายได้ เพื่อไม่ให้มีแรงกระเพื่อมเมื่อถึงเวลาสำคัญ และเพื่อให้มั่นใจว่าจะจัดการทั้งระดับแกนนำและผู้ตามสำคัญๆทั้งหลายในการทำกิจกรรมต่างๆได้ แม้ในยามปรกติจะไม่มีความผิดก็ตาม
เมื่อเป็นเช่นนี้ประเมินตามทิศทางของฝ่ายประชาชนก็คือยังสงบนิ่งอยู่ การกวาดล้างแกนนำในทุกระดับก็จะทำได้โดยง่าย และอาจกวาดหมดทุกฝ่ายก็เป็นได้ เนื่องจากต้องปกปิดข้อมูลความลับใดๆไม่ให้รั่วไหล
การกวาดล้างที่น่าจะถือว่าสำคัญที่สุดคือ การกวาดล้าง “ตระกูลชินวัตร” ทั้งในเรื่องของทรัพย์สินและอาจหมายถึงอิสรภาพหรือชีวิต คำว่า “สะเด็ดน้ำ” คือความหมายนี้ เหมือนกับพรรคบอลเชวิคของคอมมิวนิสต์รัสเซีย การสังหารหมู่ผู้นำทางการเมืองเก่าจนหมดสิ้นจึงเกิดขึ้นเพื่อตัดปัญหาทางการเมือง ซึ่งได้ผลชะงัดมาจนถึงปัจจุบัน
ชะตากรรมของแกนนำฝ่ายพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทยที่โดนยุบพรรคฟรีๆไปก็คงไม่ต่างกัน แต่เมื่อเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองนี้เลือกแนวทางแบบนี้ก็ต้องยอมรับชะตากรรม
การจัดสรรอำนาจใหม่เป็นเรื่องน่าติดตาม บางทีอาจมากกว่าการกวาดล้างเสียด้วยซ้ำ เพราะขั้วอำนาจต่างๆยังไม่แพ้ชนะกันอย่างเด็ดขาด ต่างคนต่างยังมีไต๋ของตนเอง อำนาจมีขึ้นมีลง ผู้ที่เคยมีอำนาจ เมื่อเวลาผ่านไปถ้าไม่มีสายป่านพอก็ยากจะรักษาอำนาจได้ต่อเนื่อง อำนาจจึงเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วจนผู้ติดตามข่าวการเมืองเองยังสับสน
หากมองกลุ่มอำนาจใหม่ที่พยายามเสนอตัวขึ้นมารองรับการเปลี่ยนผ่านจะพบว่าบารมีเพิ่งเริ่มต้น การสั่งการเป็นไปตามระบบปรกติเท่านั้น ไม่มีใครมีฐานอำนาจแบบเบ็ดเสร็จอย่างแท้จริงกันแม้แต่กลุ่มเดียว ทำให้จำใจต้องเชื่อฟังผู้มีสายป่านยาวที่อยู่กันมาก่อน แต่ก็ไม่มีเอกภาพนัก เรื่องนี้เวลาจะเป็นเครื่องตัดสิน
สิ่งที่พอสรุปได้คือ การกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคนเพื่อให้สะเด็ดน้ำเกิดขึ้นแน่และจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยที่สุดต้องเอาตัวไปเก็บไว้ในคุกชั่วคราว ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป ส่วนผู้ที่มีคนรักมาก มีบารมีมาก การกำจัดก็จะแตกต่างกันออกไป
การจัดสรรอำนาจใหม่คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีหลายฝ่าย หลายกลุ่ม หลายอำนาจ จึงไม่ใช่อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร แต่การจัดสรรอำนาจเกิดขึ้นแล้วและกำลังดำเนินอยู่ เพียงแต่ยังไม่สามารถสรุปตอนท้ายได้เท่านั้น
ส่วนจะออกหัวหรือออกก้อยนั้นไม่มีใครทราบได้ ประชาชนจึงควรอยู่อย่างสงบ เอาตัวรอด และทำบุญกันให้มากๆ เหมือนดังคำทำนายก่อนหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น
You must be logged in to post a comment Login