- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
วัดป่าในเมือง / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
เมื่อเร็วๆนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้โอวาทว่า เจ้าอาวาสแต่ละวัดและพุทธศาสนิกชน ต่างชื่นใจประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัดต่างๆ ให้พระสงฆ์ได้ใช้ในกิจการพระพุทธศาสนา แต่ละวัดต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอาวาสต้องมีศักยภาพ มีพระสงฆ์จำพรรษาไม่น้อยกว่า 5 รูปติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี
โดยเฉพาะเรื่องการสร้างอุโบสถต้องดูว่าเป็นที่วัดและมีโฉนดหรือไม่ หากเป็นที่ป่าสงวน ที่ส.ป.ก. ซึ่งไม่ใช่ที่ของเราก็ไม่ควรสร้างวัด เพราะจะไม่สามารถขอพระราชทานวิสุงคามสีมาได้
ดังนั้น การจะสร้างวัดและอุโบสถ วัดต้องมีโฉนดให้ถูกต้องเรียบร้อย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ยังบอกว่า วิสุงคามสีมานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพื้นที่ให้วัด เพื่อใช้เป็นที่ของพระพุทธศาสนา จึงขอให้คณะสงฆ์ร่วมกันตอบแทนในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการสร้างความดีความเจริญให้เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ขอให้เจ้าอาวาสทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดนครปฐม ก็บอกว่า วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ.2507) ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ข้อ 11 ที่ว่า ต้องปรากฏว่าได้สร้าง หรือปฏิสังขรณ์เป็นหลักฐานถาวร และมีพระภิกษุอยู่ประจำไม่น้อยกว่า 5 รูปติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี และเมื่อวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วจะถือว่าเป็นวัดที่ถูกต้องทั้งทางกฎหมาย และพระธรรมวินัย หากมีวัดใดมีพื้นที่ที่ผิดกฎหมาย รุกล้ำพื้นที่ป่าก็ไม่สามารถขอพระราชทานวิสุงคามสีมาได้
ต้องถือเป็นความปรารถนาดีของพระผู้ใหญ่อย่างสมเด็จพระมหามัคลาจารย์ วัดปากน้ำ ที่มีต่อพระศาสนา ท่านเตือนว่าพระสงฆ์ไม่ควรสร้างวัดเข้ารุกพื้นที่ป่า อุทยานแห่งชาติที่เป็นเขตหวงห้าม ไม่ควรจะรุกล้ำเข้าไป แม้จะสร้างวัดได้แต่ก็ไม่สามารถขอพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นโบสถ์ เป็นอะไรไม่ได้ ทั้งยังผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีด้วย เพราะฉะนั้นการจะสร้างวัดก็ต้องดูความถูกต้อง ความเหมาะสมดีงาม ไม่ใช่นึกอยากจะสร้างก็สร้าง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมดีงาม
อันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่พระผู้หลักผู้ใหญ่ท่านออกมาเตือน ซึ่งพระรุ่นหลังๆจึงต้องไม่ใช่อยากจะสร้างก็สร้าง เห็นว่าทำเลดี แต่ผิดกฎหมายก็มึควรทำ จึงอยากจะฝากบอกพระรุ่นหลัง ต่อยอดจากสมเด็จวัดปากน้ำหน่อยว่า ถ้าแน่จริงทำป่าในเมืองนี่แหละ ทำวัดป่าในเมือง
อย่างอาตมาได้รับคำของหลวงพ่อพุทธทาสก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะทำได้ ท่านบอกพยอมคุณไม่คิดไปสร้างวัดป่าสวนโมกข์ไว้ชานเมืองบ้างหรือ เผื่อคนเขาไปสวนโมกข์ไม่ไหว ไกลเหลือเกิน ลองทำให้เป็นวัดป่าในเมือง ทีแรกเราก็นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี ในเมื่อท่านบอกไว้ก็รับปากไว้ก่อนแล้วมาสู้กันทีหลัง
โอ้..ปรากฏแม่เจ้าโว๊ยได้เรื่องเหมือนกัน ถือเป็นประวัติศาสตร์ เพราะว่าเราก็ทำจนกระทั่งประชาชนเรียกวัดสวนแก้วเป็นวัดป่าชานเมือง ตอนนี้ต้นไม้ร่มเย็นกว่าวัดใกล้ๆด้วยกัน แม้มันอยู่ชานเมือง เราก็ทำสวน ทำนาได้ ทำให้มันเป็นป่าเลย ไปเอานา เอาสวน อะไรที่เขาถวายนี่แหละมาทำ
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login