- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
วัดใจป.ป.ช.
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ไม่ต้องตอบโต้ ไม่ต้องชี้แจง นิ่งๆไว้ ทำอะไรให้ระวัง
เป็นคำแนะนำจากพี่ถึงน้อง ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีถึง “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม หลังถูกสังคมจับจ้องพฤติการณ์ของคนในครอบครัวหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางไปเปิดฝายทดน้ำ ที่จังหวัดเชียงใหม่ของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา ที่ฝายมีเชื่อเดียวกับคนเดินทางไปเปิด ทั้งที่ใช้งบประมาณก่อสร้างบางส่วนจากหน่วยงานของกองทัพ
หรือจะเป็นเรื่อง หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ที่มีบุตรชาย “บิ๊กติ๊ก” ถือหุ้นได้งานรับเหมา 2 โครงการกองทัพภาค 3 ส่วนหน้าสร้างอาคารค่ายพ่อขุนผาเมือง ตึกแถวนายทหารประทวน โรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ จังหวัดตาก วงเงินงบประมาณ 26.9 ล้านบาทในปี 2558-2559
คำชี้แจงกรณีแรกเรื่องชื่อฝาย “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” เป็นชื่อที่ชาวบ้านจัดให้เพราะเห็นว่าจำง่าย คนไม่เปิดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
คำชี้แจงกรณีที่สองเป็นเรื่องเก่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นการรับงานอย่างถูกต้องผู้เป็นพ่อไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อให้ หจก.ที่ลูกมีหุ้นส่วนได้งาน ที่สำคัญคือย้ายออกมาจากกองทัพภาคที่ 3 นานแล้ว
แม้จะเชื่อว่าที่ถูกจับตาถูกวิพากษ์วิจารณ์เพราะมีนามสกุล “จันทร์โอชา” และเป็นน้องชายของนายกรัฐมนตรี
แต่ความจริงคือไม่ว่าจะนามสกุลอะไร เป็นญาติหรือไม่เป็นญาติกับ ใครทุกคนต้องพร้อมรับการถูกตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
ไม่ผิดจะกลัวอะไร
และถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ “บิ๊กติ๊ก” ยืนยันว่าพร้อมชี้แจงกับหน่วยงานตรวจสอบโดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เรื่อง หจก.มีหุ้นส่วนได้รับงานของกองทัพยังไม่มีคนยื่นตรวจสอบอย่างเป็นทางการ
แต่ที่ยื่นไปแล้วและถือว่าน่าลุ้นคือเรื่องใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการใช้เครื่องบินกองทัพเดินทาง
ผู้ที่ถูกยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนอกจากพล.อ.ปรีชา ยังมี พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ท.ศิริพงษ์ วงศ์ขันตี เจ้ากรมการพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.พิสิทธิ์ สิงหราไชย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ สังกัดศูนย์การปฏิบัติการป้องกันประเทศและพลังงานทหาร กรมการพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ข้อกล่าวหาคือเข้าข่ายละเลยและทุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่จัดเครื่องบินอำนวยความสะดวกให้นางผ่องพรรณและคณะเดินทางไปเปิดฝายที่จังหวัดเชียงใหม่
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ว่า พล.อ.ต. พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ ออกมาชี้แจงว่า กองทัพอากาศ ได้รับการประสานด้วยหนังสือจากสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมในการขอสนับสนุนเครื่องบิน C-130 รับส่งคณะ โดยระบุว่า เป็นคณะของปลัดกลาโหม ไม่ได้ระบุว่าเป็นสมาคมภริยา หรือพลเรือน
โดยตามหลักการ หน่วยราชการขอมา กองทัพอากาศก็สนับสนุนให้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้จัดเครื่องบินสนับสนุนสมาคมภริยาหรือพลเรือน เช่นที่ในข่าวระบุ เพราะกองทัพอากาศยึดตามหนังสือที่ส่งมา ระบุว่าเป็นปลัดกลาโหม เรามีจดหมายยืนยัน
เมื่อมีข้อเท็จจริงปรากฏอย่างนี้ต้องดูว่าป.ป.ช.จะตัดสินออกมาอย่างไร
You must be logged in to post a comment Login