- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ติ๊ก..ติ๊ก..ติ๊ก!!!
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ยังเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก
สำหรับกรณีฝายทดน้ำแม่ผ่องพรรณพัฒนา อันเป็นชื่อเดียวกับ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องในไส้ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ประเด็นวิจารณ์มีตั้งแต่ใช้ชื่อตัวเป็นชื่อฝาย ทั้งที่งบประมาณก่อสร้างส่วนหนึ่งมาจากกองทัพ ใช้เครื่องบินหลวงนำคณะเดินทางไปเปิดฝ่ายอย่างเอิกเกริกใหญ่โต อิริยาบทท่วงท่าระหว่างลงพื้นที่ การต้อนรับประหนึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นคนสำคัญของประเทศ งบประมาณที่ใช้เดินทางสูงกว่าราคาค่าก่อสร้างฝายหลายร้อยเท่า
ยิ่งไปกว่านั้นหลังไปเปิดได้ไม่นาน โดนฝนตกถล่มไม่กี่วันก็มีข่าวและภาพปรากฏว่าฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนาพังซะแล้ว
นอกจากเรื่องภริยา ยังมีเรื่องลูกเข้ามาแจมหลังมีคนเปิดเผยบริษัทที่ลูกชาย “บิ๊กติ๊ก” ถือหุ้นได้งานภายในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 หลายโครงการ มูลค่าร้อยกว่าล้านบาททั้งที่เป็นบริษัทหน้าใหม่ มีทุนจดทะเบียนล้านกว่าบาท
การชนะประมูลงานไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนมีสิทธิ์เข้าแข่งขันเสนอราคาได้ แต่ที่ถูกวิจารณ์เพราะสงสัยทำไมได้งานแต่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ซึ่ง “บิ๊กติ๊ก” เคยนั่งเป็นแม่ทัพภาคอยู่
ทั้งสองเรื่องมีคนยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการตรวจสอบยังไม่ออกมา แต่ก็มีหลายคนออกมาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยอมเปลืองตัวออกมาประทับตราความถูกต้อง
ยอมเปลืองตัวถึงขนาดประกาศให้เป็นบรรทัดฐานว่าในอนาคตข้างหน้าใครจะนามสกุลเหมือนใครไม่สำคัญ ทุกคนมีสิทธิ์ทำมาหากินหากแข่งประมูลงานอย่างถูกต้องและชนะประมูลก็มีสิทธิ์รับงานจากโครงการของรัฐได้
บรรทัดฐานนี้การันตีว่าในอนาคตหากคนตระกูลชินวัตรชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี ลูกหลานในตระกูลชินวัตรสามารถตั้งบริษัทมาแข่งประมูลชิงเค้กงบประมาณโครงการของรัฐได้
ทั้งที่ก่อนหน้าจะเข้ามายึดอำนาจปกครองประเทศเพื่อปฏิรูป เรื่องเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ ห้ามญาติชิงประมูลงานจากรัฐ ห้ามพี่น้องลูกเมียคนนามสกุลเดียวกันลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หากว่ามีญาติเป็นส.ส. ฯลฯ ถูกชูเป็นประเด็นหลักในการโจมตีเพื่อโค่นล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
เรื่องเอื้อประโยชน์เครือญาติ พวกพ้อง กลายเป็นเรื่องขว้างงูไม่พ้นคอ
กรณีภริยาและลูกของ “บิ๊กติ๊ก” ไม่ได้กระทบแต่ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
แม้แต่คนในฟากฝั่งเดียวกันที่ส่งเสียงเชียร์มาตลอดหลายคนยังต้องออกมาส่งเสียงเตือนว่าให้เพลาๆลงบ้างเพราะเกรงจะบานปลายกลายเป็นแรงสั่นสะเทือนต่อความมั่นคงของรัฐบาล “บิ๊กตู่” พร้อมส่งคำแนะนำด้วยความหวังดีให้น้องสะใภ้นายกฯลดบทบาทตัวเองลง ให้บริษัทหลานชายนายกฯออกไปหากินประมูลงานนอกพื้นที่กองทัพภาคที่ 3
คำแนะนำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่คนคอยเชียร์ยังรับไม่ค่อยได้
ติ๊ก..ติ๊ก..ติ๊ก.. ไม่ใช่ชื่อเล่นของพล.อ.ปรีชา แต่เป็นเสียงเดินของเข็มนาฬิกา นับถอยหลังระเบิดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำตัดสินของป.ป.ช. ไม่ว่าจะออกหัว ออกก้อยอย่างไรจะสร้างความเสียหายส่งผลกระทบต่อรัฐบาลแน่นอน
You must be logged in to post a comment Login