วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘กุระบาน’มิใช่การบูชายัญ / โดย บรรจง บินกาซัน

On September 26, 2016

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

ในวันอีดุลอัฎฮาซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองแสดงความยินดีให้แก่พี่น้องมุสลิมส่วนหนึ่งจากทั่วโลกที่ได้มีโอกาสไปทำพิธีฮัจญ์ที่เมืองมักก๊ะฮฺ มุสลิมจะมีพิธีกรรมที่แตกต่างไปจากวันอีดุลฟิฏร์หรือวันเฉลิมฉลองการสิ้นสุดเดือนถือศีลอดอย่างหนึ่ง นั่นคือ การเชือดปศุสัตว์ เช่น แพะ แกะ วัว หรืออูฐ คนส่วนใหญ่จึงมักเข้าใจผิดว่าการเชือดสัตว์ดังกล่าวเป็นการบูชายัญ

ความจริงแล้วการบูชายัญคือ การบูชาเทพเจ้าในลัทธิพราหมณ์ ศาสนาพราหมณ์สอนว่า มีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่คอยดลบันดาลให้มนุษย์มีอันเป็นไปต่างๆ หากผู้ใดปรารถนาจะได้พรหรือให้งดการลงโทษจะต้องทำการบูชายัญคือ การฆ่าสัตว์หรือคนตามจำนวนที่พราหมณ์บอก

ลัทธิพราหมณ์เกิดขึ้นมานานก่อนสมัยพุทธกาล นั่นหมายความว่าการบูชายัญมีมานานนับหลายพันปีและยังคงเป็นที่เชื่อถือและปฏิบัติสืบต่อกันมา เช่น การบูชายัญเจ้าแม่กาธิมัยที่ประเทศเนปาล ซึ่งจะทำกันทุก 5 ปี โดยการเชือดสัตว์ เช่น ควาย แพะ หมู ไก่ จำนวน 250,000 ตัว ด้วยความเชื่อว่าจะเป็นการปัดเป่าความชั่วร้ายและนำโชคมาให้ผู้คน เมื่อสัตว์ถูกเชือดเพื่อเซ่นสรวงเจ้าแม่แล้ว เนื้อของสัตว์บูชายัญจะไม่มีใครนำมากิน

ในอินเดียมีการเชือดแพะเพื่อเอาเลือดสดๆไปบูชาเจ้าแม่กาลี ชาวยิวและชาวคริสเตียนในอดีตก็มีความเชื่อและการปฏิบัติในเรื่องการบูชายัญเช่นกัน

ชาวอาหรับก่อนหน้าอิสลามมีการเชือดสัตว์บูชายัญเทวรูปที่ตนเคารพสักการะ เพื่อหวังการคุ้มครองและการได้รับผลประโยชน์ทางวัตถุ เมื่อเชือดสัตว์แล้ว เลือดของสัตว์จะถูกสาดไปบนกำแพงก๊ะอฺบ๊ะฮฺหรือบนเทวรูป ส่วนเนื้อของสัตว์จะถูกปล่อยทิ้งไว้

การเชือดสัตว์พลีในอิสลามมีที่มาจากอับราฮัมหรือนบีอิบรอฮีม บรรพบุรุษทางสายเลือดและความศรัทธาของชาวยิว ชาวคริสเตียน และมุสลิม

คัมภีร์กุรอานเล่าว่า เมื่อพระเจ้าต้องการจะทดสอบว่านบีอิบรอฮีมมีความศรัทธาและเสียสละเพื่อพระองค์มากน้อยเพียงใด คืนหนึ่งพระองค์ได้บัญชานบีอิบรอฮีมในความฝันว่า ให้เขาเชือดอิสมาอีล บุตรคนแรก พลีถวายต่อพระองค์ แต่นบีอิบรอฮีมยังคงลังเลไม่บอกเรื่องนี้แก่ลูกของตัวเอง เมื่อฝันต่อเนื่องกัน 3 คืน นบีอิบรอฮีมจึงได้เล่าความฝันของเขาให้อิสมาอีลฟัง

เมื่ออิสมาอีลได้ยินพ่อบอกเช่นนั้น แทนที่จะตกใจหรือหวาดกลัว เขากลับบอกนบีอิบรอฮีมผู้เป็นพ่อว่า “หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าแล้ว พ่อจงปฏิบัติตามเถิด และพ่อจะพบว่าฉันเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้อดทน”

เมื่ออิสมาอีลเข้าใจและยอมถูกเชือดพลี นบีอิบรอฮีมจึงทำตามคำบัญชาของพระเจ้าด้วยการพาอิสมาอีลไปยังแท่นเชือด แต่ระหว่างทางนบีอิบรอฮีมถูกซาตานมารร้ายคอยดักล่อลวงมิให้เขาทำตามประสงค์ของพระเจ้า เขาจึงเอาหินขว้างมัน แต่ซาตานไม่ละความพยายาม กลับมาอีก 2 ครั้งด้วยคำล่อลวงเดิมๆ แต่ก็ถูกนบีอิบรอฮีมเอาหินขว้างจนมันไม่กลับมาอีก

ต่อมาในสมัยของนบีมุฮัมมัด การขว้างหิน 3 แห่ง ได้ถูกนบีมุฮัมมัดจัดให้เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งสำหรับผู้ทำพิธีฮัจญ์ต้องปฏิบัติเพื่อระลึกถึงการต่อสู้กับมารร้ายของนบีอิบรอฮีม

เมื่อมาถึงแท่นเชือด อิสมาอีลได้บอกนบีอิบรอฮีมว่า “พ่อจงมัดฉันให้แน่น และให้ฉันก้มหน้าและเชือดฉัน” ทั้งนี้ เพื่อที่พ่อจะได้ไม่ลังเลเมื่อสบตาลูกผู้เป็นที่รัก เมื่อนบีอิบรอฮีมเงื้อมีดจะเชือด พระเจ้าทรงเห็นถึงความศรัทธาและความเสียสละของนบีอิบรอฮีม ดังนั้น พระองค์จึงมีบัญชาให้นบีอิบรอฮีมนำแพะมาเชือดแทนอิสมาอีล

หลังจากสมัยของนบีอิบรอฮีม ชาวอาหรับผู้เป็นลูกหลานของนบีอิบรอฮีมได้หลงลืมการปฏิบัติของนบีอิบรอฮีมผู้เป็นบรรพบุรุษของตน ในเทศกาลฮัจญ์ชาวอาหรับจะเชือดสัตว์พลีถวายเทวรูปรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺ และเอาเลือดของสัตว์สาดไปบนกำแพงก๊ะอฺบ๊ะฮฺ

ในสมัยของนบีมุฮัมมัด การเชือดสัตว์ เช่น แพะ แกะ วัว หรืออูฐ ยังคงเป็นที่ปฏิบัติสำหรับมุสลิมที่มีความสามารถพอเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมแห่งความศรัทธาและความเสียสละของนบีอิบรอฮีมกับบุตรชาย แต่มีข้อกำหนดว่าสัตว์ที่จะนำมาเชือดต้องเป็นสัตว์ที่สมบูรณ์ ไม่มีตำหนิหรือพิการ อายุต้องครบ การเชือดต้องมีเจตนาว่าเป็นการพลีถวายให้พระเจ้า และเนื้อของสัตว์จะถูกนำมาแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งของผู้เชือด ส่วนหนึ่งแจกจ่ายแก่ญาติสนิทมิตรสหาย และอีกส่วนหนึ่งสำหรับคนยากจน

พิธีกรรมเชือดสัตว์นี้ถูกเรียกว่า “กุระบาน” ซึ่งในภาษาอาหรับหมายถึงการทำให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าด้วยการเสียสละสิ่งดีๆเพื่อพระองค์


You must be logged in to post a comment Login