วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“GoBear” โชว์ยอดผู้ใช้บริการทะลุ 3.6 ล้านคน

On September 28, 2016

นายศีล นวมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกแบร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวถึงความสำเร็จของ “GoBear” ในครั้งนี้ว่า GoBear ที่มีหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนคือ BCD Group ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของโลก และมีรายได้กว่า 8.3 แสนล้านบาทต่อปีนั้น เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อต้นปี 2558 และได้เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2558 ปัจจุบันเปิดดำเนินการมาครบ 1 ปี และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี กระทั่งสามารถก้าวขึ้นเป็น “Financial Metasearch” ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดถึง 3.6 ล้านคนทั่วประเทศในเวลาเพียง 1 ปี ด้วยจุดเด่นของการเป็นเว็บไซต์แห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการรวบรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์การเงินมากที่สุด และนำเสนอดีลที่ดีที่สุดจากทั้งผู้ให้บริการและโบรกเกอร์ อีกทั้งการออกแบบการใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูภาษาไทย ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว

“GoBear มีจุดเริ่มต้นจากความเข้าใจในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงบริการทุกประเภท รวมถึงการมีอำนาจตัดสินใจเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งกลุ่มบริการที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้นแต่กลับยังไม่เคยมีผู้เล่นเจ้าไหนลุกมาทำตลาดนี้อย่างจริงจัง นั่นคือ บริการด้านการเงิน นี่จึงเป็นที่มาของ GoBear เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์การเงินที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และเข้าใจง่ายมากที่สุด”

โดย นายศีล นวมานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดตัวเว็บไซต์ GoBear ในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นการเปิดตัวที่ถูกที่ถูกเวลา ทั้งการใช้อินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายมากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการที่ต้องเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูล-เปรียบเทียบ-แล้วถึงจะตัดสินใจซื้อ ซึ่งทุกขั้นตอนผู้บริโภคต้องการความเป็นอิสระในการค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา และอิสรภาพในการเลือกบริการที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดให้กับตนเอง ด้วยเหตุนี้ GoBear จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่ทำให้ขั้นตอนการหาข้อมูลและเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ของผลิตภัณฑ์การเงินเป็นไปได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพียงเข้ามาในเว็บไซต์เดียว ตัดปัญหาความยุ่งยากและเสียเวลาจากที่ต้องหาข้อมูลจากหลายๆ เว็บไซต์เช่นในอดีต พร้อมด้วยการมอบดีลพิเศษที่สุดแบบที่หาไม่ได้จากเว็บอื่นๆ ส่งผลให้ภายใน 1 ปี มีผู้ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ GoBear สูงกว่า 3.6 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าภายในสิ้นปี 2559 จะมียอดผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 5 ล้านคนแน่นอน”

GoBear ถือเป็นเว็บไซต์ในกลุ่ม Search Engine ที่มีรูปแบบการบริการที่เน้นเฉพาะ Financial Metasearch ที่รวบรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์การเงินโดยเฉพาะ ครอบคลุม 4 ผลิตภัณฑ์การเงิน ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์, ประกันการเดินทาง, บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีพันธมิตรบริษัทด้านการเงินและ โบรกเกอร์ประกันภัยชั้นนำกว่า 54 ราย และด้วยการวางบทบาทไว้อย่างชัดเจนว่า GoBear ไม่ใช่ โบรกเกอร์ จึงไม่มีการเชียร์ผลิตภัณฑ์ใดๆ เป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าทุกข้อมูลที่นำเสนอจะมีความเป็นกลาง โดยยึดหลักความต้องการและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของผู้บริโภคเป็นหลัก จึงทำให้ข้อเสนอที่หน้าเว็บไซต์ GoBear จึงจะเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเว็บไซต์อื่นๆ นอกจากนี้เว็บไซต์ GoBear ยังได้จัดทำบล็อกเกี่ยวกับบทความที่น่าสนใจทั้งในเชิงไลฟ์สไตล์และเคล็ดลับในการเลือกซื้อประกันหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้บริโภคทั่วไปอีกด้วย

อีกประการหนึ่ง ด้วยฐานลูกค้าผู้ใช้บริการที่มีจำนวนมาก ทำให้ GoBear ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่สำคัญของเหล่าพันธมิตรบริษัทการเงินและโบรกเกอร์ต่างๆ ที่นอกจากจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงผู้ซื้อประกันได้มาก ขึ้นแล้ว ยังจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากการค้นหาของผู้เข้าใช้บริการเว็บไซต์เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย  นอกจากนี้ การที่ GoBear รวบรวมหลากหลายพันธมิตรเข้ามายังเว็บไซต์ GoBear ที่เดียว ทำให้พันธมิตรแต่ละเจ้าเกิดการเปรียบเทียบกันเอง และทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างพันธมิตร ซึ่งสุดท้ายแล้ว แต่ละพันธมิตรจะพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้ดีขึ้น และผู้บริโภคชาวไทยจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์ในท้ายที่สุด

นายศีล ได้เผยถึงทิศทางกลยุทธ์ของ GoBear ในอนาคตว่า “ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเราเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์และสร้างความเข้าใจในจุดเด่นของรูปแบบบริการของ Financial Metasearch ให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยก้าวต่อไปของ GoBear เราจะขยายการให้บริการสู่ผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมและครบวงจรยิ่งขึ้น และสำหรับแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบัน GoBear ดำเนินธุรกิจใน 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศใกล้เคียง อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อน GoBear ให้เป็น Global Brand สำหรับ Financial Metasearch อย่างแท้จริง”


You must be logged in to post a comment Login