วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ระวังแผลติดเชื้อ!

On September 30, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

เข้าตำรา “ยิ่งแก้ยิ่งเละ” สำหรับกรณีปัญหาอันเกิดจากพฤติกรรม “ลูก-เมีย” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม

คนที่ยอมเปลืองตัวล่าสุดคือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาลที่ออกมาการันตีว่าไม่มีข้อกฎหมายใดห้ามใช้บ้านพักทหารจดทะเบียนเป็นที่ทำการนิติบุคคล

ทั้งที่มีระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการพักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2555 ข้อที่ 18.14 ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “ห้ามผู้พักอาศัยประกอบการค้าใดๆในที่พักอาศัย ซึ่งทางราชการมิได้จัดไว้ หรือผู้ปกครองอาคารที่พักอาศัย มิได้อนุญาต”

ยิ่งมีลิ่วล้อทำตัวเป็นแหล่งข่าวออกมาพูดจาผ่านสื่อ แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวตนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโจมตีกันเพื่อหวังผลทางการเมือง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ทางที่ดีหากไม่อยากให้เรื่องถูกขยายความใหญ่โตและส่งผลกระทบต่อรัฐบาลมากไปกว่านี้ควรเดินตามแนวทาง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือไม่ตอบคำถาม ไม่ออกความเห็น โยนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน

หากยังไม่หยุดดิ้น หยุดแถ จะมีแผลถลอกมากกว่านี้แน่นอน และแผลถลอกที่ว่าแม้ไม่สร้างความเจ็บปวดมาก แต่สร้างความรำคาญ หากถลอกมากๆ อาจเกิดเป็นแผลติดเชื้อได้

จะเห็นได้ว่าในขณะนี้ ไม่เพียงแต่ฝ่ายที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเท่านั้นที่พูดเรื่องความไม่ถูกต้อง ความไม่เหมาะสม แต่คนที่จัดว่าเป็นฝ่ายเดียวกันหลายคนก็เริ่มออกมาแสดงความเห็นถึงความไม่ถูกต้อง ความไม่เหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าต่อต้านคนโกง ก็ต้องต่อต้านทุกคนที่โกง

ถ้าต่อต้านคนเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ก็ต้องต่อต้านทุกคนที่เอื้อประโยชน์พวกพ้อง

ถ้าต่อต้านคนใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ ก็ต้องต่อต้านทุกคนที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์

เป็นกระแสที่เริ่มจุดติด และมีคนพูดจาทำนองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเป็นมวยแม้จะยังยืนอยู่ได้ แต่บาดแผลตามร่างกายเพราะถูกหมัดแย็บฝ่ายตรงข้ามเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

จากที่กรรมการคอยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ มองไม่เห็นอาวุธที่ฝ่ายตรงข้ามชกใส่ แต่หากออกอาการมากไปกว่านี้ อาวุธที่ฝ่ายตรงข้ามออกก็จะเข้าตากรรมการได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลต่อเสียงเชียร์ข้างเวทีด้วย

“ท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะพี่ชายได้โทรศัพท์มาหา และเตือนให้ระวังตัว ซึ่งผู้ใหญ่บอกให้เงียบๆไม่ต้องชี้แจงอะไร”

คำแนะนำที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีต่อ พล.อ.ปรีชา ตั้งแต่เกิดเรื่องฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา ยังไม่มีประเด็นหจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่นของบุตรชาย

หากทำตามกันแต่แรก เรื่องคงไม่ถูกขยายจนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเหมือนปัจจุบัน

ถึงตอนนี้แม้อยากจะเงียบแต่ก็คงเงียบไม่ได้แล้ว

ถ้าใช้วิธีนิ่งไม่ดิ้นมาก แม้จะบอบช้ำแต่คงไม่ถึงกับแพ้ เพราะด้วยอำนาจที่มีกรรมการย่อมเกรงใจ

แต่ยิ่งมาพูดว่าใครไม่ยอมรับคำตัดสิน ไม่เคารพกระบวนการตรวจสอบ ไม่เคารพในผลที่จะออกมา ให้ไปอยู่ที่อื่น แทนที่เรื่องจะซากลับยิ่งจะไปกันใหญ่ เพราะทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองอย่างสงสัยว่าจะมีการล็อกผลการแข่งขันหรือไม่

ถ้าเป็นการเมืองปรกติป่านนี้เสียงตะโกน “ออกไป” คงดังลั่นถนนแล้ว


You must be logged in to post a comment Login