- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
แค่เรื่องธุรกิจ!? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน
คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน
รัฐประหารยึดอำนาจมา 2 ปี เรามีรัฐบาลรัฏฐาธิปัตย์ที่เป็นทหารล้วนๆ ก่อนจะมีทีมเอกชน อดีตนักการเมือง และข้าราชการเกษียณเข้าไปเสริม บ้านเมืองเป็นยังไงก็เห็นกับตา ได้ยินกับหู ได้เจอและสัมผัสกับตัวเอง ทั้งชีวิตประจำวัน ชีวิตของเพื่อนร่วมสถาบัน ร่วมธุรกิจ ร่วมครอบครัว ร่วมฝักฝ่ายสีที่เลือก
สารพัดปัญหาทั้งเก่าที่ยังดำรงอยู่ให้รัฐบาลทหารที่ประกาศว่าเพราะพวก “นักการเมือง” ทำไม่ได้ พวกเราจึงต้องเข้ามาทำ ได้พิสูจน์ตัวเอง ไม่นับปัญหาใหม่ที่คนไทยทั้งประเทศต้องเผชิญ
เอาว่าตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ นักการเมืองถูกตั้งเป้าให้เป็นกลุ่มที่ต้องถูกจำกัดพื้นที่ ไม่ให้ขยายกลายพันธุ์ โดยเฉพาะตระกูล “ชินวัตร” กลายเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องเอาให้ตายไปจากบริบททางการเมือง
เสื้อแดงหงอยและง่อยกิน ไม่ว่าจะด้วยความผิดพลาดเรื่องอะไร ทั้งยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ยันแกนนำและแนวคิดที่สุดโต่ง แต่ที่น่าประหลาดใจกลับเป็นการเติบโตทางความคิดของ “คนรุ่นใหม่” และบรรดา “คนชายขอบ” ในระดับรากหญ้าและชนบทที่ตื่นตัวชนิดพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กลายเป็นตัวตลกของประวัติศาสตร์การเมืองและสงครามปลดปล่อย เพราะสมาชิก พคท. เกือบหมดพรรค วันนี้กลายเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ราชานิยม และเห็นดีเห็นงามกับรัฐประหาร อำนาจรัฏฐาธิปัตย์บนปลายกระบอกปืน
ไม่ว่าทุนนิยมสามานย์ นักการเมืองและพรรคการเมือง กลุ่มทุนระดับชาติ ชนชั้นนำและชั้นสูงที่ยึดกุมความได้เปรียบทั้งในระดับโครงสร้างและระดับฐานราก ตลอดจนระดับปฏิบัติงานในองคาพยพของสังคมไทย ต่างถูกสถานการณ์ในระยะ 2 ปี จับแก้ผ้าหรือเปิดเผยกันแบบล่อนจ้อน เอาเข้าจริงๆหรือถึงที่สุดทุกกลุ่มล้วนกระทำและดำเนินการทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มและพวกพ้องตัวเองเป็นหลัก
ในขณะที่ทหารและรัฏฐาธิปัตย์เน้นชัดเจนในทุกกระบวนท่าที่จะทำให้ตระกูล “ชินวัตร” หมดอำนาจบนเส้นทางการเมืองแบบก้าวข้ามไม่พ้น เอาเข้าจริงๆแล้ว 2 ปีที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่ารัฏฐาธิปัตย์ทำได้แค่พยายามทำลายสัญลักษณ์ของกลุ่มทุนที่ “กินรวบ” ไม่ “กินแบ่ง” แค่นั้นเอง
เพราะกลุ่มทุนที่ผงาดและเปิดตัวออกมาเอาด้วยกับทหารล้วนเป็นกลุ่มทุนระดับชาติที่ใหญ่และมีธุรกิจระดับชาติและข้ามชาติ ทั้งระดับเสมอและใหญ่กว่าตระกูลชินวัตร เพียงแต่กลุ่มทุนเหล่านี้ไม่เปิดตัวและเปิดหน้ามาเล่นการเมือง สมาชิกในตระกูลหรือตัวแทนที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนของกลุ่ม
ประชาชนกลายเป็น “เบี้ย“ ให้บรรดา “บิ๊กบราเธอร์” ไม่ว่าจะกลุ่มไหน พวกใคร สถาบันไหน ทุกหมู่เหล่า รวมถึงที่ยังยืนหยัดชัดเจนไม่เอารัฐประหารและต้องการประชาธิปไตยในระบบเลือกตั้งและพรรคการเมือง น่าจะได้รับคำตอบและผลพวงของรัฏฐาธิปัตย์กันไปเต็มๆแบบ “ข้อเสนอที่สายเสียแล้วที่จะปฏิเสธ” ก็เพราะเชิญเขามาเอง…ฮา
การประมูลงานในกองทัพของบริษัทลูกชาย “บิ๊กกลาโหม” น้องชาย “ท่านผู้นำ” น่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็น “เรื่องส่วนตัว” หรือแค่ “เรื่องธุรกิจ” ก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะกรณีคนใน “เจียไต๋” ทำ “อินไซเดอร์” ในตลาดหุ้น การบุกรุกป่าชายเลน กรณี “อมเรศ ศิลาอ่อน” ที่มีคำตัดสินปรับแค่ 20,000 บาท และโทษรอลงอาญา กับกรณี “หมอเลี้ยบ” ต้องเข้าคุก ยันกรณีจะยึดทรัพย์อดีตนายกฯหญิง
ถ้ากรณี “ลูกชาย” นายทหารใหญ่ คำตอบคือไม่มีผู้กระทำความผิด ก็ขอให้สนุกสนานกันไปสำหรับประเทศไทยที่ทุกเรื่องก็แค่เรื่องธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ให้เปลี่ยนผ่านกลับไปกลับมาอีกกี่รอบก็ตาม
You must be logged in to post a comment Login