- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 23 hours ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
สิงคโปร์พัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ / โดย กองบรรณาธิการ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2016/10/4422e.jpg)
คอลัมน์ : รายงาน
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาข้าวพันธุ์แรกของประเทศ เป็นข้าวหอมพันธุ์ใหม่ ทนแล้ง ทนน้ำท่วม และทนต่อโรค ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวทั่วไป 4 เท่า ผลิตจำหน่ายประเดิมลอตแรก เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ข้าวพันธุ์ใหม่ดังกล่าว คือ ข้าวหอมเทมาเสค (Temasek Rice) เป็นข้าวพันธุ์แรกและพันธุ์เดียวในปัจจุบันที่พัฒนาโดยชาวสิงคโปร์ เป็นผลงานของทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติแห่งศูนย์วิจัย Temasek Life Sciences Laboratory (TLL) นำโดยด็อกเตอร์หยิน จงเฉา (Yin Zhongchao)
ศูนย์วิจัย TLL เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University) มีสำนักงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
สำหรับข้าวเทมาเสค ทีมผู้เชี่ยวชาญเจ้าของผลงานระบุว่า เป็นข้าวธรรมชาติ 100% ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) พัฒนาจากพันธุ์ข้าวหอมมะลิผสมกับข้าวอื่นๆอีก 5 พันธุ์ นำไปปลูกยังแปลงทดลองที่ประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาทดลองปลูกกว่า 8 ปี จึงประสบความสำเร็จ
คุณสมบัติเด่นของข้าวน้องใหม่พันธุ์นี้ คือเป็นข้าวคุณภาพดี กลิ่นหอม นุ่มอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งใยอาหาร ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส อีกทั้งปลอดคอเลสเตอรอลและโซเดียม
ส่วนคุณสมบัติทางกายภาพ ประกอบด้วยการทนแล้ง สามารถปลูกในพื้นที่มีน้ำน้อยได้ ทนน้ำท่วม สามารถแช่น้ำได้นาน 2 สัปดาห์ อีกทั้งทนต่อโรคศัตรูพืชประเภทแบคทีเรียและเชื้อรา ลำต้นล่ำเตี้ยแข็งแรง ทนต่อกระแสลมแรงได้ดีไม่ล้มง่าย
ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ ให้ผลผลิตสูง เฉลี่ยไร่ละ 1 ตัน มากกว่าข้าวโดยทั่วไปถึง 4 เท่า
ด็อกเตอร์หยินระบุว่า การพัฒนาข้าวเทมาเสคขึ้นมา มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค สร้างพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศแปรปรวนเหตุจากภาวะโลกร้อน และเพื่อให้เกษตรกรมีข้าวคุณภาพดีจำหน่ายได้ราคางาม
สำหรับข้าวที่ผลิตจำหน่ายลอตแรกมีไม่มากนัก โดยผลิตเป็นข้าวกล้อง จัดทำเป็นถุงละ 1 กิโลกรัม ราคาถุงละ 6.95 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 180 บาท) ซึ่งถือว่าไม่แพง ตอนนี้มีขายในซูเปอร์มาร์เกต Meidi-Ya เพียงแห่งเดียว
แม้จะบรรยายคุณสมบัติของข้าวรุ่นแรกไว้อย่างดีเลิศ แต่ด็อกเตอร์หยินระบุว่ายังคงต้องพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป เพื่อให้ได้ข้าวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีแผนขยายพื้นที่ปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตสู่ระดับเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบต่อไป
You must be logged in to post a comment Login