- ปีดับคนดังPosted 17 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
สิงคโปร์พัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ / โดย กองบรรณาธิการ
คอลัมน์ : รายงาน
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาข้าวพันธุ์แรกของประเทศ เป็นข้าวหอมพันธุ์ใหม่ ทนแล้ง ทนน้ำท่วม และทนต่อโรค ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวทั่วไป 4 เท่า ผลิตจำหน่ายประเดิมลอตแรก เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ข้าวพันธุ์ใหม่ดังกล่าว คือ ข้าวหอมเทมาเสค (Temasek Rice) เป็นข้าวพันธุ์แรกและพันธุ์เดียวในปัจจุบันที่พัฒนาโดยชาวสิงคโปร์ เป็นผลงานของทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติแห่งศูนย์วิจัย Temasek Life Sciences Laboratory (TLL) นำโดยด็อกเตอร์หยิน จงเฉา (Yin Zhongchao)
ศูนย์วิจัย TLL เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University) มีสำนักงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
สำหรับข้าวเทมาเสค ทีมผู้เชี่ยวชาญเจ้าของผลงานระบุว่า เป็นข้าวธรรมชาติ 100% ไม่ใช่ข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) พัฒนาจากพันธุ์ข้าวหอมมะลิผสมกับข้าวอื่นๆอีก 5 พันธุ์ นำไปปลูกยังแปลงทดลองที่ประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาทดลองปลูกกว่า 8 ปี จึงประสบความสำเร็จ
คุณสมบัติเด่นของข้าวน้องใหม่พันธุ์นี้ คือเป็นข้าวคุณภาพดี กลิ่นหอม นุ่มอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งใยอาหาร ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส อีกทั้งปลอดคอเลสเตอรอลและโซเดียม
ส่วนคุณสมบัติทางกายภาพ ประกอบด้วยการทนแล้ง สามารถปลูกในพื้นที่มีน้ำน้อยได้ ทนน้ำท่วม สามารถแช่น้ำได้นาน 2 สัปดาห์ อีกทั้งทนต่อโรคศัตรูพืชประเภทแบคทีเรียและเชื้อรา ลำต้นล่ำเตี้ยแข็งแรง ทนต่อกระแสลมแรงได้ดีไม่ล้มง่าย
ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ ให้ผลผลิตสูง เฉลี่ยไร่ละ 1 ตัน มากกว่าข้าวโดยทั่วไปถึง 4 เท่า
ด็อกเตอร์หยินระบุว่า การพัฒนาข้าวเทมาเสคขึ้นมา มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค สร้างพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศแปรปรวนเหตุจากภาวะโลกร้อน และเพื่อให้เกษตรกรมีข้าวคุณภาพดีจำหน่ายได้ราคางาม
สำหรับข้าวที่ผลิตจำหน่ายลอตแรกมีไม่มากนัก โดยผลิตเป็นข้าวกล้อง จัดทำเป็นถุงละ 1 กิโลกรัม ราคาถุงละ 6.95 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 180 บาท) ซึ่งถือว่าไม่แพง ตอนนี้มีขายในซูเปอร์มาร์เกต Meidi-Ya เพียงแห่งเดียว
แม้จะบรรยายคุณสมบัติของข้าวรุ่นแรกไว้อย่างดีเลิศ แต่ด็อกเตอร์หยินระบุว่ายังคงต้องพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป เพื่อให้ได้ข้าวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีแผนขยายพื้นที่ปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตสู่ระดับเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบต่อไป
You must be logged in to post a comment Login