- ปีดับคนดังPosted 11 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
‘โอสึมิ’ยอดนักวิจัยรางวัลโนเบล / โดย กองบรรณาธิการ
คอลัมน์ : รายงาน
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
ผลงานการค้นพบที่สำคัญ ซึ่งจุดประกายแห่งความหวังด้านการรักษาโรคร้าย ช่วยให้ด็อกเตอร์โยชิโนริ โอสึมิ นักชีววิทยาชาวญี่ปุ่น สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลโนเบล สาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์ ประจำปี 2016
ดร.โยชิโนริ โอสึมิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์แห่งฟุกุโอกะ วัย 71 ปี เป็นชาวญี่ปุ่นคนที่ 6 ที่คว้ารางวัลโนเบล ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดของโลก
ปัจจุบัน โอสึมิเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ (Honorary Professor) และประธานคณะวิจัยประจำศูนย์วิจัยนวัตกรรม แห่งสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว (Tokyo Institute of Technology)
โอสึมิสร้างมิติใหม่ขึ้นในวงการชีววิทยา จากผลงานการค้นพบกลไกการกินตัวเองของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันร่างกายมนุษย์ (Autophagy)
นักชีววิทยาชั้นนำของโลกต่างยกย่องผลงานนี้ และมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การพบวิธีรักษาโรคร้ายที่ยังไม่สามารถรักษาได้ในปัจจุบัน
ต่อมาในปีนี้ ผลงานดังกล่าวก็ชนะใจคณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์
โอสึมิใช้เวลาวิจัยเรื่องนี้ 5 ปี เริ่มจากปี 1988 และสรุปจัดทำเป็นหนังสือวิจัยในปี 1993
ประเด็นสำคัญของการค้นพบ คือพบยีนที่เป็นตัวควบคุมกระบวนการกินตัวเองของเซลล์ หมายถึงการกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเกิดจากการมีอายุมากขึ้น เพื่อไม่ให้เซลล์ดังกล่าวกลายเป็นตัวก่อเชื้อโรคร้ายในร่างกาย
นอกจากนั้น ยังพบกระบวนการฟื้นฟูเซลล์เสื่อมบางส่วนให้กลับมาทำงานตามปรกติได้
อีกประเด็นสำคัญคือพบว่า หากกระบวนการนี้ชะงัก หรือไม่ทำงาน จำนวน “ของเสีย” คือเซลล์เสื่อมสภาพ จะสะสมอยู่ในร่างกาย ยิ่งชะงักนานจำนวนของเสียก็ยิ่งมากขึ้น ก่อให้เกิดโรคอันตรายต่างๆตามมา เช่น โรคมะเร็ง โรคระบบประสาท พาร์คินสัน และโรคเบาหวาน เป็นต้น
การคว้ารางวัลโนเบลของโอสึมิ สร้างความภาคภูมิใจให้ชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ โทรศัพท์แสดงความยินดีกับโอสึมิ โดยบอกว่ารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะเป็นชาวญี่ปุ่น และเห็นญี่ปุ่นสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับโลกได้
ผู้นำญี่ปุ่นเชื่อว่า การค้นพบของโอสึมิจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเครื่องมือให้นักวิจัยนานาชาติสามารนำไปต่อยอด หาแนวทางรักษาโรคตามที่ระบุต่อไปในอนาคต
นั่นหมายถึง เป็นการค้นพบที่สร้างความหวังว่า มนุษย์จะสามารถเอาชนะโรคร้ายได้ในที่สุด แม้ตอนนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความหวังก็ตาม
You must be logged in to post a comment Login