- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ไม่ถึงจุดเปลี่ยน?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ทิศทางการเมืองสัปดาห์นี้ ต้นสัปดาห์วันที่ 11 ตุลาคม 2559 ครบกำหนดที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ จะต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ผ่านการปรับแก้ตามคำแนะของศาลรัฐธรรมนูญแล้วให้ถึงมือของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ
จากนี้อีกไม่นานหากโปรดเกล้าฯลงมา รัฐธรรมนูญใหม่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ แต่อำนาจต่างๆของหัวหน้า คสช.ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะยังมีต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง
อำนาจที่ว่ารวมถึงอำนาจตามมาตรา 44 ที่ยังใช้ได้ตามปรกติ แม้จะมีคนติงว่าเมื่อรัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว ตามมารยาทการใช้อำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญใหม่ควรจะลดน้อยลง หรือไม่ใช้เลยยิ่งดี
โดยเฉพาะอำนาจออกพระราชกฤษฎีกายุบสภาจากการเลือกตั้งหากมีปัญหาไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่ไปใช้อำนาจยุบสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่น่าจะเหมาะสม
ถัดจากเรื่องรัฐธรรมนูญสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามต่อกับทริปฮาวายหรรษาของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะมีใครเปิดประเด็นอะไรใหม่ๆเพิ่มเติมอีกหรือไม่
แต่ดูตามหน้าเสื่อแล้วเรื่องนี้ดูท่ามีแนวโน้มจะค่อยๆเงียบไปเหมือนหลายเรื่องที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จะเงียบอย่างที่ต้องการ แต่ก็ได้ฝากรอยช้ำเอาไว้ให้กับรัฐบาลทหาร คสช.มากพอสมควร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องกักตัว นายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง ที่ทางการไทยไม่ยอมให้เข้าร่วมงานรำลึก 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งกรณีนี้น่าจะเป็นกระแสไปถึงงานระลึกเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
ในวันที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเคว้งคว้าง คำกล่าวปาฐกถาหัวข้อ “การเมืองของคนรุ่นใหม่” ผ่านระบบสไกป์ ของนายโจชัว หว่อง สามารถปลุกจิตวิญาณการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
นายโจชัว หว่อง บอกเล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้ที่เริ่มต้นในปี 2012 จนมาถึงการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่มีตัวแทนพรรคเดโมซิสโต ของคนรุ่นใหม่ชนะเลือกตั้ง ได้ 1 ที่นั่งในสภา การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหน แต่ต้องอดทนและไม่ย่อท้อ
คำกล่าวของนักต่อสู้รุ่นใหม่จากฮ่องกงคงเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจนักต่อสู่เพื่อประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่พักหลังบทบาทการเรียกร้องประชาธิปไตยเริ่มลดน้อยลง
สรุปทิศทางการเมืองสัปดาห์นี้ เรื่องทริปฮาวายหรรษาจะเบาบางลงหากไม่มีประเด็นใหม่ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา โรดแม็ปเดินสู่การเลือกตั้ง การออกกฎหมายลูกน่าจะกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งหลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ถูกส่งถึงมือ “บิ๊กตู่”
สุดท้ายการพูดถึงความรุนแรงทางการเมือง การสรุปบทเรียนในอดีตและบรรยากาศของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะถูกต่อยอดจากงานรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา มาถึงงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลา ซึ่งคงปลุกเลือดนักสู้ในหัวใจใครหลายคนให้คุกรุ่นขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่คงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากไปกว่านี้
ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหาร คสช.ใช้หลักอดทนรอ ถ้ามีแผลอะไรก็ตอกย้ำสะกิดให้อักเสบระบมไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้แผลแห้งตกสะเก็ด ทำลายความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจ
ถ้าไม่มีอะไรเป็นประเด็นใหญ่พอที่จะใช้เปลี่ยนแปลงได้ก็รอไปจนถึงวันเลือกตั้ง
รอดูอีกทีก็วันนัดหมายชุมนุมปิดล้อมทำเนียบของกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินช่วงสิ้นเดือนว่าจะเป็นชนวนให้เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โดยใช้ประเด็นอื่นๆขยายแนวร่วมได้หรือไม่
You must be logged in to post a comment Login