- ปีดับคนดังPosted 4 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
จุดยืนที่พึงมี! / โดย ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
คอลัมน์ : พลังชีวิต
ผู้เขียน : ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
คนเรามีทั้งด้านบวกและลบในตัวเอง หากด้านลบใดเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีก็ต้องมี หรือด้านบวกใดหากเป็นสิ่งเกินความจำเป็นก็ต้องลดลง ตัวอย่างเช่น การให้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งด้านบวก และการไม่ให้หรือการปฏิเสธดูจะเป็นสิ่งด้านลบ
แต่บางครั้งเราอาจต้องลดหรือหยุดการให้ลงบ้างหากการให้นั้นจะนำไปสู่ผลเสียหายที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจมีคนบางคนที่คิดเอาแต่ได้ และฉวยโอกาสเอาเปรียบคนที่ใจกว้าง โดยเรียกร้องจะเอาโน่นเอานี่ตลอดเวลา ผลคือ ยิ่งให้ก็ยิ่งทำให้ผู้รับนั้นเสียคน เสียนิสัยอย่างไม่ควร ดังนั้น หากเราจะเป็นผู้ให้จงให้อย่างรู้จักแยกแยะ อย่ายอมปล่อยให้ผู้ใดใช้เราเป็นกระเป๋าสตางค์ หรือเป็นแหล่งโลหิตให้เขา (หลอก) สูบออกจากชีวิตของเราจนเราปางตาย
ความรักก็เช่นกัน เราต้องระวังตัวไม่ปล่อยให้ผู้ใดเอาความรักของเราไปย่ำยี หรือปฏิบัติต่อหัวใจของเราอย่างไร้ความปรานีจนเสียนิสัย เพราะหากเราปล่อยให้เขากระทำเช่นนั้นต่อเราอย่างไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ผลสุดท้ายหัวใจของเราก็ฟกช้ำและดูไร้ค่าในสายตาของผู้ที่รับความรักจากใจของเรา และถือว่าเราเป็นของตายของเขาไปแล้ว
เราจึงต้องระมัดระวังในการไว้วางใจผู้หนึ่งผู้ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมอบทุกอย่างที่เรามี รวมทั้งชีวิต ความรัก และทรัพย์สินสิ่งของ ไว้ให้อยู่ในการดูแลของเขาด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะความไร้เดียงสาของเราอาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเอาเปรียบหลอกลวง โกง หรือทำลายความไว้วางใจของเราไปอย่างแสนเจ็บปวด ดังนั้น จงไว้วางใจ แต่อย่าไร้เดียงสาเกินไป
ในทำนองเดียวกัน เราต้องเปิดใจ เปิดหูรับฟังความคิดความเห็น ความรู้สึก และความต้องการของผู้อื่นอยู่เสมอ แต่เราก็ต้องมีจุดยืนว่า เราจะไม่ยอมเสียสิทธิในการพูดเพียงเพราะเราเต็มใจรับฟังเขา และมองเห็นว่าหากพูดไปไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไรมาก เราก็เลยเลือกนิ่งเงียบ
อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ปล่อยให้เขาตีความว่า การนิ่งเงียบของเราก็คือการยอมรับทุกอย่างที่เขาพูด
ดังนั้น บางครั้งเพื่อไม่ให้เกิดการทึกทักเอาว่าการเงียบของเราคือการเห็นด้วยกับที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดหรือเขียน เราจึงต้องใช้สิทธิอันควรของเราในการพูดหรือเขียนอธิบายชี้แจงให้เขาเข้าใจข้อเท็จจริง โดยไม่พยายามที่จะปกป้องตัวเองอย่างเกินเหตุ
จึงสรุปได้ว่า สิ่งที่เราควรทำอย่างยิ่งก็คือ “จงให้ แต่อย่าปล่อยให้ใครเอาเปรียบ จงรัก แต่อย่าปล่อยให้ใครใช้ความรักนั้นไปในทางผิด จงวางใจ แต่อย่าปล่อยให้ใครหลอกลวงเรา จงฟัง แต่อย่าปล่อยให้ใครทึกทักว่าเราเห็นด้วยทุกอย่าง”
เช่นกัน หวังว่าคุณจะพูดเมื่อถึงเวลาต้องพูด และไม่พูดทุกครั้งเมื่อถูกขอให้พูดหากเราไม่มีอะไรจะพูด โดยถือว่านี่คือจุดยืนของคุณ เห็นด้วยไหมครับ?
You must be logged in to post a comment Login