วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แก๊งแม่เสือสาว / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On October 17, 2016

คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

คนร้ายรวมตัวกันตั้งแก๊งก่ออาชญากรรม ทะเลาะวิวาท ปล้น แบล็กเมล์ และสิ่งที่ถนัดที่สุดคือลักขโมยสินค้าในห้าง ตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ตลอดจนถึงเพชรพลอย ซึ่งสมาชิกแก๊งทั้งหมด 40 คนล้วนแต่เป็นหญิงสาว

ทศวรรษที่ 1920 กรุงลอนดอนต้องเผชิญกับกลุ่มอาชญากรขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกร่วมขบวนการไม่น้อยกว่า 40 คน 3 ใน 4 ของสมาชิกเป็นหญิงสาวร่างใหญ่ มีส่วนสูงราว 180 ซม. ส่วนที่เหลือเป็นสาวรูปร่างบอบบาง

พวกเธอสวมเสื้อผ้าทันสมัย แต่งกายภูมิฐาน ภายใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่มีกระเป๋าลับสำหรับซ่อนสิ่งของที่ลักขโมยมาได้ และไม่ใช่กระเป๋าลับใบเล็กๆ แต่ใหญ่พอที่จะซ่อนเสื้อขนสัตว์ราคาแพงได้ครั้งละหลายตัว

ไม่ต้องแปลกใจ เพราะแฟชั่นในยุคนั้นสาวๆนิยมสวมกระโปรงแบบมีโครงลวดดันให้กระโปรงโป่งพอง จึงง่ายต่อการซุกซ่อนสิ่งของ จากบันทึกการจับกุมพบว่าครั้งหนึ่งตำรวจเคยพบสิ่งของที่ขโมยมาซ่อนอยู่ในกระเป๋าลับใต้กระโปรงมากถึง 40 ชิ้น

การแต่งกายภูมิฐานประกอบกับบุคลิกที่ดีทำให้พวกเธอสามารถเดินเข้าไปในร้านขายสินค้าระดับไฮโซได้โดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต แม้จะมีหลายครั้งที่ถูกตำรวจจับ แต่พวกเธอก็รอดคุกมาได้เพราะหัวหน้าแก๊งวางแผนการจัดการอย่างเป็นระบบ

แก๊งช้าง 40 ตัว

แก๊งป่วนเมืองแก๊งนี้รู้จักกันในชื่อ Forty Elephants ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะพวกเธอพักอาศัยอยู่ใกล้กับเขต Elephant And Castle ขณะที่บางคนให้ความเห็นติดตลกว่าเป็นเพราะสมาชิกแก๊งส่วนใหญ่มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนช้าง

พวกเธอไม่ได้ออกปฏิบัติการพร้อมกัน 40 คนในคราวเดียว แต่จะแยกกันทำงานเป็นกลุ่มย่อยๆสถานที่ละไม่เกิน 3 คน เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต โดยคนแรกจะทำทีขอลองเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ สักพักคนที่สองก็จะเข้ามาเลือกหาสินค้าแล้วถามโน่นถามนี่ไปเรื่อยๆ

พอพนักงานขายเริ่มยุ่งมากๆ คนที่สามก็เข้ามาเดินโฉบแล้วรีบหยิบสินค้าที่หมายตาเอาไว้ยัดใส่กระเป๋าลับใต้กระโปรงก่อนจะรีบเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

บางครั้งพวกเธอก็ถูกจับได้ แต่พวกเธอก็นำมันกลับมาใช้เป็นประโยชน์ โดยให้คนที่เคยถูกสงสัยว่าเป็นหัวขโมยเข้าไปในร้านก่อน พนักงานขายจะจับตามองแบบไม่กะพริบตาเลยทีเดียว เรียกวิธีการนี้ว่า “นางนกต่อ” ทำให้พนักงานขายไม่ได้สนใจลูกค้าคนที่สองหรือสามที่เพิ่งเดินเข้ามา โดยหารู้ไม่ว่าเป็นพวกเดียวกัน

เกิดมาเป็นโจร

อลิซ ไดมอนด์ เกิดในสถานสงเคราะห์แลมเบธเมื่อปี 1896 พ่อของเธอไร้การศึกษาและเป็นคนก้าวร้าว เขาถูกตำรวจจับเข้าคุกหลายครั้งในข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและลักขโมย

ปี 1913 อลิซอายุได้ 17 ปี ก็ได้ลิ้มชิมรสการติดคุกเป็นครั้งแรกจากการขโมยเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า ความต้องการของวัยรุ่นมีมากกว่าแค่การมีอาหารและที่พัก เธอต้องการแต่งตัวสวยๆด้วยเช่นกัน

สำหรับผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและไม่มีชาติตระกูล ทางเลือกในการหารายได้มีน้อยเต็มที อย่างแรกคือเป็นแม่บ้านที่มีรายได้แค่เพียงพอให้รอดตายไปวันๆ อย่างที่สองคือขายตัวซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย และอย่างสุดท้ายคือเป็นโจร ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกจับโยนเข้าคุก

อลิซเลือกทางเดินสุดท้ายเพราะคิดว่าเธอฉลาดพอที่จะไม่ถูกตำรวจจับ เมื่ออายุได้ 20 ปี เธอฝึกฝนเลียนแบบพวกไฮโซจากภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การวางท่าทาง และการพูดจา จนทำได้แนบเนียนเป็นธรรมชาติ

หลังจากนั้นอลิซก็เข้าร่วมแก๊งกับกลุ่มโจรที่เชื่อว่าเป็นแก๊ง Elephant And Castle และต่อมาในปี 1918 เธอก็แยกตัวออกมาตั้งแก๊งของเธอเองซึ่งในเวลาต่อมาคือแก๊ง Forty Elephants

สมุนมือขวา

ปี 1912 อัลเฟรด ฮิวส์ คนร้ายตัวเอ้ของกรุงลอนดอน แต่งงานกับสาวน้อยหน้าใสและขี้อายชื่อ มาร์กาเร็ต ฮิลล์ แต่ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นเท่าไรนัก พวกเขามีเรื่องระหองระแหงถึงขั้นตบตีกันบ่อยครั้ง ในที่สุดมาร์กาเร็ตก็ถึงขีดจำกัด เธอคว้ามีดโกนปาดสามีเป็นแผลฉกรรจ์ถึงขั้นต้องส่งตัวไปเย็บบาดแผลที่โรงพยาบาล

มาร์กาเร็ตเจรจายอมความโดยเสนอเงินเก็บก้อนหนึ่งที่เธอมีแลกกับการหย่าร้าง และสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายอีกตลอดชีวิต หลังจากนั้นก็มาขออยู่ก๊วนเดียวกันกับอลิซ

แม้ว่าแก๊ง Forty Elephants จะมีแต่ผู้หญิงล้วนๆ แต่อลิซก็ติดต่อมือปืนผู้ชาย 6 คน เอาไว้ใช้งานเป็นครั้งคราวในกรณีที่มีงานที่ผู้หญิงทำไม่ได้ และไม่ยอมให้มีผู้ชายเข้ามาเป็นสมาชิกแก๊งหรือแม้แต่มีความสัมพันธ์กับสมาชิกแก๊งโดยเด็ดขาด ถือเป็นสัตยาบันที่สมาชิกทุกคนต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด เพราะอลิซและมาร์กาเร็ตเชื่อว่าผู้ชายจะสร้างความสั่นคลอนให้กับองค์กร

ผิดคำสัญญา

ปี 1925 มาเรีย บริตเทน หนึ่งในสมาชิกแก๊ง ตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งชื่อแจ็คสัน เธอรู้ดีว่าอลิซและมาร์กาเร็ตต้องไม่ยินยอมให้พวกเธอแต่งงานกันแน่ๆ จึงขอให้บิลซึ่งเป็นพ่อของเธอช่วยไปเจรจากับอลิซให้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ

ทันทีที่รู้ที่มาที่ไปอลิซก็กระโจนเข้าทำร้ายมาเรีย ขณะที่มาร์กาเร็ตคว้ามีดโกนโถมเข้าใส่บิล บิลและมาเรียหนีรอดออกมาได้อย่างเฉียดฉิว มาเรียจูงมือแจ็คสันเข้าพิธีแต่งงานโดยไม่สนใจสัตยาบันที่เคยให้ไว้

2 วันต่อมา อลิซรวบรวมสมัครพรรคพวกมุ่งหน้าไปที่บ้านของบิล ใช้ก้อนหินและขวดขว้างปาหน้าต่างจนแตกกระจาย แต่ยังไม่ยุติเพียงแค่นั้น พวกเธอปีนเข้าบ้านทางรอยแตกบนหน้าต่าง มุ่งตรงไปที่ห้องนอน

ภรรยาของบิลนอนกอดลูกที่ยังเป็นทารกด้วยความหวาดกลัว อลิซลากตัวเธอลงจากเตียงเพื่อค้นหาบิล แต่ไม่พบเพราะเขาพาลูกชายอีกคนไปซ่อนตัวอยู่ใต้บันได

อลิซค้นทั่วบ้านจนพบตัวบิล บังคับให้เขาขึ้นไปที่ชั้นบน จากนั้นสมาชิกแก๊งก็ช่วยกันยำเท้าจนบิลและลูกชายหมดสติ ขณะเดียวกันตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุเดินทางมาถึง เกิดการต่อสู้กัน ในที่สุดตำรวจก็รวบตัวผู้ก่อเหตุได้จำนวนหนึ่ง

อวสานแก๊ง

บิลถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เขาได้รับบาดเจ็บมีแผลแตกหลายแห่ง หมอเย็บแผลให้ 20 เข็ม ผู้ก่อเหตุถูกนำตัวขึ้นศาล เป็นคดีที่มีคนติดตามมากที่สุดคดีหนึ่งในรอบหลายปี เพราะประชาชนเชื่อว่าจะมีการขยายผลจากคดีบุกรุกและทำร้ายร่างกายไปสู่คดีลักขโมย แบล็กเมล์ และคดีอื่นๆอีกมากมาย

แต่ปรากฏว่าอัยการฟ้องร้องเพียงแค่คดีบุกรุกและทำร้ายร่างกายเท่านั้น อลิซต้องโทษจำคุก 18 เดือน ขณะที่มาร์กาเร็ตรับโทษจำคุก 21 เดือน

ช่วงเวลาดังกล่าว ลิเลียน เคนดอล ทำหน้าที่หัวหน้าแก๊ง เธอชำนาญการทุบกระจกหน้าต่างโชว์สินค้าร้านขายเครื่องเพชร เช่น คาร์เทีย แล้วคว้าเครื่องเพชรขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากพ้นโทษออกมา อลิซก็หันไปเอาดีทางเป็นแม่เล้า เมื่อขาดผู้นำสมาชิกแก๊ง Forty Elephants ก็เริ่มแยกย้าย จนกระทั่งในปี 1926 ก็แทบจะไม่เหลือใครเลย แต่อาชญากรรมในกรุงลอนดอนไม่ได้ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด เพราะสมาชิกที่แยกตัวออกไปไม่ได้เลิกอาชีพ เพียงแต่พวกเธอไปทำฟรีแลนซ์


You must be logged in to post a comment Login