ปตท. แจงปัจจัยบวก-ลบผลต่อราคาน้ำมัน

• Tweet
• 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)   เผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา (10-14 ต.ค. 59) และบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้  (17-21 ต.ค. 59) ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 10-14 ต.ค. 59 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 17-21 ต.ค. 59 โดยส่วนวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทุกชนิด ราคาน้ำมันดิบเบรนท์  (Brent)  เพิ่มขึ้น 0.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  มาอยู่ที่ 52.27  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI)  เพิ่มขึ้น 1.10  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่  50.62  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 49.58   เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในส่วนของราคาน้ำมันสำเร็จรูป ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน  95 เพิ่มขึ้น 1.57  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 62.54  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 61.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
·          ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียแสดงเจตจำนงพร้อมร่วมมือกับ OPEC เพื่อลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและชี้ว่าราคาน้ำมันดิบตกต่ำในปัจจุบันส่งผลให้การลงทุนด้านพลังงานลดลงเกินควร และจะนำไปสู่ภาวะขาดแคลนในอนาคตที่ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้น จึงต้องป้องกันล่วงหน้าโดยลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ
·          International Energy Agency (IEA) ปรับคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี พ.ศ. 2559 เพิ่ม 160,000 บาร์เรลต่อวัน จากการคาดการณ์ครั้งก่อน มาอยู่ที่ระดับ 96.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปรับคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี พ.ศ. 2560  เพิ่ม 200,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 97.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
·          สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียด หลังประธานาธิบดี Barack Obama ของสหรัฐฯ อนุมัติกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกในเยเมนด้วยการโจมตีสถานีเรดาร์บริเวณชายฝั่งเยเมน 3 แห่ง  ซึ่งควบคุมโดยกลุ่ม  Houthi  (อิหร่านให้การสนับสนุน) เพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธโจมตีเรือรบสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 และ 12 ต.ค. 59 และ ต่อมาอิหร่านนำเรือรบ  2 ลำ ไปที่อ่าวเอเดน (Gulf of Aden) สร้างความกังวลว่าความขัดแย้งในภูมิภาคอาจขยายตัว
·          Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐฯ รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ใน ตลาด NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค. 59 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานการณ์ถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 38,690  สัญญา มาอยู่ที่ 292,083  สัญญา สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
·     Reuters รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบของอิรัก เดือน พ.ย. 59  ลดลงจากเดือนก่อน 40,000   บาร์เรลต่อวัน
มาอยู่ที่ระดับ 3.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน  โดยปริมาณส่งออกน้ำมันดิบ Basrah Light เดือน พ.ย. 59  ลดลงจากเดือนก่อน 260,000   บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 2.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
·     EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ต.ค. 59  เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 4.9 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 474  ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันลดอัตราการเดินเครื่อง สวนทางกับผลสำรวจนักวิเคราะห์โดย Reuters ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 700,000 บาร์เรลต่อวัน
·     Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig (แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ) ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ต.ค. 59 เพิ่มขึ้น   จากสัปดาห์ก่อน  4  แท่น มาอยู่ที่ 432 แท่น เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 16 สัปดาห์ นานที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปิดตลาดวันศุกร์ลดลงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทะยานขึ้นแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ธ.ค. 59 อย่างไรก็ตามราคายังคงยืนเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วง 2 สัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนถือครองสัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพื่อเก็งกำไร แต่ในอีกทางหนึ่ง ราคาที่เพิ่มขึ้นจะกระตุ้นให้ผู้ผลิต Shale Oil ในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการขุดเจาะน้ำมันดิบ Cowen & Co. บริษัทให้บริการทางการเงินในสหรัฐฯ ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นทุก 5เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  จะแปรไปเป็นเงินลงทุนขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นจำนวน Rig ทั้งหมด 85 แท่น ด้านข่าวอื่นในภาคพลังงานที่น่าสนใจ (ซึ่งกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเตา ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ เพราะใช้ผลิตไฟฟ้าเช่นเดียวกัน) นาย Ryuichi Yoneyama ชนะการเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัด Niigata นาย Ryuichi มีนโยบายต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ชัดเจนและยืนกรานไม่อนุมัติการกลับมาเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Kashiwazaki-Kariwa ของ Tokyo Electric Power Co. (TEPCO) สวนทางกับนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ทั้งนี้ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของนาย Ryuichi จะกระทบต่อนโยบายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งประเทศ ไม่เพียงเฉพาะจังหวัด Niigata เท่านั้น อนึ่ง ปัจจุบันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเปิดดำเนินการเพียง 2 โรง จากจำนวนทั้งสิ้น 42 โรง และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัด Niigata หยุดดำเนินการมาถึง 9 ปีแล้ว สัปดาห์นี้คาดว่า ราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 50-55  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่ NYMEX WTI จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 48-53  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และ ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 47-52  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก Reuters รายงานคลังกักเก็บน้ำมันสำเร็จรูปปริมาณรวมกว่า 10 ล้านบาร์เรล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ถูกตัดขาดจากระบบขนส่ง หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเฮอริเคน Matthew ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันเบนซิน และ Ceylon Petroleum Corp. (Ceypetco) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของศรีลังกามีแผนปิดซ่อมบำรุงบางส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน  Supugaskanda (กำลังการกลั่น 50,000 บาร์เรลต่อวัน) ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 59 เป็นระยะเวลา 20 วัน ทำให้ต้องออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซินในตลาดจร ด้านปริมาณสำรองน้ำมันเบนซิน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. 59 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.90 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 10.32 ล้านบาร์เรล ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี และ Petroleum Association of Japan (PAJ) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8  ต.ค. 59  ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.32 ล้านบาร์เรล หรือ 3.29% อยู่ที่ 9.50 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นน้ำมัน Bandar Abbas (กำลังการกลั่น 330,000 บาร์เรลต่อวัน) ในอิหร่านของ National Iranian Oil Products Refining and Distribution Co.  เริ่มเดินเครื่องทดสอบหน่วย Continuous Catalytic Reformer (CCR) ใหม่ ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินตามกำหนดคุณภาพ Euro 4 อยู่ที่ 22,000 บาร์เรลต่อวัน และโดยมีแผนดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปี 59 และ PJK International B.V. รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์บริเวณ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 246,500 บาร์เรล มาอยู่ที่ 5.53 ล้านบาร์เรล สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 62-67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข่าวบริษัทค้าน้ำมัน Glencore จัดจ้างเรือขนส่งขนาดใหญ่ (Very Large Crude Carrier – VLCC) ชื่อ “Gener8 Oceanus” (ขนาด 2.2 ล้านบาร์เรล) เพื่อใช้บรรทุกน้ำมันดีเซลจากเกาหลีใต้ ก่อนไปแอฟริกา และ บริษัท BP มีแผนเปิดสถานีบริการเติมน้ำมันกว่า 3,500 แห่งในอินเดีย นับเป็นบริษัทข้ามชาติรายที่ 2 ถัดจาก Royal Dutch Shell ซึ่งไปเปิดตลาดที่อินเดีย เพื่อแข่งขันกับบริษัทแห่งชาติที่ครองส่วนแบ่งตลาด 93% ด้วยจำนวนสถานี 56,000 แห่ง และ PAJ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น สัปดาห์ล่าสุด 8 ต.ค. 59 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.2 ล้านบาร์เรล หรือ 2.19% อยู่ที่ 9.27 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Platts รายงาน PetroChina ของจีนมีแผนส่งออกน้ำมันดีเซล จาก Guangxi ในเดือน ต.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 292,000 บาร์เรล อยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล และ บริษัท Cosmo Oil ของญี่ปุ่นมีแผนขยายฐานการค้าน้ำมันสำเร็จรูปไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย โดยใช้พื้นที่คลังเก็บน้ำมันในเกาหลีใต้ความจุรวม 400,000 บาร์เรล รองรับความต้องการ Middle Distillates ในช่วงฤดูหนาวสำหรับญี่ปุ่น ด้านปริมาณสำรองน้ำมันดีเซล PJK International B.V. รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์บริเวณ ARA สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 126,650 บาร์เรล มาอยู่ที่ 22.6 ล้านบาร์เรล และ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 920,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 13.56 ล้านบาร์เรล สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ  61-66   เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

You must be logged in to post a comment Login