- ปีดับคนดังPosted 11 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
มิติใหม่สิงคโปร์-ออสซี่ / โดย กองบรรณาธิการ
คอลัมน์ : รายงาน
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
สิงคโปร์และออสเตรเลียทำสัญญาเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันเข้มข้นขึ้นอีกระดับ ทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และการปราบปรามยาเสพติด โดยเป็นพัฒนาการที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น
การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) หลายฉบับ จัดขึ้นระหว่างนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์ เยือนออสเตรเลีย สัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นสัญญาชุดแรก ที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระดับสมบูรณ์ (Comprehensive Strategic Partnership) ซึ่งลงนามกันเมื่อปีที่แล้ว
บันทึกความเข้าใจด้านการทหาร กำหนดให้สิงคโปร์ส่งทหาร 14,000 นาย เพิ่มจากข้อตกลงปัจจุบัน 1 เท่า ไปร่วมซ้อมรบกับกองทัพออสเตรเลียเป็นเวลา 25 ปี ปีละ 18 สัปดาห์ เพิ่มจากข้อตกลงปัจจุบันที่กำหนดไว้เพียงปีละ 6 สัปดาห์
ส่วนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน มีการลงนามข้อตกลงครอบคลุมหลายส่วน ภายใต้สัญญาการค้าเสรี (FTA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้จากปีหน้าเป็นต้นไป
ทั้ง 2 ฝ่ายคาดว่า หลังเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ จะช่วยให้มูลค่าการค้าระหว่างกันสูงกว่ายอดปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 20,200 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 515,100 ล้านบาท)
กรอบของเอฟทีเอ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไปตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจในอีกประเทศหนึ่งง่ายขึ้น การนำเข้าและส่งออกสินค้า เช่น ไวน์ เครื่องสำอาง อุปกรณ์การแพทย์ และอื่นๆก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน
นอกจากนั้น ทางออสเตรเลียยังผ่อนปรนระบบวีซ่าให้สิงคโปร์ด้วย โดยวิศวกรและนักวิชาชีพสาขาอื่นของสิงคโปร์ที่อายุไม่เกิน 30 ปี สามารถเข้าไปทำงานในออสเตรเลียได้นาน 10 ปี โดยกำหนดสัญญาระยะทำงานครั้งละ 1 ปี
ขณะที่ชาวสิงคโปร์โดยทั่วไป สามารถไปท่องเที่ยวและพักในออสเตรเลียได้นาน 1 ปี เช่นกัน
ส่วนความร่วมมือด้านการวิจัยและการพัฒนา รวมทั้งแผนคิดค้นนวัตกรรม ทั้ง 2 ฝ่ายจะสนับสนุนทุนดำเนินการแก่องค์กรและสถาบันต่างๆ ฝ่ายละ 25 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (638 ล้านบาท) เป็นเวลา 5 ปี
ขณะแผนความร่วมมือป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดรวมทั้งการก่อการร้าย จะดำเนินการโดยเปิดโครงการฝึกเจ้าหน้าที่ร่วมกัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ระหว่างกัน
รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายมองว่า พัฒนาการครั้งนี้จะให้ผลเชิงบวกแบบ “Win-Win” มากกว่าจะก่อผลข้างเคียงในเชิงลบ
You must be logged in to post a comment Login