6ข้อลดขัดแย้ง

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

บรรยากาศความขัดแย้งจากความเห็นต่างเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังรัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงต่อคนที่ถูกมองว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการตามกฎหมาย

ที่สำคัญประชาชนบางส่วนที่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงต่อคนเห็นต่างก่อนหน้านี้เริ่มตระหนักว่าการใช้ความรุนแรงไม่เป็นผลดีต่อประเทศโดยรวม ส่งให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายเพราะภาพ คลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้นถูกนำไปเผยแพร่ทั่วโลก

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำชัดเจนอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ต้องการให้ดึงสถาบันลงมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง เห็นต่าง พร้อมร้องขอทุกภาคส่วนไม่นำเสนอข่าว ภาพ และเสียงเหตุการณ์ที่อาจกระตุ้นให้ผู้คนเกิดความรู้สึกไม่พอใจและใช้กำลังเข้าทำร้ายกัน จนทำลายภาพลักษณ์ประเทศ

ขณะเดียวกันมีคำแนะนำจาก น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แนะนำ 3 ข้อคิดเพื่อให้คนไทยรวมพลังความจงรักภักดี ผ่านพ้นความเศร้าโศก ก้าวสู่การสร้างสรรค์สิ่งดีงามประกอบด้วย

1.ความเศร้าโศกเสียใจเป็นเรื่องปรกติ ไม่ควรปิดกั้นการแสดงออก

2.ต่างคนต่างความคิด จึงควรเปิดใจกว้าง ยอมรับฟังซึ่งกันและกัน

3.เวลาที่เศร้าโศกเสียใจ อาจจะมีหลายๆเหตุการณ์เกิดขึ้น จึงควรมองด้วยเหตุและผล

นอกจากนี้ยังให้ พึงระวัง 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.ระวัง อย่าให้รู้สึกผิดหวังมากเกินไป ให้ใช้วิธีเล่าถึงประสบการณ์ที่ดี ข้อคิดที่ได้จากพระองค์ท่าน การสืบสานพระราชปณิธาน และดูแลช่วยเหลือคนที่มีความเศร้ารุนแรง ด้วย 3 ส. คือ สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง ส่งต่อเชื่อมโยง

2.ระวัง เรื่องความเห็นต่าง ควรปฏิบัติต่อกันอย่างมีสติ และเคารพซึ่งกันและกัน ไม่มองว่าคนที่กระทำไม่เหมือนตนเองเป็นคนไม่ดี หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง นำไปสู่ความรุนแรงในสังคม ทั้งระหว่างบุคคลและสื่อสังคม อาจใช้วิธีนิ่งเสีย ตลอดจนสื่อสังคมไม่ส่งต่อสื่อที่สร้างความโกรธ

3.ระวัง การใช้อารมณ์และโทษผู้อื่น เพราะจะมีแต่ผลเสีย ทำลายชื่อเสียงของประเทศ ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะป้องกันความขัดแย้งและความรุนแรง โดยป้องกันไม่ให้เกิดการรวมตัวของฝูงชนที่มีอารมณ์ และไม่นำผู้ต้องหามาเผชิญกับฝูงชน เป็นต้น

ทั้งการส่งสัญญาณจากรัฐบาลและคำแนะนำของกรมสุขภาพจิต เชื่อว่าจากนี้ไปภาพความขัดแย้ง ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางความคิดน่าจะลดน้อยลง โดยมีภาพของความรู้รักสามัคคีตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเข้ามาแทนที่

การใช้ความรุนแรงนอกจากไม่เกิดประโยชน์อะไร ยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของประเทศ ทำลายสถาบันที่คนไทยเคารพรักทั้งทางตรงทางอ้อมอีกด้วย

You must be logged in to post a comment Login