เรื่องฉาว‘โดนัลด์ ทรัมป์’ / โดย ณ สันมหาพล

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง
ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

เชื่อว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” จะไม่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2559 แม้บางรายงานข่าวจะระบุว่าทรัมป์เริ่มมีคะแนนตีตื้นขึ้นมาก็ตาม

นอกจากนโยบายของทรัมป์จะไม่ชัดเจนแล้ว ยังมีประเด็นการพูดดูหมิ่นสตรีเพศขณะอยู่ในรถโดยสาร ซึ่งหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2548 โดยพลเมืองดีส่งเทปบันทึกให้เห็นการล่วงละเมิดสตรีในที่สาธารณะที่ให้อภัยไม่ได้ ทำให้คะแนนของทรัมป์ลดฮวบลงทันที

ก่อนหน้านี้นิวยอร์กไทม์สก็เปิดโปงพฤติกรรมของทรัมป์ว่า ไม่ได้เสียภาษีเงินได้นานถึง 18 ปีแล้ว เนื่องจากในปี 2538 เขาได้แจ้งในใบเสียภาษีว่าธุรกิจขาดทุน 916 ล้านเหรียญ ทำให้เขาไม่ต้องเสียภาษีในช่วงเวลานั้น ประเด็นที่ตามมาคือ การปกปิดการเสียภาษีที่เขาไม่ต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเขาไม่ได้รวยมหาศาลในฐานะนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของโลกอย่างที่ทุกคนเคยเชื่อ

การเปิดโปงของ 2 สื่อยักษ์เป็นธรรมเนียมของสื่ออเมริกัน โดยเฉพาะผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกสมัย

กรณีของทรัมป์มีการเปิดโปงพฤติกรรมต่างๆตั้งแต่เขาเริ่มมีชื่อเสียง ซึ่งมีข้อมูลที่ชี้ถึงความไม่เหมาะสมต่างๆถึง 19 กรณี หนึ่งในจำนวนนี้คือ การจัดการประกวดนางงามที่อื้อฉาว ซึ่งหนังสือพิมพ์บอสตันโกลบรายงานว่า ทรัมป์ชอบดูการประกวดนางงาม และตั้งแต่ปี 2535 เขาจึงตัดสินใจเป็นหุ้นส่วนกับสามีภรรยาเจ้าของการประกวดนางงามอเมริกันในฝัน จากนั้นก็มีเรื่องไม่ดีเกี่ยวข้องกับการประกวด

เริ่มจากภรรยาของหุ้นส่วนที่ทรัมป์สวมบทเจ้าชู้ตั้งแต่แรกพบ จากนั้นก็บอกให้เธอพานางงามที่เคยเข้าประกวดไปร่วมงานรื่นเริงที่เขาจัด ซึ่งบางคนถูกคุกคามทางเพศและบุกเข้าไปในห้องนอน

หลังจากนั้นทรัมป์ก็ขยับเป็นเจ้าของการประกวดนางงามทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นนางงามวัยรุ่นสหรัฐ นางงามสหรัฐ และนางงามจักรวาล พร้อมกับข่าวอื้อฉาวที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่คนดูการประกวดนางงามจักรวาลมากขึ้น เพราะเขาให้ผู้เข้าประกวดใส่ชุดรัดรูป ทั้งยังมีข่าวว่าใช้อิทธิพลแทรกแซงการประกวด

อย่างเช่นปีที่ผ่านมาทรัมป์ร่วมกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีและสถานีเคเบิลยูนิวิชั่นเพื่อออกอากาศการประกวดนางงามจักรวาล แต่ทั้ง 2 สถานีได้ยกเลิกข้อตกลง

การประกวดนางงามมีข่าวถึงการพัวพันกับขบวนการนักเลงมาเฟีย จึงไม่น่าแปลกใจที่ข่าวระบุว่า บรรดามาเฟียเป็นผู้ควบคุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายที่ดิน การก่อสร้าง และวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าทรัมป์ต้องพึ่งพาบรรดามาเฟียในการทำธุรกิจบ่อนการพนัน โดยที่ดินที่เขาใช้สร้างบ่อนที่นครแอตแลนตาเป็นของหัวหน้ามาเฟียคนหนึ่งที่ขายให้กับทรัมป์ในราคาสูงกว่าปรกติเท่าตัว ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าคุ้มครอง

ทรัมป์ยังถูกกล่าวหาว่าข่มขืนภรรยาตัวเองคือ อิวานา ทรัมป์ อดีตนางแบบชาวเช็ก โดยมีเพศสัมพันธ์ในเชิงบังคับ ซึ่งในสหรัฐถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศแบบหนึ่ง อิวานาระบุในการฟ้องหย่าโดยอ้างเหตุการณ์ในปี 2542 หลังจากทะเลาะกันและทรัมป์บังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์ แต่เธอไม่ยอม เขาจึงใช้กำลังข่มขืนเธอ

ข่าวนี้ปรากฏออกมาตอนเริ่มต้นหาเสียง ทำให้คนสนิทของทรัมป์ออกมาขู่ผู้สื่อข่าวไม่ให้นำเสนอข่าวดังกล่าว แต่ผู้สื่อข่าวยังคงเปิดโปงพฤติกรรมทางเพศของทรัมป์อย่างต่อเนื่อง และชี้ว่าเขามีความผิดปรกติทางเพศ

ชื่อเสียงของทรัมป์ที่เสียหายยังมีกรณีการเปิดมหาวิทยาลัยเพื่อหลอกลวงนักศึกษา โดยระบุว่าทรัมป์ชอบทำตัวเป็นผู้รู้ด้านการบริหารจัดการ ในปี 2548 เขาเปิดมหาวิทยาลัยทรัมป์โดยโฆษณาว่าเพื่อถ่ายทอดเคล็ดลับการทำธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการระดมหานักศึกษาให้จัดสัมมนาเยาวชนที่อยากรวย ระหว่างนั้นก็จะชักชวนให้นักศึกษาเหล่านั้นมาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยของตนเอง ซึ่งต้องจ่ายค่าเรียนสูงถึง 35,000 เหรียญ และมีผู้สนใจเข้าเรียนไม่น้อย แต่ต่อมาพบว่าเป็นการโกหกต่างๆนานา

มหาวิทยาลัยทรัมป์ต้องปิดตัวเองในอีก 5 ปีต่อมา และถูกฟ้องร้องหลายคดี คดีหนึ่งเป็นของรัฐนิวยอร์กที่กล่าวหาว่ามหาวิทยาลัยฉ้อฉลนักศึกษาและมีความเสียหายถึง 40 ล้านเหรียญ

นี่คือส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของทรัมป์ที่หลอกแม้แต่เด็ก!

You must be logged in to post a comment Login