ใครคือยิว? / โดย บรรจง บินกาซัน

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

ชาวยิวกับชาวอาหรับขัดแย้งกันมานานนับพันปี คนส่วนใหญ่คิดว่าชาวยิวเป็นชนชาติหรือเผ่าพันธุ์หนึ่งเหมือนกับชาวเขา เมื่อเอ่ยถึงชาวยิวแล้ว คนทั่วไปมักจะมองว่าเป็นชนชาติที่ขี้เหนียวและขูดรีดขูดเนื้อคนจน ใครที่มีลักษณะเช่นนี้จะถูกเรียกว่า “ยิว” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยพระราชนิพนธ์เรื่อง “เวนิสวานิช” ให้เด็กนักเรียนรุ่นผมได้เรียนกัน แต่ปัจจุบันพระราชนิพนธ์เรื่องนี้หายไปจากการศึกษาของเมืองไทยแล้ว

ชาวอิสราเอลถูกเรียกว่ายิว แต่ความจริงแล้วคำว่ายิวมาทีหลังคำว่าอิสราเอล คัมภีร์ไบเบิลบันทึกไว้ว่าอิสราเอล(หรืออิสรออีลในภาษาอาหรับ) เป็นฉายาของยาโกบ ซึ่งมีความหมายว่าผู้ปล้ำกับพระเจ้า ยาโกบเป็นหลานของอับราฮัมผู้เป็นรากเหง้าตระกูลของชาวอาหรับเช่นกัน

จากคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานทำให้เราทราบว่ายาโกบหรืออิสราเอลเดิมทีอาศัยอยู่ในแผ่นดินกันอานหรือปาเลสไตน์ ต่อมาครอบครัวของยาโกบทั้งหมดได้อพยพไปอยู่ในอียิปต์ เมื่อโยเซฟหรือยูซุฟ ลูกชายคนหนึ่งในจำนวน 12 คนของยาโกบ ได้ขึ้นมามีอำนาจปกครองอียิปต์ก่อนสมัยฟาโรห์

คัมภีร์กุรอานเล่าว่า ก่อนตายยะกู๊บ (ยาโกบ) ได้สั่งบรรดาลูกๆของเขาว่า “ลูกๆของฉันเอ๋ย อัลลอฮฺ (พระเจ้า) ได้ทรงเลือกแนวทางแห่งชีวิตนี้สำหรับพวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าตาย เว้นเสียแต่ว่าพวกเจ้าเป็นมุสลิม (ผู้นอบน้อมต่อพระองค์)” เขาได้ถามลูกๆว่า “หลังจากฉันแล้ว พวกเจ้าจะเคารพภักดีผู้ใด?” พวกเขากล่าวว่า “เราจะเคารพภักดีพระเจ้าที่พ่อ บรรพบุรุษของพ่อ อิบรอฮีม อิสมาอีล และอิสฮาก ยอมรับว่าเป็นพระเจ้าของพวกเขา และเราเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์” (กุรอาน 2.133)

อิบรอฮีมหรืออับราฮัมเกิดในเมืองอูร์ ประเทศอิรักปัจจุบัน อับราฮัมแต่งงานกับนางซาราห์หญิงชาวเมืองอูร์เช่นกัน และทั้งสองมีลูกชื่ออิสฮาก (หรืออิชอัก) ผู้เป็นพ่อยาโกบ ลูกหลานของยาโกบหรืออิสราเอลเป็นชนชาติอะไรและเดิมทีนับถือศาสนาอะไร ผู้อ่านพิจารณาได้เอง

หลังสมัยของโยเซฟผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว พวกลูกหลานอิสราเอลผิดสัญญากับบิดาของตัวเองโดยหันไปเคารพสักการะรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆเหมือนกับชาวอียิปต์ดั้งเดิม พระเจ้าจึงลงโทษพวกลูกหลานอิสราเอลโดยให้ชาวอียิปต์พื้นเมืองลุกขึ้นมาโค่นอำนาจพวกลูกหลานอิสราเอลและก่อตั้งราชวงศ์ฟาโรห์ขึ้นมา และพวกลูกหลานอิสราเอลได้กลายมาเป็นทาส

ในช่วงเวลาแห่งการตกเป็นทาสและถูกกดขี่อย่างแสนสาหัสในยุคของฟาโรห์นี้เองที่พวกลูกหลานอิสราเอลได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้ทรงช่วยเหลือ ในที่สุดพระเจ้าก็ตอบรับคำวิงวอนของคนเหล่านี้ด้วยการส่งโมเสส (หรือมูซา) มาช่วยปลดปล่อย

หลังจากโมเสสพาพวกลูกหลานอิสราเอลอพยพออกมาจากอียิปต์ข้ามทะเลเข้ามาสู่แผ่นดินซีนายได้ไม่นาน พวกลูกหลานอิสราเอลที่เสพติดการเคารพสักการะรูปปั้นตามวัฒนธรรมของชาวอียิปต์พื้นเมืองได้ขอให้โมเสสทำรูปปั้นเทพเจ้าให้พวกตนเคารพสักการะแทนพระเจ้า ทั้งๆที่คนเหล่านี้ได้เห็นอำนาจของพระเจ้าจากไม้เท้าของโมเสสที่กลายเป็นงูเมื่อถูกโยนลงไปบนพื้น และไม้เท้าอันเดียวกันนี้อีกเช่นกันที่โมเสสใช้ฟาดลงไปในน้ำทะเลจนน้ำทะเลแยกออกเป็นทางเดินให้พวกลูกหลานอิสราเอลหนีรอดการติดตามของกองทัพฟาโรห์มาได้

หลังสมัยของโมเสส พวกลูกหลานอิสราเอลที่มี 12 เผ่า ต้องเร่ร่อนอยู่ในทะเลทราย ไร้ผู้นำ และขาดความเป็นปึกแผ่น จึงถูกชนชาติอื่นๆรุกรานโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกษัตริย์เดวิดได้รวบรวมพวกลูกหลานอิสราเอลเป็นปึกแผ่นและตั้งอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมา

เนื่องจากคัมภีร์โตราห์ที่พระเจ้าประทานให้โมเสสนำมาใช้เป็นกฎหมายปกครองพวกลูกหลานอิสราเอลเกิดความเสียหายขึ้น พระเจ้าจึงได้ประทานคัมภีร์อีกเล่มหนึ่งให้แก่กษัตริย์เดวิด (ดาวูด) นำมาใช้ปกครองพวกลูกหลานอิสราเอล และคัมภีร์นี้ถูกใช้ต่อเนื่องกันมาจนถึงสมัยของโซโลมอน (สุลัยมาน) แต่หลังจากสมัยของโซโลมอน พวกลูกหลานอิสราเอลได้แตกแยกกันเองและถูกชนชาติอื่นรุกรานจนสูญเสียอาณาจักรและคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานแก่เดวิด

ด้วยเหตุนี้ผู้รู้ศาสนาในหมู่ลูกหลานอิสราเอลจึงรวบรวมและเขียนคัมภีร์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งแตกต่างและผิดเพี้ยนไปจากคำสอนดั้งเดิม จนลูกหลานอิสราเอลมีศาสนาใหม่ที่เรียกว่า “ศาสนายูดาย” เกิดขึ้น และพวกลูกหลานอิสราเอลที่นับถือศาสนาเกิดใหม่นี้ได้ถูกเรียกว่า “ยิว”

You must be logged in to post a comment Login