- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
9เดือนรายได้กู๊ดเยียร์แตะ 11.4 พันล้านเหรียญ
มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เราสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายและสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มอัตรากำไรจากการดำเนินงานโดยรวมกว่าร้อยละ 14.5 ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานในหน่วยธุรกิจหลักจากต้นปีถึงปัจจุบันสูงเป็นประวัติการณ์ การคาดการณ์ผลงานในปี 2559 ล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจยางสำหรับรถบรรทุกในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณค่าที่นำเสนอต่อลูกค้า หรือศักยภาพของเราในการบริหารแผนงานระยะยาวอย่างแน่นอน”
“กลยุทธ์ของเราคือ การใช้โอกาสจากกระแสธุรกิจที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรม ซึ่งทั่วโลกมีความต้องการมากขึ้นในยางที่มีขอบยางกว้าง มีคุณค่าสูงในการตอบสนองการใช้งานเราจึงมีความเชื่อมั่นว่าความโดดเด่นในการมีผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงต่างๆ ของกู๊ดเยียร์ ผนวกกับข้อได้เปรียบด้านการจัดจำหน่าย จะสามารถขับเคลื่อนให้บริษัทดำเนินธุรกิจไปบนเส้นทางสู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้จนถึงปี 2563 จากที่ได้แถลงจุดยืนของกู๊ดเยียร์ให้ทราบกันโดยทั่วไปเมื่อไม่นานมานี้” มร. เครเมอร์กล่าว
กู๊ดเยียร์ได้แถลงการณ์อันสอดคล้องกับกลยุทธ์นี้ไปเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับเจตนารมณ์ที่ต้องการปิดโรงงานฟิลิปส์เบิร์ก ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางของกู๊ดเยียร์ในประเทศเยอรมนี พร้อมจัดระเบียบปรับปรุงสมรรถนะเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตยางประเภทที่เพิ่มมูลค่าสูงสุดในยุโรป “เป้าหมายของเราคือการเป็นผู้นำในธุรกิจยางประเภทเพิ่มมูลค่าสูงสุด และการลดโอกาสเสี่ยงในธุรกิจที่มียอดขายตกและถดถอย เพื่อหันมายึดมั่นในคุณค่าของแบรนด์กู๊ดเยียร์ และช่วยเสริมสร้างธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตแบบมีกำไรยิ่งขึ้น” มร. เครเมอร์กล่าว
ทั้งนี้ ยอดขายของกู๊ดเยียร์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2559 อยู่ที่ 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงจาก 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา
สำหรับยอดจำหน่ายยางรวมอยู่ที่ 42 ล้านเส้น ซึ่งไม่ต่างกันมากเมื่อเทียบกับปี 2558 หลังจากปรับไม่นับรวมผลประกอบการในประเทศเวเนซุเอลาไปเมื่อปลายปี 2558 ทั้งนี้ การเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้ามาชดเชยภาวะหดตัวในทวีปอเมริกาและยุโรป รวมทั้งตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยรวมแล้วการจำหน่ายยางรถยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถลดลงร้อยละ 6
โดยรายได้สุทธิของกู๊ดเยียร์ในไตรมาส 3 ของปี 2559 มีมูลค่า 317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จาก 271 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (99 เซ็นต์ต่อหุ้น) ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการลดหย่อนภาษีเงินได้ ที่มีส่วนช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนการบริหารงานต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยรายได้สุทธิที่ปรับแล้วในไตรมาส 3/2559 มีมูลค่า 310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นจาก 271 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (99 เซ็นต์ ต่อหุ้น) ในปี 2558 ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นเป็นราคาหลังการปรับลด
สำหรับรายได้จากการขายของกู๊ดเยียร์หลังสิ้นสุด 9 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่า 11.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปี 2558 ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการไม่นับรวมผลประกอบการของประเทศเวเนซุเอลา และการเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลของต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ
ในส่วนของยอดจำหน่ายยางรวมอยู่ที่ 125 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ซึ่งเกิดจากการเติบโตทางธุรกิจในทวีปเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ที่ทางบริษัทได้เข้าถือครองหุ้นในสัดส่วนที่มีอำนาจควบคุมในบริษัท นิปปอน กู๊ดเยียร์ จำกัด (NGY) และในประเทศจีน โดยที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถลดลงร้อยละ 3 ทั้งนี้ หากไม่รวมถึงผลกระทบจากการไม่นับรวมผลประกอบการในประเทศเวเนซุเอลา ยอดจำหน่ายยางรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2
รายได้สุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของกู๊ดเยียร์มีมูลค่า 703 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ที่มูลค่า 687 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) อันเป็นผลมาจากรายจ่ายด้านภาษีเงินได้ลดลง เนื่องจากการปรับปรุงภาษีบางรายการ ในขณะที่กำไรสุทธิที่ปรับแล้วตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีมูลค่า 818 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มูลค่า 649 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นทั้งหมดมีการปรับตัวลดลง
กู๊ดเยียร์ได้รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากการไม่นับรวมผลประกอบการของประเทศเวเนซุเอลา ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยที่สำคัญ ที่ไม่นับรวมผลประกอบการของประเทศเวเนซุเอลา อยู่ที่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของปี 2558
ในทวีปเอเชียแปซิฟิก รายได้จากการขายของกู๊ดเยียร์ในไตรมาส 3 ของปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นมูลค่า 541 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ รายได้จากการขายได้สะท้อนถึงยอดจำหน่ายยางที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 อันเป็นผลมาจากการเติบโตทางธุรกิจในญี่ปุ่น จีน และอินเดีย แต่อย่างไรก็ตาม ผลงานดังกล่าวที่เติบโตขึ้น อาจได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อยจากราคาและสัดส่วนการขายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่น่าพอใจ เป็นผลมาจากราคาของวัตถุดิบต่างๆ ลดลง โดยที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถเพิ่มขึ้นร้อยละ 16
You must be logged in to post a comment Login