- อย่าไปอินPosted 9 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
มองไทยเห็นสหรัฐ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ควันหลงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน พลิกนรกเอาชนะตัวเต็งอย่าง นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต แบบหักปากกาเซียนทั้งโลกยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกระแสการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของคนอเมริกันจำนวนหนึ่งที่รวมตัวกันประท้วงในหลายพื้นที่
เรื่องแบบนี้ความจริงมักไม่ค่อยเกิดขึ้นในสหรัฐ
แต่ที่เกิดขึ้นเพราะส่วนหนึ่งมาจากการหาเสียงของผู้สมัครทั้งสองคนที่ผ่านมาเน้นการขุดเรื่องส่วนตัวมาโจมตีกันมากกว่าการนำเสนอนโยบาย
การใช้ Hate Speech ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมอเมริกัน จนหลายคนออกมาแสดงความเป็นห่วงตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่าหลังเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ว่าใครจะชนะแต่จะทิ้งความแตกแยกเอาไว้ชนิดไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมได้ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้น
แม้นางฮิลลารี คลินตัน จะออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ก็ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้มีความแตกแยกร้าวลึกในประเทศมากกว่าที่คิด แต่ทุกคนต้องเปิดใจและให้โอกาส นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการทำหน้าที่ผู้นำประเทศ และพร้อมจะทำงานร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ และหวังว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ผู้นำสำหรับคนอเมริกัน
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็พูดในทำนองเดียวกันว่าทุกอย่างจบแล้ว พร้อมจะเป็นประธานาธิบดีของคนอเมริกันทุกคน และพร้อมที่จะเข้าไปพูดคุยกับคนที่ไม่ได้สนับสนุนเขาเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ
แต่คำพูดของทั้งสองคนก็ไม่ได้ลดความแตกแยกในสังคมอเมริกันลงได้มากนัก
ความแตกแยกในครั้งนี้อาจไม่ได้มีแค่การประท้วง หรือคนอเมริกันอพยพไปอยู่นอกประเทศมากขึ้น แต่อาจส่งผลถึงขั้นมีบางรัฐขอแยกตัวออกจากสหรัฐ สร้างประเทศใหม่
หลังรู้ผลการเลือกตั้งที่ออกมา มีเว็บไซต์หนึ่งได้เริ่มสำรวจความคิดเห็นครั้งประวัติศาสตร์เตรียมสำหรับการตัดสินใจทำประชามติแยกตัวออกจากสหรัฐ โดยตั้งเป้าหมายประกาศผลการหยั่งเสียงในปี 2019 เพื่อนำไปสู่การลงประชามติแยกตัวออกจากสหรัฐอย่างจริงจังต่อไป
ทั้งนี้ แคลิฟอร์เนียเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก มีอำนาจทางเศรษฐกิจมากกว่าฝรั่งเศส และมีความโดดเด่นมากกว่าโปแลนด์ แคลิฟอร์เนียเทียบเท่าประเทศ ไม่ใช่เป็นเพียงรัฐเหมือน 49 รัฐ อื่นๆ
การแยกตัวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ยังไม่ทราบได้ แต่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกในสังคมอเมริกันอย่างชัดเจน
ความแตกแยกนี้ไม่ต่างจากสถานการณ์ในประเทศไทยที่ร้าวลึกขยายวงกว้างตั้งแต่มีการใช้ Hate Speech โจมตีกันทางการเมือง
ความคิดของคนแคลิฟอร์เนียก็ไม่ต่างจากคนกรุงเทพฯส่วนหนึ่ง ที่คิดว่าคนชนบทเป็นปลิงคอยเกาะดูดเลือดเพราะคนกรุงเสียภาษีให้รัฐมากกว่า หรือคนชนบทไม่มีความสามารถในการตัดสินใจทางการเมือง เป็นเสียงที่ไม่มีคุณภาพ จึงควรได้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งน้อยกว่า
คงต้องรอดูหลังการเข้าบริหารประเทศอย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะดำเนินนโยบายสร้างความแตกแยกมากขึ้น หรือว่าจะเข้ามาสร้างสังคมอเมริกันให้กลับมาแน่นแฟ้นเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง
หากยังไม่หยุดใช้ Hate Speech หรือบริหารงานแบบสองมาตรฐาน ดำเนินนโยบายแบบแข็งกร้าวทั้งภายในและนอกประเทศ บางทีความแตกแยกอาจไม่จำกัดวงอยู่แต่ในสหรัฐ แต่จะแผ่ขยายไปทั่วโลก
บางทีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ควรต้องศึกษาบทเรียนจากความแตกแยกของสังคมไทยที่แบ่งประชาชนออกเป็นสองฝ่าย ถึงวันนี้ยังมองไม่เห็นโอกาสว่าจะแก้ไขได้อย่างไร
You must be logged in to post a comment Login