วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

SENA โชว์ 9 เดือนกวาดรายได้กว่า 3,197 ล้าน

On November 14, 2016

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/59 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559) มีรายได้รวม 676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190 ล้านบาท หรือ 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 468 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือ 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันมีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท

ขณะที่ในผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 มีรายได้รวม 3,197 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 92% รายได้จากธุรกิจเช่าและบริการ 5% และธุรกิจโซลาร์ 3% ของรายได้รวม โดยในงวด 9 เดือนปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,730 ล้านบาท หรือ 118% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 1,468 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 662 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือ 285% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันมีกำไรสุทธิ 172 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้รับรู้ยอดโอนจากอาคารสูง The Niche Mono รัชวิภา ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 พร้อมกับได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาลเสริมอีกทาง อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3 บริษัทยังมีโครงการคอนโด

สร้างเสร็จพร้อมโอนในช่วงปลายไตรมาส 3 อีก 2 โครงการ คือ The Niche ID เสรีไทย ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 650 ล้านบาท และ The Niche ID บางแค เฟส 1 ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 670 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการได้เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากยอด Backlog บางส่วนในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทฯจะยังคงเดินหน้าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องตามแผนในปีนี้จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,670 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรก บริษัทได้เปิดแล้ว 5 โครงการ ประกอบด้วยโครงการแนวราบ 2 โครงการ คือโครงการ SENA Ville บรมราชชนนี – สาย 5 มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท และโครงการ SENA Park Ville รามอินทรา-วงแหวน เฟส 1 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 3 โครงการ คือ เดอะคิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 มูลค่ารวม 550 ล้านบาท , โครงการ เดอะนิช โมโน พีค บางนา มูลค่ารวม 160 ล้านบาท โครงการ เดอะนิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2 มูลค่ารวม 540 ล้านบาท และในช่วงไตรมาสสุดท้ายตามแผนบริษัทเตรียมเปิดโครงการคอนโดอีก 2 โครงการ คือ เดอะคิทท์ ไลท์ บางกะดี-ติวานนท์ ” เฟส 2 มูลค่าโครงการ 310 ล้านบาท และโครงการ The Niche Sukhunvit 50 มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท

ส่วนยอดขายในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประมาณ 3,200 ล้านบาท และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/59 ประมาณ 2,700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ประมาณ 800 ล้านบาท

 


You must be logged in to post a comment Login