- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
2วันยอดขายเดอะไลน์โกยกว่า 4,000 ล้าน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดขายคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือระหว่าง แสนสิริ และ บีทีเอส กรุ๊ป แบรนด์ เดอะ ไลน์ 2 โครงการใหม่ล่าสุดที่นับว่ามี ดีมานด์สูงทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดโครงการเพราะอยู่ในทำเลเมืองและใกล้รถไฟฟ้า คือ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีเพียง 250 เมตรและทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้น 1) เปิดการขายแบบ Global Launch ใน 6 ประเทศเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน มาเลเซีย ไทยและสามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติได้ถึง 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และสนใจซื้อเพื่อลงทุน ด้วยศักยภาพของทำเลที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวจากพื้นที่สุขุมวิทตอนต้น มีการคมนาคมที่มีรถไฟฟ้าผ่าน มีการเติบโตของภาคอสังหาฯ อย่างรวดเร็วและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยราคาคอนโดมิเนียมที่นำกลับมาขายใหม่เพิ่มขึ้น 34-38% และความต้องการเช่าในย่านนี้ที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากดีมานต์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้าโดยมีราคาเช่าตั้งแต่ 13,000 – 28,000 บาทต่อเดือน
ขณะที่โครงการเดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ ระหว่างประดิพัทธ์ซอย 19 – 21 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย
550 เมตร ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยสาเหตุที่ได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากคอนโดมิเนียมย่านสนามเป้า-อารีย์- สะพานควาย ยังคง ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก ทั้งนี้โครงการเดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์อยู่ใกล้แยกประดิพัทธ์ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางสําคัญที่เชื่อมระหว่างย่านพระราม 6 – พหลโยธิน – วิภาวดี – รัชดาภิเษก – ลาดพร้าว รายล้อมไปด้วยระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า, สถานีอินเตอร์เชนจ์บางซื่อและทางพิเศษ นอกจากนี้ยังมีสถานที่สําคัญ เช่น โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, ตลาดนัดจตุจักร, ศูนย์การค้า, โรงแรม, สถานที่ราชการ และอาคารสํานักงาน สิ่งอํานวยความสะดวกเหล่านี้ล้วนรองรับการใช้ชีวิตทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก หนุ่มสาวไปจนถึงวัยทํางาน จึงตอบสนองความสะดวกสบายให้กับทุกคนในครอบครัว ขณะที่ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ที่มีการพัฒนาใหม่ค่อนข้างน้อยเนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็นอาคาร พาณิชย์ตลอดสองฝั่งถนน การรวมแปลงที่ดินให้มีขนาดเหมาะสมต่อการสร้างคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จึงเกิดขึ้นได้ยาก อีกทั้ง ในย่านนี้ยังเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีผู้อาศัยเดิมอยู่เป็นจํานวนมาก เมื่อเกิดการพัฒนาโครงการใหม่จึงเป็นเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่นิยมซื้อเก็บไว้เป็นทรัพยสินที่สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ดังนั้นโครงการระดับพรีเมี่ยมในทำเลนี้จึงมักจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
“อีกปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองโครงการประสบความสำเร็จยังมาจากการกลุ่มลูกค้าชื่นชอบแนวคิดการอยู่อาศัย “Co-Living Space” ที่นับเป็นครั้งแรกในไทยกับคอนโดมิเนียมที่จัดเต็มพื้นที่ให้สามารถแบ่งปันความสุขร่วมกันในทุกพื้นที่ใช้สอยซึ่งประกอบด้วย Co-Lifestyle ครั้งแรกกับ Co-Kitchen พื้นที่สำหรับทำอาหารร่วมกันและเปิดรับอากาศธรรมชาติได้ Co-Working ครั้งแรกกับพื้นที่ทำงานที่เชื่อมต่อสวน สีเขียวและ Co-Recreation ครั้งแรกใน Southeast Asia ที่สนามกีฬาปรับเปลี่ยนได้ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด LED Multi-Sports Court ที่เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 จนสามารถสร้างยอดขายจากทั้ง 2 โครงการได้ถึง 4,000 ล้านบาท” นายอุทัย กล่าว
You must be logged in to post a comment Login