- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 12 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
‘ผู้นำญี่ปุ่น’รุดพบ‘ทรัมป์’?
ด้วยปัญหาค้างคาใจหลายประเด็น ทำให้นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น รุดไปพบหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งที่ทรัมป์ยังไม่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ
อาเบะเป็นผู้นำประเทศคนแรก ที่เดินทางไปพบหารือกับทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบกันที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ นครนิวยอร์ก ไม่ใช่ที่ทำเนียบขาว เนื่องจากทรัมป์ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ
การพบหารือกันครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อ รวมทั้งประชาคมโลกในวงกว้าง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก 2 ประเทศเป็นชาติระดับนำของโลก และอีกส่วนคล้ายกับผู้นำญี่ปุ่นมีปัญหาร้อนคาใจ ต้องรีบไปถามทรัมป์ให้คลายสงสัย
การพบหารือกันใช้เวลา 90 นาที นานกว่าที่อาเบะกำหนดไว้เบื้องต้นถึง 2 เท่า สะท้อนถึงทรัมป์ให้ความสำคัญกับการเจรจาครั้งนี้
หลังการพูดคุย ผู้นำญี่ปุ่นออกมาแถลงข่าวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงประเด็นที่หารือกัน โดยให้เหตุผลว่า เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ และต้องการให้เกียรติประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง
สาระสำคัญที่อาเบะแถลง คือประเด็นที่ระบุว่า ทั้ง 2 พูดคุยกันด้วยท่าทีจริงใจ เปิดเผย และตรงไปตรงมา ทำให้ผู้นำญี่ปุ่นเกิดความมั่นใจว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ จะดำเนินต่อไปบนพื้นฐานความเชื่อมั่นระหว่างกัน
อาเบะระบุว่า ทรัมป์เป็นผู้นำประเทศที่เชื่อถือได้
สำหรับประเด็นที่มองกันว่า เป็น “ปัญหาคาใจ” ผู้นำญี่ปุ่น มาจากวาทกรรมของทรัมป์ระหว่างหาเสียงที่ประกาศว่า จะถอนทหารออกจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้งจะปล่อยให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เอง หากไม่ยอมแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ที่สหรัฐต้องแบกภาระหนักอึ้ง
หากทรัมป์ดำเนินการตามที่พูดจริง จะทำให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตกเป็นรองในการคานอำนาจกับจีนประจำภูมิภาค
นอกจากนั้น ว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐยังขู่จะยุติเข้าร่วมสัญญาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) เพราะเห็นว่าเป็นสัญญาทำลายการจ้างงานในสหรัฐ
ทีพีพีมีความสำคัญกับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นมีแผนใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งออกสินค้า ทีพีพีจึงเป็นความหวังที่จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็วขึ้น
นั่นคือปัญหาคาใจที่สำคัญ และจากท่าทีสะท้อนความสบายใจหลังพบหารือกับทรัมป์ สะท้อนถึงผู้นำญี่ปุ่นปลดล็อกความกังวลได้
แม้อาการคลายกังวล จะยังยืนยันไม่ได้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างที่คาดหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความหวัง
You must be logged in to post a comment Login