วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ผู้นำญี่ปุ่น’รุดพบ‘ทรัมป์’?

On November 21, 2016

ด้วยปัญหาค้างคาใจหลายประเด็น ทำให้นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น รุดไปพบหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งที่ทรัมป์ยังไม่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ

อาเบะเป็นผู้นำประเทศคนแรก ที่เดินทางไปพบหารือกับทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบกันที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ นครนิวยอร์ก ไม่ใช่ที่ทำเนียบขาว เนื่องจากทรัมป์ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ

การพบหารือกันครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อ รวมทั้งประชาคมโลกในวงกว้าง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก 2 ประเทศเป็นชาติระดับนำของโลก และอีกส่วนคล้ายกับผู้นำญี่ปุ่นมีปัญหาร้อนคาใจ ต้องรีบไปถามทรัมป์ให้คลายสงสัย

การพบหารือกันใช้เวลา 90 นาที นานกว่าที่อาเบะกำหนดไว้เบื้องต้นถึง 2 เท่า สะท้อนถึงทรัมป์ให้ความสำคัญกับการเจรจาครั้งนี้

หลังการพูดคุย ผู้นำญี่ปุ่นออกมาแถลงข่าวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงประเด็นที่หารือกัน โดยให้เหตุผลว่า เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ และต้องการให้เกียรติประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง

สาระสำคัญที่อาเบะแถลง คือประเด็นที่ระบุว่า ทั้ง 2 พูดคุยกันด้วยท่าทีจริงใจ เปิดเผย และตรงไปตรงมา ทำให้ผู้นำญี่ปุ่นเกิดความมั่นใจว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ จะดำเนินต่อไปบนพื้นฐานความเชื่อมั่นระหว่างกัน

อาเบะระบุว่า ทรัมป์เป็นผู้นำประเทศที่เชื่อถือได้

สำหรับประเด็นที่มองกันว่า เป็น “ปัญหาคาใจ” ผู้นำญี่ปุ่น มาจากวาทกรรมของทรัมป์ระหว่างหาเสียงที่ประกาศว่า จะถอนทหารออกจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้งจะปล่อยให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เอง หากไม่ยอมแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ที่สหรัฐต้องแบกภาระหนักอึ้ง

หากทรัมป์ดำเนินการตามที่พูดจริง จะทำให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตกเป็นรองในการคานอำนาจกับจีนประจำภูมิภาค

นอกจากนั้น ว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐยังขู่จะยุติเข้าร่วมสัญญาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) เพราะเห็นว่าเป็นสัญญาทำลายการจ้างงานในสหรัฐ

ทีพีพีมีความสำคัญกับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นมีแผนใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งออกสินค้า ทีพีพีจึงเป็นความหวังที่จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็วขึ้น

นั่นคือปัญหาคาใจที่สำคัญ และจากท่าทีสะท้อนความสบายใจหลังพบหารือกับทรัมป์ สะท้อนถึงผู้นำญี่ปุ่นปลดล็อกความกังวลได้

แม้อาการคลายกังวล จะยังยืนยันไม่ได้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างที่คาดหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความหวัง


You must be logged in to post a comment Login