วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เจ.เอส.พี.ร่วมทุนยักษ์ใหญ่จีนผุดโครงการ 10,000 ล้าน

On November 25, 2016

นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทจงเทียน คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ได้เข้ามาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งในโครงการแนวสูง ได้แก่ โครงการเจคอนโด สาทร-กัลปพฤกษ์ ที่เป็นอาคารชุดพักอาศัย 25 ชั้น แบบพาโนรามิควิว ให้กับบริษัทเจ.เอส.พี. ซึ่งเป็นการร่วมงานในโปรเจคใหญ่ที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินงานร่วมกัน ประกอบกับทางด้านบริษัทจงเทียนได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ของไทยแบบระยาว จึงยิ่งเป็นการตอกย้ำในด้านความมั่นคงต่าง ๆ ทำให้จงเทียนได้ตัดสินใจเข้ามาร่วมทุนกับเจ.เอส.พี.ในครั้งนี้

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาโครงการระดับเมกกะโปรเจค มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 160 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ตำบลบางเสร่ จังหวัดชลบุรี ลักษณะโครงการแบบ Mix used คือทำโครงการและที่อยู่อาศัยแบบไฮไรส์(Hi rise) และโลว์ไรส์(low rise) ผสมผสานกัน โดยบริษัทมีแผนจะเริ่มก่อสร้างเฟสแรกในไตรมาส1 /2560 มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ลักษณะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยว ภายใต้ชื่อ เจ แกรนด์วิลล์”

นายทนงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโปรเจคดังกล่าว บริษัทฯ มีความมั่นใจค่อนข้างสูง เนื่องจากมีความพร้อมในทุกด้านศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งโครงการที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยด้านหน้าโครงการจะติดถนนสุขุมวิท และด้านหลังเป็นพื้นที่ชายหาดติดทะเลจอมเทียน อีกทั้งยังมีความสะดวกในเรื่องการคมนาคม เพราะโครงการอยู่ในรัศมีใกล้กับสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งกำลังมีโครงการขยายสนามบินให้รองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คนต่อชั่วโมง และรอบข้างยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงภาคตะวันออก และโครงการพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา ซึ่งจะเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังไปพื้นที่ต่างๆในทุกรูปแบบ รวมถึงการมีโครงการเรือเฟอร์รี่ พัทยา-หัวหิน ซึ่งจะเปิดในเดือนมกราคม ปี 2560 นี้ และพัทยา-บางปู-หัวหิน ในปี 2561 ซึ่งสามารถให้บริการได้ถึง 3 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้โครงการยังรายล้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองพัทยา เช่น สวนนงนุช สวนน้ำการ์ตูนเนตเวิร์ค โอนเชี่ยนมารีน่า และ มิโมซ่าพัทยา เป็นต้น

ทั้งนี้บริษัทจงเทียน เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และยังมีธุรกิจหลายสาขากระจายอยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วทั้งประเทศจีน และในต่างประเทศ ได้แก่ ไทย ศรีลังกา มัลดิฟส์ รวมถึงแอลจีเรียในแถบแอฟริกาด้วย ขณะเดียวกันยังมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนซึ่งมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ซึ่งจะสามารถเข้ามาช่วยเสริมทัพความแข็งแกร่งให้ เจ.เอส.พี.ได้ทั้งในด้านการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และช่องทางด้านการตลาด การจัดจำหน่าย รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในด้านเทคโนโลยีและระบบความเป็นมาตรฐานของการก่อสร้าง ในฐานะท็อปไฟว์ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศจีน จึงคาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวใหม่ของการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต นายทนงศักดิ์ กล่าวสรุป

 


You must be logged in to post a comment Login