วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เห็นกงจักรเป็นดอกบัว / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On November 28, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ปัญหาน้ำท่วมที่จะมีการตั้งกระทรวง กรมน้ำ และให้เป็นวาระแห่งชาติ ถ้าทำได้ก็ดี แต่คงมีคนขวางเหมือนกัน เมืองไทยเราเรื่องจะป้องกันแก้ไขอะไรมันไม่ค่อยจะราบรื่น ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว น้ำท่วมเกิดความเสียหายกันยับเยิน พอเจอแล้งก็หนักอีก สงสารเกษตรกรทำไร่ทำนา

รัฐบาลชุดนี้จึงควรทำนโยบายเรื่องนี้ให้จริงจัง เช่น จะทำเขื่อนที่เป็นฝายแม้วเล็กๆ เขื่อนแม่วงก์ เขื่อนแก่งเสือเต้นอะไรก็ตาม ถ้าเรายังปล่อยน้ำเหนือให้ลงมาได้อย่างสะดวก ข้างล่างก็ตายกันทุกยุคทุกสมัย ไม่มีโอกาสจะฟื้น พอแล้งก็ขาดน้ำ เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะศึกษาเอาจริงเอาจังให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะความเสียหายเป็นหมื่นล้านแสนล้าน แต่ก็ยังไม่เท่ากับจิตวิญญาณมนุษย์เรามันห่อเหี่ยว เพราะลงทุนทำอะไรไปก็ล่มจมเสียหายหมด จะมีอารมณ์ทำมาหากินยังไง

เรื่องแล้งกับน้ำท่วมนี่ต้องจัดการให้ดี เป็นไปได้มั้ยจะทำเกษตรผืนใหญ่ มีการกั้นน้ำ มีบึงเก็บน้ำใหญ่ให้มันอยู่ในเนื้อที่ร้อยไร่พันไร่ รับประกันเกษตรกรว่าสามารถจะทำปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา สัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งยุคนี้มันมีเครื่องดูดน้ำที่สามารถส่งไปได้ 5 กิโล 10 กิโล เก็บน้ำในที่สูงแล้วปล่อยมาใช้ให้ที่ต่ำยามหน้าแล้ง

ก็น่าจะไม่ต้องมาล่ม มาจมกัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเองไม่ว่าจะเป็นเมืองน้ำ แต่บางที่อาตมาไปมีสาขาวัดอยู่ที่บางซ้ายมันก็ยังไม่ได้มากมายอะไร และบางที่มันก็ดอน แต่เราขาดการที่เรียนกันว่า แก้มลิง หลุมขนมครก ฝายน้ำต่างๆเนี่ยเรามีไม่พอ และเอางบประมาณไปทำอะไรกันที่มันสูญเสียเปล่าไปซะเยอะ ลงทุนสูงแต่ต้นทุนที่ได้ลงทุนมันได้กลับมาไม่คุ้มค่าก็เยอะ เราไปทำบ่อบำบัดคลองด่าน โทลเวย์อะไรต่างๆที่มันเป็นอนุสรณ์แห่งความบอบช้ำของความสูญเสีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความสูญเปล่าไปตั้งเยอะแยะ

แต่กับน้ำเรากลับไม่ได้ทำให้เพียงพอ ดูทำสะพานแขวน สะพานลอย ทางด่วน แต่แล้วเราไม่มีที่ระบายน้ำทางด่วน เราไม่มีที่เก็บน้ำไว้สูงให้มันเพียงพอที่จะทำได้ ไอ้ยางราคาถูก ถ้าจะทำฝายน้ำเป็นแบบต้นกระเจี้ยวลิง มันมองดูว่า มันก็เก็บน้ำ เก็บอะไรแม้กระทั่งสัตว์ตกไปเป็นอาหารมันได้ ธรรมชาติพวกนี้อาจจะทำให้เหมือนเด็กโรงเรียนสุราษฎ์พิทยาที่คิดทำนวัตกรรมเก็บน้ำคล้ายๆกับดอกต้นสับปะรดสี นี่ได้อย่างหนึ่งแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือ ยังไงเสียการเก็บน้ำในที่สูงเนี่ยมันอาจจะซึมลงมาใต้ดินทำให้น้ำใต้ดินขาดแคลนด้วย เจาะน้ำบาดาลก็ไม่ต้องลึกมาก

ทราบข่าวว่ามีบุคคลที่มีทุนทางสังคมสูงอย่าง “ตระกูลเตชะไพบูลย์” ไปทำน่านโมเดล ทำหลุม ทำบ่อไว้บนเขา ไม่ได้ทำใหญ่ ทำเล็กทำน้อยไปเรื่อยๆ ปีหนึ่งทำ 10 20 30 พอ 40-50 ปีข้างหน้าก็จะเก็บน้ำฝนตามธรรมชาติ ใช้แบ็คโฮตัวใหญ่ๆสามารถตักดินได้วันหนึ่งตั้งเยอะแยะ ปล่อยปลาแทนปลูกข้าว หรือสลับกันก็ได้

เราไม่ฉลาดแก้ไข ไม่เจ็บก็ไม่จำ ถ้าเจ็บแล้วจำ เอามาเป็นบทเรียน ก็ทำให้เราได้สติปัญญาขึ้นมา เราก็จะเป็นประเทศที่เป็นต้นแบบได้ ตอนนี้เรามัวแต่สาละวนเถียงกันเรื่องน้ำท่วมปี 2554 มาทะเลาะทำไมปี 2559 ประเทศไทยมีอะไรดีหมด เสียอย่างเดียวคือ คนไทยมัวแต่ขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้งกัน แทนที่จะร่วมมือร่วมใจป้องกันภัย ทำให้หนักเป็นเบา ยากกลายเป็นง่าย ช้ากลายเป็นเร็ว ภัยมากกลายเป็นภัยน้อย

มัวแต่ขัดแย้งทะเลาะกันจนหัวไม่มีที่จะสร้างสรรค์ พัฒนาแก้ปัญหาภัยพิบัติ กลับเป็นโอษฐ์ภัยคือเอาปากทิ่มแทงกัน ทะเลาะกัน ถ้าเขาบอกว่าประเทศไทยมีอะไรดีหมด เสียอย่างเดียวมีคนไทย ถ้าไม่มีคนไทย ประเทศไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ คิดแล้วเศร้าใจ เรากำลังเจอภัยแล้วก็ยังมาทะเลาะกันเหมือนเห็นกงจักรเป็นดอกบัวกันหรืออย่างไร หันมาช่วยกันสุดๆเถอะ แล้วเราจะรอดหลุดพ้นภัยไปด้วยกัน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login