วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

คำสัญญา‘โดนัลด์ ทรัมป์’ / โดย ณ สันมหาพล

On November 29, 2016

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง
ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

นักการเมืองแนวประชานิยมผสมอำนาจนิยมอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาคำโตในช่วงหาเสียง ซึ่งได้มีการรวบรวมไว้ทั้งหมด 12 ข้อ แต่ละข้อล้วนทำให้คนทั้งโลกตะลึง ไม่ใช่เฉพาะคนอเมริกัน จึงมีการจัดอันดับความสำคัญของคำสัญญาดังนี้

1.เนรเทศผู้หลบหนีเข้าเมืองกับผู้อพยพที่ประพฤติไม่ดี 2.สร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก 3.ห้ามคนมุสลิมเข้าประเทศ 4.ยกเลิกระบบการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพิ่งผลักดันสำเร็จ 5.สร้างกองทัพใหม่พร้อมจับมือกับรัสเซีย 6.ลดกำลังคนภาครัฐบาล 7.ยกเลิกข้อตกลงกรุงปารีสเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก

8.ถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงเขตเศรษฐกิจแปซิฟิก รวมทั้งเปิดเจรจาแก้ไขข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ 9.ขยายการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศ รวมทั้งผ่อนคลายกฎควบคุมการขุดถ่านหิน 10.รื้อฟื้นการใช้กระดานจมน้ำมัดผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงให้จมน้ำระหว่างการสอบปากคำ เพื่อผู้ต้องสงสัยจะได้เปิดเผยความจริงและยอมรับสารภาพ 11.เปิดเจรจาแก้ไขข้อตกลงสหรัฐ-อิหร่านเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ทั้งที่ข้อตกลงเพิ่งมีการลงนาม และ12.ดำเนินคดีฮิลลารี คลินตัน ในข้อหาใช้อีเมล์ส่วนตัวทำงานราชการ

ผู้สันทัดกรณีประเมินความยากง่ายที่ทรัมป์จะทำตามคำสัญญาว่า คงทำไม่ได้ แม้แต่เรื่องฮิลลารี ซึ่งเอฟบีไอได้แถลงการตรวจอีเมล์แล้วว่าไม่พบว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคง และล่าสุดทรัมป์ก็ประกาศไม่ตั้งอัยการพิเศษเพื่อเอาผิดฮิลลารีแล้ว

เช่นเดียวกับเรื่องกระดานจมน้ำที่ต้องมีการร่างกฎหมายฉบับใหม่ควบคุม ซึ่งคงไม่มีนักกฎหมายคนใดกล้ารับงานนี้ อีกทั้งเมื่อร่างกฎหมายได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาคงไม่มีผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกล้าสั่งลูกน้องให้ใช้ เพราะต้องเผชิญกระแสต่อต้านจากทุกวงการและทั่วโลก

การจะเนรเทศผู้หลบหนีเข้าเมืองกับผู้อพยพที่ประพฤติไม่ดีก็ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอีก 3 เท่า ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนมาก แม้เพิ่มเจ้าหน้าที่ก็อาจมีปัญหาการตรวจสอบและคัดกรอง ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี คุ้มหรือไม่ ในที่สุดก็จะถูกยกเลิก

เช่นเดียวกับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกที่ต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านเหรียญแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการถือครองที่ดินและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี จนในที่สุดก็จะถูกยกเลิก

สำหรับการสร้างกองทัพใหม่ก็ประเมินว่าต้องใช้งบประมาณมากถึง 450,00 ล้านเหรียญ ไม่ว่าทรัมป์จะพยายามผลักดันอย่างไรก็คงไม่เกิด ทั้งยังมีกระแสต่อต้านนโยบายเป็นมิตรกับรัสเซียจากนายทหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ซึ่งอาจรุนแรงจนเป็นอุปสรรคสำคัญด้านความมั่นคง

ส่วนการจะลดกำลังคนภาครัฐ แม้ทรัมป์สามารถทำได้ทันที แต่กว่าจะเห็นผลคงต้องใช้เวลานาน เพราะต้องมีมาตรการต่างๆอีกมากมาย รวมถึงการกวาดล้างการทุจริตและสิทธิพิเศษต่างๆ

คำสัญญาข้อที่เหลือทรัมป์อาจทำให้เป็นจริงได้ แต่จะส่งผลกระทบและเกิดปฏิกิริยาต่อต้านมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะมาตรการห้ามคนมุสลิมเข้าประเทศจะยิ่งสร้างความเกลียดชังในสังคมมากขึ้นหรือไม่ แม้แต่กฎเกณฑ์เพื่อพิสูจน์การเข้าเมืองก็ใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น หรือจะเป็นชนวนความรุนแรงระหว่างสหรัฐกับประเทศอิสลามหรือไม่ ขณะที่ยังมีปัญหาเรื่องการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายกฎควบคุมการขุดถ่านหินที่อาจทำให้เกิดการผลิตพลังงานเกินความต้องการ ทั้งยังจะมีปัญหาการประท้วงของนักอนุรักษ์ธรรมชาติอีก

สำหรับการยกเลิกการเป็นพันธมิตรข้อตกลงกรุงปารีสเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก การจะถอนตัวจากข้อตกลงเขตเศรษฐกิจแปซิฟิก การเจรจาแก้ไขข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือการยกเลิกระบบให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ก็จะทำให้สหรัฐเป็นประเทศเจริญแล้วแห่งเดียวที่ให้การรักษาพยาบาลประชาชนไม่เพียงพอ

สุดท้ายการเจรจาแก้ไขข้อตกลงสหรัฐกับอิหร่านในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งประชาคมโลกต้องการให้มีข้อตกลงดังกล่าว

หากทรัมป์เดินหน้าทำตามคำสัญญาทั้งหมด ประชาคมโลกก็ต้องออกมาประณามสหรัฐ ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีในเวทีการเมืองระหว่างประเทศเลย


You must be logged in to post a comment Login