วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โละรัฐมนตรีทั้งหมด! / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On December 12, 2016

คอลัมน์ : ฟังจากปาก
ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

นายอุเทนกล่าวถึงผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นส่วนๆคือ 1.เรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจรอบบ้านและรอบโลกไม่ดี จึงส่งผลมาถึงประเทศไทย พื้นฐานของเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ไม่ควรที่จะอดอยากปากแห้ง แต่วันนี้ประชาชนอดอยากปากแห้ง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ตรงนี้น่ากลัว ที่ผ่านมารัฐบาลมองแต่ภาพกว้าง ไม่ได้มองภาพลึก อย่างเรื่องลงทะเบียนคนจน คนด้อยโอกาส ลงแล้วได้อะไร ช่วยอะไรเขา รัฐบาลไม่เคยมีมาตรการชัดเจนที่จะทำให้เขาสร้างผลผลิตออกมาได้ ผมไม่อยากเปรียบว่าประชาชนถูกมองเหมือนป็นขอทาน

2.ความสงบในบ้านเมือง ดูเหมือนจะสงบ แม้แต่คุณวิษณุ เครืองาม ยังบอกว่าหลังเลือกตั้งคงโกลาหลวุ่นวายอีก เพราะ 2 ขั้วการเมืองยังทะเลาะวิวาท ตรงนี้ถือว่าน่ากลัวมากถ้าประชาชนยังไม่ได้สติ ยังเลือกฝ่ายเลือกข้าง ยังไม่ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่ง ทำไมรัฐบาลชุดนี้มีโอกาสทำแล้วจึงไม่สามารถสร้างความปรองดองสมานฉันท์ได้ มีทั้งกำลังคน กำลังกฎหมาย ทุกอย่างมีหมด เสียอย่างเดียวท่านยังไร้ซึ่งความคิดอ่านที่รอบคอบอย่างแท้จริง ผมไม่อยากพูดว่าท่านคิดไม่ได้ ทำไม่เป็น

3.ที่รัฐบาล คสช. ประกาศว่าจะปราบการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ผ่านมายอมรับว่าการคอร์รัปชันยังมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า ทุกปัญหายังไม่ได้แก้ไข เรามัวแต่ไปทะเลาะเรื่องไร้สาระ ทะเลาะกับพระ ทะเลาะเรื่องบ้าๆบอๆ การปราบปรามทุจริตอย่างแท้จริงต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาด

ผมเคยเสนอให้ปฏิวัติเงินตราโดยแก้กฎหมาย พ.ร.บ.เงินตรา 2501 แต่ไม่เคยมีใครเอาจริงเอาจังเลยไม่ว่ารัฐบาลไหน ผมพูดตั้งแต่ปี 2547 แล้ว จนกระทั่งรัฐประหารใหม่ๆ ไม่เห็นมีใครกล้าเลย ผมวาดหวังและฝันเอาไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกล้าตอนรัฐประหารใหม่ๆ เพราะออกมาพูดนิดเดียวว่าจะยกเลิกและมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะธนบัตรแล้วให้นำมาแลก แล้วก็เงียบไป ท่านกลัวหยิกเล็บเจ็บเนื้อหรืออย่างไร

4.ปัญหาการศึกษาที่ล้มเหลว ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าเลิกบ่าย 2 โมงแล้วมีเวลาให้ไปโน่นไปนี่ ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเรียนรู้จริงหรือไม่จริง ท่านมีระบบติดตามและตรวจสอบอะไร เท่าที่ประเมินผมขอยืนยันว่าการศึกษาล้มเหลวและไม่มีทางแก้ไขได้ด้วยวิธีการให้เลิกเรียนเร็วขึ้น แม้แต่ไม่ให้นักเรียนตีกัน หรือจะแก้ปัญหาจราจรโดยให้แต่ละชั้นเลิกคนละเวลา ผมบอกได้เลยว่าเป็นวิธีคิดที่ปลายเหตุ

รัฐมนตรีหลายคนก็ล้มเหลว ผมขอใช้คำว่า “ล้มเหลว เก่งไม่จริง” แต่มีวาสนาได้เป็นรัฐมนตรี สุดท้ายประชาชนก็สิ้นเนื้อประดาตัวทั้งฐานะและความคิด เมื่อมีการเลือกตั้งประชาชนก็จะถูกครอบงำเหมือนเดิม พอเลือกตั้งก็กลายเป็นว่า 2 พรรคการเมืองใหญ่มาสู้กัน ฝ่ายหนึ่งชนะ ฝ่ายหนึ่งก็ต้องแพ้ สุดท้ายฝ่ายแพ้ก็จะขัดขาฝ่ายชนะเหมือนเดิม เป็นหนังม้วนเดิมทุกอย่างทุกประการ แล้วประเทศชาติจะไม่ล้มละลายได้อย่างไร

โละรัฐมนตรีออกยกชุด

เมื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่เป็น ทำงานล้มเหลว แล้วทางออกในการแก้ปัญหาควรจะเป็นอย่างไร ผมเคยเสนอให้ยุบพรรคการเมืองทั้งหมดที่เรียกว่าเซตซีโร่ เคยเสนอให้ยุบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และยุบองค์กรอิสระ แล้วเริ่มต้นสรรหากันใหม่อย่างเที่ยงธรรม หาคนเก่งๆ คนดีๆจริงๆ

ผมขอร้องคนที่มีอำนาจอย่าใช้ประเทศชาติเป็นสนามทดลอง เอาประชาชนเป็นหนูทดลอง เป็นตัวประกัน พวกท่านไม่ว่าจะเป็นนักกฎหมายฝ่ายฝรั่งเศสหรือฝ่ายเยอรมัน ท่านทำร้ายประชาชนและประเทศชาติมามากแล้ว อยากกราบเรียนนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. ต้องกล้ามากกว่านี้ ไม่ใช้คนเดิมๆ ต้องไม่กินเหล้ายี่ห้อเดิม ยังมีเหล้าอีกหลายยี่ห้อที่รสชาติดีกว่า เพียงแต่ท่านจะกล้าใช้เขาหรือไม่ อย่าหวาดระแวง เชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศชาติและรักสถาบัน

ปัญหาของคณะรัฐมนตรีชุดนี้คือทำงานไม่เป็น ผมเสนอให้โละๆ แล้วกล้าใช้คนกล้าคนใหม่ แค่หวยแพงยังปราบไม่สำเร็จแล้วมีกฎหมายไว้ทำไม ถ้าท่านทำจริงท่านแก้ไขได้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ไปจัดการเสือไม่กี่ตัว ทั้งที่กฎหมายอยู่ในมือท่าน ผมพูดได้คำเดียวว่าต้องมีคนที่มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น ท่านอย่าเป็นแค่เสือคำรามเพื่อให้เหล่าสัตว์ทั้งมวลหมอบราบ ท่านต้องกล้าที่จะกิน เป็นเสือต้องกินเนื้อ อย่ากินหญ้า

ดังนั้น ควรโละรัฐมนตรีทั้งหมด ผมถามคนไหนเก่งบ้างล่ะ คนไหนคิดเป็น ทำได้บ้าง อย่างคุณสมคิด (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ) คิดได้ยังไงเอาเงินไปแจกชาวนา ไปแจกโน่นแจกนี่ ขึ้นโน่นขึ้นนี่ คุณใช้ระบบขึ้นอย่างเดียวเลย คุณกำลังส่งเสริมให้ประเทศชาติมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือเกิดปัญหาเงินฝืดแน่นอน

ผมถามว่าแล้วคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบไหน ผมถามคุณทำอะไร คุณขึ้นค่าแรงอีก 6 บาท ขึ้นเพื่ออะไร 6 บาทต่อวัน ขึ้นทำไม ทำไมคุณไม่คิดลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ผมเคยบอกว่าต้นทุนครัวเรือนกับต้นทุนการผลิตสามารถลดได้ ทำไมเราไม่คิดลดบ้าง ทำไมมีแต่เพิ่มอย่างเดียว อย่าเชื่อแนวคิด 2 สูงของซีพี เพราะไม่ใช่ทฤษฎี ทฤษฎีต้องพิสูจน์ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาแอบอ้าง อยากจะทะเลาะกับซีพี อยากจะพูดว่า 2 สูงแม้แต่แทงไฮโลเขายังหัวเราะเลย มันต้องต่ำเท่านั้น ไม่มีสูง

การทำหน้าที่ของสื่อเมืองไทยก็ไม่ได้เป็นอิสระ ไม่เป็นสื่ออย่างแท้จริงเหมือนต่างประเทศ ถ้าเป็นสื่อจริงๆประชาชนจะซื้อคุณ สถานการณ์ของประเทศขณะนี้มันลำบาก ไล่ตั้งแต่ประชาชนคิดไม่เป็น รัฐก็คิดไม่ได้ แล้วสื่อก็เป็นอย่างนี้ สงสารประเทศไทย

แนวโน้มการเมืองไทย

ไม่ว่าจะร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร การเมืองไทยก็ต้องกลับไปสู่การเลือกตั้ง กฎหมายลูกเรื่องพรรคการเมืองถ้าเขียนแย่เท่าไร ผมบอกเลยว่าประเทศชาติก็ถอยหลังเท่านั้น ไม่ต้องเขียนอะไรมากเลย ยุบพรรคและให้ตั้งง่าย อย่าไปคิดอะไรมาก อย่าไปคิดแทนประชาชน คุณจะไม่ให้มีการหาเสียงหรือกำหนดจุดการหาเสียง ผมบอกเลยว่าอย่าทำเหมือนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ครั้งแรก สุดท้ายแล้วคนดังๆที่เป็น ส.ว. ทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง ส.ว.ยุคนั้น ผมถึงบอกว่ากลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับเก่า ไม่ต้องมีองค์กรอิสระ ไม่ต้องมีอะไรทั้งสิ้น ใช้จังหวัด ผู้ว่าฯ กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเลือกตั้ง ถอยหลังเหมือนเดิมหมด แล้วให้ประชาชนล้างใจและล้างความคิดตัวเองด้วยเวลาในอนาคต

ผมขอฝาก พล.อ.ประยุทธ์อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องกฎหมายลูก กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จะออกมา ขอให้เป็นกฎหมายที่ใช้และปฏิบัติได้จริง ได้ง่าย เข้าใจง่าย อย่าเขียนเพื่อสร้างปัญหาให้กับการเลือกตั้งหรือใช้กฎหมายอีกเลย เพราะเท่าที่ทราบในการเขียนกฎหมายนั้น โดยเฉพาะกฎหมายพรรคการเมือง กกต. เริ่มคิดอะไรแผลงๆ ขอให้ท่านบอกให้ กกต. หยุดคิดอะไรแผลงๆ ทำอะไรให้บ้านเมืองไปได้ก็แล้วกัน ควรจะเซตซีโร่ แล้วอย่าไปตั้งกฎกติกาอะไรที่บ้าๆบอๆ เช่น ส.ส. 500 คน ทุกคนจะต้อง 2,000 อะไรอย่างนี้ ซึ่งมันฝืนธรรมชาติ อย่าทำอะไรที่มันฝืนธรรมชาติความเป็นคนไทย ขอฝากให้ท่านแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะไม่สามารถยุติความแตกแยกและวุ่นวายได้

ปลายปี 2560 จะมีเลือกตั้ง

ผมเชื่อในโรดแม็พที่ คสช. วางไว้ แต่กฎหมายลูกที่ออกมาจะมีกระบวนการที่ไม่สามารถทำให้เลือกตั้งในปีหน้าได้ เพราะถ้าเผื่อเซตซีโร่ ต้องตั้งกติกาใหม่ จะต้องมีการประชุมพรรค ต้องมีอะไรต่างๆไปคิดก็จะยืดยาวออกไป อย่างไรก็ตาม แม้ปลายปี 2560 จะไม่มีการเลือกตั้งก็คงไม่เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง เพราะคนไทยไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของปวงชนชาวไทย คนไทยมีนิสัยพื้นฐานรักสงบ เอาตัวรอด เรียกว่ารอดก็พอ ไม่เกี่ยวกับกู นี่คือความยากลำบาก

ผมเห็นว่าการเลือกตั้งอาจจะเลื่อนไปถึงประมาณเดือนเมษายนหรือมิถุนายน 2561 ผมบอกเลยว่าวันนี้ยิ่งช้ายิ่งดี เพื่อประชาชนจะได้หูตาสว่าง ท่านจะเลือกนักการเมืองสายเก่า หรือจะเอานักการเมืองชุดเดิมๆ หรือจะเอาวิธีคิดแบบเดิมๆ เขาจะได้มีเวลาคิดนานๆ

รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง

ผมไม่เชื่อว่าพรรค A และพรรค B ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค จะได้เสียงเกินครึ่ง และถ้าจัดตั้งรัฐบาลผมก็เชื่อว่า 2 พรรคใหญ่ไม่มีทางได้คะแนนเท่าเดิม ผมคิดว่าน้อยกว่าเดิมไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งนั้น ผมมั่นใจว่าทั้ง 2 พรรคได้เก้าอี้ ส.ส. น้อยลงแน่นอน เพราะฉะนั้นการตั้งรัฐบาลครั้งหน้าจะเป็นการตั้งรัฐบาลที่เรียกว่าจับปูจับหอยใส่กระด้ง จับทุกอย่าง สุดท้ายพูดได้คำเดียวว่าเละ เพราะจะเกิดกระบวนการร้องขอให้ได้ซึ่งอำนาจคือตำแหน่ง จะมีการต่อรองตำแหน่ง ต่อรองงบประมาณกันอย่างมหาศาล แล้วการบริหารจะยากมาก ใครเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้ารัฐบาลผมฟันธงได้เลยว่าโดนเละ

พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯคนนอก

ยังไงก็หลีกไม่พ้น ยังไง พล.อ.ประยุทธ์เป็นแน่นอน ส่วนตัวผมเลื่อมใสในตัวท่าน เพราะท่านกับผมอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกัน ถ้าผมเข้าโรงเรียนเตรียมทหารผมก็เข้ารุ่นท่านนี่แหละ เพื่อนผมก็อยู่ในรุ่นท่านและเป็นเพื่อนรักท่านด้วย ผมเชื่อว่าท่านกับผมนิสัยคล้ายกันคือ เป็นคนที่มุทะลุดุดัน โฉ่งฉ่าง แต่จริงใจ แต่ท่านไม่เหมือนผมอย่างเดียวคือ กล้าคิด กล้าทำ ผมขอบอกว่า ถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็คุมรัฐบาลหน้าไม่อยู่แน่นอน ไม่ว่าพรรคที่เป็นฝ่ายค้านเดิมหรือพรรคที่เป็นรัฐบาลเดิมจะเป็นฝ่ายค้านก็เอาไม่อยู่หรอกครับถ้าท่านปล่อยให้เป็นอย่างที่ผ่านมา 2 ปีกว่า

ผมถามว่าเรื่องทุจริตคอร์รัปชันกี่เรื่องที่ท่านไม่ได้แก้ไขแล้วใช้ระบบองค์กรอิสระรับรองกันมา อีกไม่ช้าหัวหน้าองค์กรหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบก็จะถูกตรวจสอบโดยศาลอยู่แล้ว ซึ่งจริงเท็จอย่างไรผมไม่รู้ ไม่ได้ศึกษา เป็นการฟ้องร้องระหว่างคนภายในกันเอง ผมเห็นฟ้องทีไรตัวหัวหน้าก็ผิดทุกครั้ง เพราะตัวเองมัวแต่ลุ่มหลงและยึดติดในฐานันดรของตัวเอง แล้วก็รับใช้ผู้มีอำนาจ

ตราบใดที่ข้าราชการไม่ได้เป็นข้าราชการของประชาชนและของพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นของผู้มีอำนาจที่ไม่แท้จริง ไม่ถาวร วันนั้นท่านก็ต้องถึงจุดจบ กี่คนแล้วที่เข้าไปอยู่ในคุกตอนนี้ ผมขอบอกว่าไม่ต่ำกว่า 10 คนแล้ว ทั้งอดีตองค์กรอิสระ อดีตรัฐมนตรี โดนทั้งนั้น จริงๆคุกไม่มีที่ขังถ้ากล้าทำ

ผมขอยืนยันคำเดิมว่า แม้จะเลื่อมใสนายกรัฐมนตรีว่ามีความตั้งใจจริง แต่ท่านต้องเปิดหูรับฟังเสียงสะท้อนจากคนที่ท่านไม่รู้จักด้วย คนที่อยู่ห่างไกล ห่างหูห่างตาท่าน ยังมีเพชรเม็ดงามอีกหลายเม็ดที่เป็นเพชรจริงๆ ไม่ใช่ถูกหลอกว่าเป็นเพชรอยู่รอบตัวท่าน เวลานี้ท่านต้องกล้า


You must be logged in to post a comment Login