วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ช็อปช่วยชาติ

On December 14, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ยังคงโหมโรงออกแขกกันต่อไป สำหรับกรณีบุกจับกุมพระธัมมชโยของหน่วยงานรับผิดชอบอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ

แม้จะได้หมายค้นวัดพระธรรมกายจากศาลมาแล้วโดยหมายมีอายุใช้งานตั้งแต่วันที่ 13-16 ธันวาคม แต่มีข่าวว่าจะต้องยื่นขอหมายค้นใหม่เพื่อขออำนาจตรวจค้นได้ต่อเนื่อง ทั้งกลางวันกลางคืน

ก็ต้องดูว่าจะโหมโรงออกแขกกันไปอีกนานแค่ไหน หมายค้นที่อยู่ในมือจะหมดอายุไปโดยไม่ได้ใช้งานหรือไม่

แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้สร้างความแตกแยกไปไกลแล้ว หากดูจากมวลชนที่หลั่งไหลเข้ามาในวัดพระธรรมกาย การวางสิ่งกีดขวางทางเข้าออกวัด และการเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย อย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ถึงตอนนี้นับนิ้วดูได้ 21 คดีเข้าไปแล้ว เมื่อถึงเวลาบุกเข้าจับตัวพระธัมมชโยแล้วมีคนขัดขวาง คดีความคงบานปลายไปเป็นร้อยเป็นพันคดี

เรื่องพระธัมมชโย เรื่องวัดพระธรรมกายอย่างไรก็ต้องจึงจุดสิ้นสุด ส่วนจะสิ้นสุดอย่างไรคงได้รู้กันในเร็วๆนี้

พักจากเรื่องพระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ไปดูผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมออกมติน่าสนใจเรื่องหนึ่งคือมาตรการช็อปช่วยชาติ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันนี้ (14 ธ.ค.) ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ประชาชนซื้อสินค้าและบริการสามารถนำใบกำกับภาษีนำมาลดหย่อนได้ไม่เกินคนละ 15,000 บาท

รัฐบาลหวังว่ามาตรการนี้จะทำให้เกิดเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มากกว่าปีที่แล้วที่นำมาตรการนี้มากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกเท่าตัว

เงื่อนไขช็อปช่วยชาติได้ลดหย่อนภาษี ไม่รวมการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พวก สุรา เบียร์ ไวน์ รวมไปถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน ก๊าซ และไม่รวมค่าบริการที่จ่ายให้ผู้ประกอบการเป็นค่านำเที่ยว มัคคุเทศก์ ค่าที่พัก โรงแรม

มาตราการช็อปช่วยชาติที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกช่วงปลายปีที่แล้ว ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องย้อนแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลพูดว่าเศรษฐกิจของชาติผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและกำลังฟื้นตัวดีขึ้น เพราะถ้าเศรษฐกิจดีจริง ทำไมต้องออกมาตรการมากระตุ้นให้ประชาชนใช้เงิน

เมื่อมากลับมาใช้ใหม่อีกรอบในปีนี้ คำถามเดิมไม่มีแล้ว เพราะทุกคนรับรู้และยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจของชาติอยู่ในช่วงขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก) ภาครัฐจึงต้องออกหลายมาตรการมากระตุ้น

แต่คำถามใหม่ที่เกิดขึ้นมาในปีนี้คือ “ใคร” คือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากมาตรการช็อปช่วยชาติที่ว่านี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ ห้างร้าน หรือประชาชนหาเช้ากินค่ำที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำมากที่สุดในเวลานี้ เพราะถ้านับประชาชนที่อยู่ในฐานข้อมูลเสียภาษีที่จะได้ประโยชน์จากการลดหย่อนก็มีอยู่ประมาณ 3,000,000 กว่าคนเท่านั้น

คำถามนี้หาคำตอบได้ไม่ยาก ใคร กลุ่มไหนที่ออกอาการลิงโลดดีใจกับมาตรการช็อปช่วยชาติอย่างออกหน้าออกตาก็คนกลุ่มนั้นแหละที่ได้ประโยชน์


You must be logged in to post a comment Login