- อย่าไปอินPosted 14 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ไม่มีความหวัง
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
แล้วเวลาก็เดินมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี พ.ศ.2559
ปีลิงจ๋อที่กำลังจะผ่านไปนี้เป็นปีที่คนไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกันอย่างทั่วหน้า แม้ว่ารัฐบาลทหาร คสช.จะยืนยันว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเดินมาถูกทาง ออกสารพัดมาตรการมากระตุ้นตั้งแต่ตั้งปียันท้ายปี และให้ความหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าสภาวะเศรษฐกิจไม่มีแนวโน้มที่จะดีอย่างที่พูด
ในปี พ.ศ.ใหม่ 2560 ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีความหวังที่จะได้เห็นสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว
ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งสินค้าออกเป็นหลัก ซึ่งเมื่อดูจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวน มีความไม่แน่นอนสูงจึงส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีความไม่แน่นอนไปด้วย
ตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างจีน สหรัฐ ยุโรป ได้หันไปแก้ปัญหาของตัวเองด้วยการเร่งปั๊มเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่สำคัญยังต้องดูว่าเมื่อนายโดนัล ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้วจะมีความชัดเจนเรื่องแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างไร แน่นอนว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกด้วย
ความไม่แน่นอนยังเกิดขึ้นในกลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียูหลังการลงประชามติแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกอียูของอังกฤษ ต้องดูว่าเมื่ออังกฤษพ้นสมาชิกภาพมาแล้วผลการเจรจาต่อรองกับอียูเกี่ยวกับการค้าการลงทุนจะเป็นอย่างไร หากอังกฤษสามารถเจรจาจนได้รับเงื่อนไขที่ดี ได้รับข้อยกเว้นบางอย่าง นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจทำอียูถึงขั้นล่มสลายได้เพราะสมาชิกอียูชาติอื่นจะพากันเฮโลออกจากการเป็นสมาชิกในเมื่อออกมาแล้วสามารถต่อรองให้ได้รับข้อยกเว้นที่เป็นประโยชน์กับตัวเองได้มากกว่า
ถ้าอียูแตกแน่นอนว่าผลกระทบเกิดขึ้นกับทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ไทย
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายของจีนที่เริ่มปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่หันไปพึ่งพาเศรษฐกิจภายในมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกของจีนลดลง และการนำเข้าสินค้าก็ต้องลดลงด้วยเช่นเดียวกัน
การส่งออกที่เป็นหนึ่งในเครื่องจักรหลักในการปั๊มเศรษฐกิจไทยจึงมีความไม่แน่นอนต่อไปในปีหน้า แนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาลทหารคสช.คงจะทำได้แค่ประคองตัวด้วยการออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในเหมือนปีนี้
ทั้งนี้หากดูจากยอดคนว่างงานที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะทำให้พอมองเห็นสถานการณ์ในปีหน้าว่าจะมีแนวโน้มการว่างงานสูงขึ้นอีก
จากข้อมูลของสำนักงานประกนสังคมพบว่าช่วงต้นปี 2559 แค่ 2 เดือนแรกมียอดคนตกงานที่ขึ้นทะเบียนขอรับเงินชดเชยการว่างงานมาถึง 123,087 คน ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนในปี 2558 ตลอดทั้งปี ที่ 123,536 คน
เมื่อผ่านมาถึงเดือนตุลาคมตัวเลขผู้ขึ้นทะเบียนรับเงินชดเชยว่างงานพุ่งไปถึง 161,012 ราย ซึ่งต้องไม่ลืมว่านี่เป็นตัวเลขคนว่างงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมไม่นับรวมผู้ว่างงานที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าตัวเลขที่แท้จริงอยู่เท่าไหร่
เมื่อการส่งออกไม่ดี การลงทุนภาคเอกชนนิ่ง การลงทุนภาครัฐไม่ขยับตัวอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่มีความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้ในปีหน้า
รัฐบาลทหารคสช.ก็คงทำได้แค่ออกมาตรการกระตุ้นเป็นครั้งคราวเพื่อประคองตัวรอเวลาลงจากอำนาจหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2560
You must be logged in to post a comment Login