วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On December 28, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่องอย่างคุณไพบูลย์
นิติตะวัน บอกว่า พระธัมมชโย เป็นทั้งผู้สร้างและทำลายอาณาจักรธรรมกาย เป็นต้นเหตุทำให้คดีลุกลามถึงขั้นวิกฤตจนพบกับหายนะ แต่ถ้าไม่มีพระธัมมชโย ธรรมกายก็จะไม่ใหญ่โตขนาดนี้ จะไม่มีทั้งวัตถุก่อสร้าง จำนวนคนที่ศรัทธาและพระมากมายมหาศาลตระการตาเช่นนี้

เรียกว่าสร้างมาอย่างดีกับมือ แต่กลับทำลายด้วยตัวเอง ซึ่งโบราณเรียกว่า “เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า” อะไรทำนองนี้ คือทำให้เกิดคดีมากมายใหญ่โตจนกระทั่งกัดกินศรัทธาของผู้คนที่เคยศรัทธาสุดๆแม้แต่ลูกก็ให้ไปบวช แต่เดี๋ยวก็ถอนตัว ลูกก็สึกไป หลายคนก็ถอนตัวออกมา บางคนก็กลายมาเป็นผู้ต่อต้าน อย่าง นพ.มโน
เลาหวณิช ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมสร้างธรรมกาย เพราะเห็นว่าธรรมกายทำไม่ค่อยถูกแบบแผนธรรมวินัยของศาสนา

มีหนังสือพิมพ์เขียนถามพระชื่อดังว่า พระธัมมชโย อยู่ในวัดหรืออยู่ต่างประเทศ ท่านบอกว่าแม้จะอยู่ในวัดก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ เพราะเป็นอาณาจักรใหญ่ที่รัฐเข้าไปแตะต้องแทบไม่ได้ ขณะที่คดีต่างๆก็บานปลาย คุ้ยโน่นคุ้ยนี่จนมีคดีเพิ่มขึ้นมากมาย ถ้ายังไม่มอบตัวก็คงจะมีการขุดคุ้ยคดีขึ้นมาอีกในอนาคต และจะทำลายธรรมกายในอนาคต

เขาถึงเตือนว่าสร้างด้วยมือ แต่จะทำลายด้วยเท้า อันนี้เตือนกันมา สร้างได้ พังได้ เกิดได้ ดับได้ ตอนสร้างก็แลดี แต่ติดดีหลงดีก็เลยใหญ่จนบวม เหมือนอึ่งอ่างมันใหญ่พองตัวอวดลูกว่า วัวที่ลูกเห็นมันใหญ่เท่ากับแม่ ลูกบอกไม่ ก็พองตัวต่ออีก พองไปพองมา ตัวก็ระเบิด

เรื่องที่เกิดขึ้นจึงทำให้ยิ่งยุ่งและอยู่ลำบาก เมื่อดูดเงินมาได้เยอะ ตอนนี้ก็ไหลออกมาเยอะและไหลไม่หยุดถ้าเรื่องยังอึมครึมอยู่อย่างนี้

อาตมาไม่เคยเห็นยุคใดสมัยใดจะมีสื่อหลายฉบับหลายช่อง ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวีที่ออกมาชี้จุดด่าง จุดดำ จุดบอด จุดอ่อนของ พระธัมมชโย และ ธรรมกาย อย่างนี้

สมัยรุ่งเรืองใครๆก็ไปสยบทั้งนักการเมืองและผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หวังเป็นฐานที่มั่นคงของการเมืองหรือตำแหน่งอำนาจ แต่ขณะนี้ต่างคนต่างก็ผละหนี ที่อยู่ประคับประคองก็เร่มรู้สึกจะเปลืองตัว บางคนก็ต้องถอยไป ขืนไปแอ่นอกรับอาสาปกป้องคุ้มครองก็อาจแย่ไปด้วย ขนาดอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านหนึ่งออกมานิดเดียว สื่อยังกระหน่ำจนแทบจะหมดบุญบารมีเก่าที่สั่งสมมา บางคนก็หนีหายเข้ากลีบเมฆไป

คงไม่พ้นคำว่า “ลูกผู้ชายชาติพระ” ออกมารับแทนลูกศิษย์ลูกหาก็น่าจะทำให้ลูกศิษย์ลูกหาไม่ต้องเผชิญภัย ไม่ต้องไปสวดมนต์แบบหวาดผวา ไม่ต้องเข้าวัดไปด้วยความหวั่นไหว กลัวว่าเขาจะบุกมาเมื่อไร แทนที่จะเข้าวัดอย่างสบายใจ มีความสุข

ยังไงก็ขอให้กำลังใจรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ว่าจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยความสุขุมรอบคอบ ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้หายเข้ากลีบเมฆและปล่อยให้คนผิดลอยนวล มันจะเสียนิติรัฐ นิติธรรมต่อไปในอนาคต

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login