- อย่าไปอินPosted 14 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เรื่องต้องเคลียร์?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว นอกจากอากาศในพื้นราบจะไม่หนาวเย็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้แล้ว ยังมีเรื่องร้อนกว่าและทำท่าจะไต่ระดับความร้อนขึ้นเรื่อยๆในหลายประเด็นทางการเมือง
เริ่มจากเรื่องโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐและแฮกข้อมูลบุคคลในที่อยู่ในอำนาจรัฐนำมาเปิดเผย โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อ เครื่องถอดรหัสรุ่น SSLX-GEO จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องถอดรหัสรุ่น SSLX-T200 จำนวน 2 เครื่อง แม้จะมีคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่าไม่เคยจัดซื้อ แต่คำชี้แจงก็ยังมีข้อสงสัยที่ต้องการความกระจ่างเพิ่มเติมอีกพอสมควร หากรัฐบาลไม่สามารถเคลียร์เรื่องนี้ให้กระจ่างไม่ได้น่าจะเป็นปัญหาที่กระทบต่ออำนาจรัฐไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะหากมีการแฮกข้อมูลการใช้อำนาจด้านลบออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมอีก เพราะเพจ “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway” ได้นำเอกสารมีแฉว่า เครื่องถอดรหัสดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งซื้อของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ 163/2557 ระบุว่า
“…. การปฏิบัติงานภายใต้อำนาจหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าว พบว่ามีอุปสรรคในการตรวจสอบและปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัสป้องกันข้อมูล (SSL : Secure Socket Layer) จึงเห็นควรให้มีการจัดหาและทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์…..” (กรรมการชุดนี้มีตัวแทนจากกองทัพบก 4 นาย)
ขณะที่การจับตัวแฮกเกอร์ที่มีการนำของกลางออกมาเปิดเผยก็ยังมีคำถามกับกรณีที่ถูกระบุว่า แกนนำมีอายุเพียง 19 ปีและของกลางที่ประกอบด้วยอาวุธปืนหลายกระบอก เครื่องกระสุน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่กลุ่มผู้รู้ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอุปกรณ์ของกลางว่า มีหลายสิ่งเป็นอุปกรณ์ย้อนยุคเกินไปซึ่งแฮกเกอร์สมัยนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว และแฮกเกอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่นิยมความรุนแรง จึงไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืนกระสุนครอบครองจำนวนมาก
เป็นอีกกรณีที่รัฐบาลต้องเคลียร์ให้เกิดความชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับการจับกุมในครั้งนี้
นี่ก็แรงไม่แพ้กัน นอกจากขนกำลังจำนวนมากไปปิดล้อมวัดพระธรรมกายเพื่อจับกุมพระธัมมชโยแล้ว ล่าสุดทีวีดาวเทียวของธรรมกายสั่งถูกสั่งปิดตายห้ามออกอากาศอีกเมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มติเป็นเอกฉันท์ยกเลิกใบอนุญาตทีวีธรรมกายช่องดีเอ็มซี หลังจากก่อนหน้านี้สั่งพักใบอนุญาตชั่วคราว 30 วันฐานนำเสนอข่าวสารเป็นภัยต่อความมั่นคง
กรณีนี้ก็ต้องจับตาดูต่อไป จะบานปลายขยายวงความขัดแย้งออกไปแค่ไหน อย่างไร
อีกเรื่องร้อนที่แทรกคิวเข้ามาคือกรณีมีข้อมูลเปิดเผยว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกรัฐมนตรีปลูกบ้านหลังงามที่จังหวัดพิษณุโลกโดยไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
เรื่องนี้พล.อ.ปรีชาออกมายอมรับแล้วว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของตัวเองจริงสร้างเอาไว้อยู่หลังเกษียณอายุราชการ ส่วนยังไม่ได้แจ้งในรายการบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.เพราะตอนที่แจ้งบัญชีนั้นสร้างอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จได้เลขที่บ้านแล้วจะแจ้งรายการทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช.แน่นอน
สิ่งต้องติดตามดูต่อไปคือเรื่องนี้จะจบแค่การออกมายอมรับและการแจ้งรายการทรัพย์สินเพิ่มเติมกับป.ป.ช.หรือไม่
นอกจากประเด็นต่างๆเหล่านี้แล้วยังมีอีกหลายประเทศที่เริ่มก่อตัวมีอุณหภูมิอุ่นๆ รอพัฒนาไต่ระดับความร้อนขึ้นมาเป็นประเด็นใหญ่ในช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายปลายอำนาจของรัฐบาลทหารคสช.
You must be logged in to post a comment Login