- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
ส่อง‘เศรษฐกิจโลก2017’
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2016/12/4486e.jpg)
นักวิเคราะห์ชั้นนำหลายสำนัก มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า จะขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยสหรัฐ จีน สหภาพยุโรป (อียู) และอังกฤษ เป็นตัวแปรสำคัญ
บริษัท Focus Economics สำนักให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก แห่งสเปน ระบุผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพิ่มจาก 2.5% ในปีที่แล้ว ขึ้นไปที่ 2.9%
ขณะธนาคาร JPMorgan Chase & Co. คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ส่วนสำนักวิจัย Goldman Sachs Research มีมุมมองเชิงบวกมากกว่า โดยให้ตัวเลขไว้ที่ 3.0-3.5% ใกล้เคียงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 3.4%
ส่วนธนาคารโลกคาดว่าจะขยายตัว 2.8% โดยมองว่าสหรัฐจะขยายตัวมากกว่าปีที่แล้วที่ 2.2% ขณะจีนขยายตัวลดลงเหลือ 6.5% ญี่ปุ่นขยายตัวเท่าปีที่แล้วที่ 0.5% และไทยขยายตัวมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยที่ 2.6%
สำหรับกลุ่มประเทศอียู มีปัญหาหลักจากอิตาลีเผชิญวิกฤตภาคธนาคาร ปัญหาการเมืองในหลายประเทศ และปัญหาจากสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกอียู
แต่การทำงานของธนาคารกลางยุโรป ช่วยให้ปัญหาทางเศรษฐกิจผ่อนคลายลงได้ระดับหนึ่ง คาดว่าเศรษฐกิจอียูจะขยายตัว 1.5%
ขณะสหราชอาณาจักรก็เผชิญความไม่แน่นอนทางการเมือง คล้ายกับอียูหลายประเทศ ทำให้ภาคการลงทุนซบเซา ส่งผลกระทบต่ออัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม จากแผนที่ทรงประสิทธิภาพของธนาคารกลางอังกฤษ ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะเติบโตสูงกว่าปีที่แล้วที่ 1.3%
ส่วนสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทรัมป์ประกาศจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวปีละ 3.5% แต่นักวิเคราะห์บางสำนักคาดว่า เศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัวในปีนี้เท่ากับตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารโลกที่ 2.2%
สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จีน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ ยังคงเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวลดลงก็ตาม
ขณะความเสี่ยงที่สำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อยู่ที่ “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐกับจีน
หากทรัมป์ทำ “สงคราม” แรงกับจีน เป็นไปได้ที่ตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่ระบุทั้งหมด จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
You must be logged in to post a comment Login