- อย่าไปอินPosted 14 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
กุมภาพันธ์!
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2559 ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ถือว่าน่าสนใจ
ก่อนจะไปขยายความว่าน่าสนใจอย่างไร มาดูรายชื่อที่ปรึกษา คสช.ใหม่ตามประกาศก่อนว่ามีใครบ้าง
1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน 2.พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา 4.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา 5.นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษา 6.พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา 7.พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ปรึกษาและเลขานุการ
ส่วนเหตุผลตามประกาศที่ให้ไว้คือสืบเนื่องมาจาก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาและเลขานุการ ได้รับโปรดเกล้าฯเป็นองคมนตรี
เห็นรายชื่อแล้วน่าสนใจตรงที่หลายคนเคยนั่งในคสช.นั่งในคณะที่ปรึกษาคสช.มาก่อนแล้ว และต้องออกไปหลังรับตำแหน่งรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรีใหญ่ชุดที่ยกเครื่องทีมเศรษฐกิจใหม่หมด
การย้อนกลับมาเป็นที่ปรึกษาคสช.อีกครั้ง ทำให้มีคำถามว่า เมื่อนั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีแล้วจำเป็นหรือไม่ที่ต้องตั้งให้เป็นที่ปรึกษาคสช.อย่างเป็นทางการ
ในเมื่อหัวหน้าคสช.นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เจอหน้ารัฐมนตรีที่ตั้งมาเป็นที่ปรึกษาอยู่บ่อยๆที่ทำเนียบรัฐบาล สามารถปรึกษาหารือกันเมื่อไหร่ก็ได้ หรือถึงไม่เจอหน้าหากมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็ยกหูโทรศัพท์ปรึกษาหารือกันได้ตลอดเวลา
ทำไมต้องตั้งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีมาเป็นที่ปรึกษาคสช.อันนี้น่าคิด
เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลเกิดขึ้นอีกในไม่ช้าไม่นานนี้ หากพิจารณาจากคนเคยเป็นที่ปรึกษา คสช.ต้องออกจากที่ปรึกษาเพื่อไปรับตำแหน่งอื่น เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อได้ถูกตั้งกลับมาเป็นที่ปรึกษาอีกครั้งเป็นได้หรือไม่ว่าจะต้องพ้นตำแหน่งอื่น
หรือหากจะให้ถ่างขาควบสองตำแหน่งก็จะทำให้เกิดคำถามว่าทำไมเมื่อครั้งได้เป็นรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาคสช. ในเมื่อสามารถถ่างขาควบสองเก้าอี้มีสองสถานะได้
ว่ากันว่าทุกอย่างจะมีความชัดเจนภายในต้นเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยมีปัจจัยใหญ่บางประการบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลง
ส่วนปัจจัยใหญ่ที่ว่าจะเป็นอะไรนั้นเชื่อว่าคนที่ติดตามการเมืองคงน่าจะเดาได้ไม่ยาก
เอาเป็นว่าไว้รอดูความชัดเจนในอีกไม่นานเกินรอ
หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงตามกระแสข่าวที่มีในตอนนี้จะมีประเด็นใหญ่ให้พูดถึงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลในรัฐบาล
และหากมีการแก้เกมการเปลี่ยนแปลงตามที่มีกระแสออกมาก็ยิ่งน่าสนใจว่าสถานการณ์ของประเทศจะเดินไปสู่จุดไหนอย่างไร
ทำใจร่มๆ รอดูความชัดเจนในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
สถานการณ์ในตอนนี้ออกได้สองหน้า คือ มีการเปลี่ยนแปลงตามกระแสข่าวที่หลุดออกมา หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน
You must be logged in to post a comment Login