วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ถอนขนไก่! / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On January 16, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

เงื้อง่าจะจับ จะจับกันมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาฯปีที่แล้ว จนวันนี้ปีไก่ก็ยังไม่ยืนยันการจับกุม “หลวงพี่นะจ๊ะ” ที่กลายเป็นมนุษย์ล่องหน ไม่นับศิษย์ดังที่ปรากฏภาพบนโลกออนไลน์ไปนั่งรับลมหนาวกินอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆที่ปารีส งานนี้ลิเกหรือมวยล้มต้มคนดูอีกไม่นานคงรู้กัน ราคาต่อรองจับได้แทง 1 ได้ 1,000,000 ไม่รวมทุน…ฮา

ภาคใต้อ่วมอรทัยถ้วนหน้า “กำนันขาใหญ่” ออกมาเรียกร้อง “เงินบริจาค” แต่มีคำถามว่าเงินบริจาคสมัย “ปิดกรุงเทพฯปล้น” (เอ๊ย…ไม่ใช่ นั่นมันหนังแอ็คชั่นของ “ไอ้ปื๊ด” ธนิตย์ จิตนุกูล) “เงินบริจาค” จากแฟนคลับนกหวีดกับเงินช่วยชาวนาตอนนี้อยู่บัญชีใคร เพราะยังไม่มีคำตอบ

หลังแก้กฎหมายตั้ง “พระสังฆราช” ตอนนี้มีการประกบคู่ค่ายธรรมยุต 4 เจอค่ายมหานิกาย 4 ว่าใครจะคว้าเข็มขัด ซึ่งอีกไม่นานน่าจะมีคำตอบ โดยนินทาว่าจะเป็นรูปที่ไม่อยากเป็นและพยายามอยู่เฉยๆมาโดยตลอด แต่จะได้แบบ “ปฏิเสธไม่ได้” ที่จริงน่าจะให้ “ขาใหญ่” ซะก็หมดเรื่องกันไป

ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วแน่ แต่ “ดร.โกร่ง ศิษย์ป๋า” บอกว่ายิ่งกว่าหนาวยะเยือก เย็นเข้าไปถึงรูทวาร เดี๋ยวก็รู้ว่าปีนี้เผาจริงหรือไม่ ค้าขายรากหญ้าแห้งตายกันไปทีละภาคส่วน ดัชนีชี้วัดคือตลาดขายของกินหน้าบ้านที่มีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ เงียบระดับอิ๊บอ๋าย

การท่องเที่ยวเหี่ยวเฉา พรรคพวกทำกิจการโรงแรมร้องเป็นไก่โดนถอนขนกันทั้งเล้า ไม่นับร้านอาหารและสถานบันเทิง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ล่าสุดพรรคพวกระดับนักร้องชื่อดังและมือแซ็กโซโฟนทำร้านอาหารมา 4 ปี ลูกค้าหายไปครึ่งจากที่เคยมี แถมเจ้าของที่ดินขึ้นค่าเช่าอีก เลิกกิจการดีกว่า ขืนแบกต่อ บ้านและรถไปหมดแน่ ลูกเมียเดือดร้อนตาย รับงานเล่นดนตรีและร้องเพลงประทังชีวิตดีกว่า

การเมืองเรื่องเลือกตั้งยังโยนหินเป็นระลอกแบบตีปิงปอง “เลื่อน-ไม่เลื่อน” เอาว่าอยากทำอะไรก็เอาเลย จะเลือกตั้งปีไหนก็ไม่แตกต่างกันแล้วนาทีนี้ เรามาไกลเกินจุดที่จะพลิกตัวปรับสถานการณ์อะไรได้แล้ว ที่เหลือคือชะตากรรมร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ แต่เชื่อได้อย่าง ด้วยสันดานพี่ไทยหน่อมแน้มเกินกว่าจะมี “บางกอก อัพไรซิ่ง” หรือ “ระเบิดพลีชีพ” คาร์บอมบ์แบบแขกอาหรับ มีแค่ “ลิเกหลงโรง” เลือดตกยางออกทีไม่สำนึก เผลอแผล็บเดียวก็ลืมแล้วว่าใครทำเอี้ยอะไรไว้

ปีนี้จะเป็นรอบสุดท้ายแบบ “เจ๊งคัดออก” ของ “ทีวีดิจิตอล” หลังมีการเปลี่ยนมือ “เทคโอเวอร์” ของทุนใหญ่ระดับชาติอย่างกลุ่มขายยาหอมกับกลุ่มน้ำเมาสัตว์ใหญ่ ที่เหลือ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” อีกไม่นานจะรู้กัน อีกหน่อยสตูดิโอและการถ่ายทอดสดจะเหลือแค่มือถืออันเดียว สถานีโทรทัศน์ ห้องส่ง ห้องอัดใหญ่โตมโหฬารจะเป็นแค่โบราณสถาน ถึงตอนนั้นจะได้เห็นสถานีโทรทัศน์ร้างเป็นสิบแห่ง

ปิดท้ายกันสำหรับอาชีพเขียนหนังสือขาย เอาว่าเมื่อไร “โลกวันนี้” เลิกผลิตเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ เมื่อนั้นก็จะเป็นฉากสุดท้ายของ “สนานจิตต์ บางสพาน” เพราะตอนนี้เหลือเวทีอยู่แค่ 2 แห่ง รายได้ไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือนจะอยู่ยังไง

ส่วนจะไปทำอะไรคงอีกไม่นานจึงจะได้คำตอบ…ฮา


You must be logged in to post a comment Login