- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
วิบากกรรมรัฐธรรมนูญใหม่ / โดย ลอย ลมบน
คอลัมน์ : จับกระแสการเมือง
ผู้เขียน : ลอย ลมบน
ก้าวข้ามปีใหม่มาไม่กี่วันการเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับชนิดไม่ต้องรอลุ้นนาน
ความชัดเจนที่ว่านี้มาจากปากของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
“บิ๊กตู่” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาได้หารือกับองคมนตรี
ประเด็นของการหารือคือ ได้รับแจ้งว่าภายหลังองคมนตรีได้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯถวายแล้ว มีพระราชกระแสรับสั่งลงมา 3-4 รายการให้แก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นไปตามพระราชอำนาจ
สำนักราชเลขาธิการจึงทำเรื่องมาที่รัฐบาล รัฐบาลรับสนองพระบรมราชโองการ โดยจะใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เปิดช่องให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
เมื่อแก้เสร็จแล้วจะแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อ โดยใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน ถึงจะทูลเกล้าฯอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ
จากปากคำของ “บิ๊กตู่” ชัดเจนว่าไม่ต้องรอลุ้นจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ทูลเกล้าฯไปแล้วจะได้รับการโปรดเกล้าฯลงมาหรือไม่ เพราะจะใช้อำนาจมาตรา 44 ดึงกลับมาแก้ไขใหม่
ที่ต้องใช้อำนาจพิเศษมาตรา 44 แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อนำร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติแล้วกลับมาแก้ไขใหม่ เพราะของเดิมไม่ให้ปรับแก้ฉบับที่ผ่านประชามติแล้ว
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันกำหนดไว้เพียงว่า
“ในการออกเสียงประชามติ ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ และภายใต้บังคับมาตรา 37/1 ถ้าผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมากเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมภายในสามสิบวันนับแต่วันประกาศผลออกเสียงประชามติ และเมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับได้ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและพระราชทานคืนมา หรือเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป”
หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อเปิดทางจะไม่สามารถดึงร่างรัฐธรรมนูญที่นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วกลับมาแก้ไขได้
ที่สำคัญการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวยังทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ต้องตกไปทั้งฉบับตามเงื่อนไขเดิม ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มต้นนับหนึ่งยกร่างกันใหม่
เงื่อนเวลาตามที่ “บิ๊กตู่” บอกคือ ใช้เวลาแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวประมาณ 1 เดือน
จากนั้นใช้เวลาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจอีกประมาณ 2-3 เดือน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯใหม่อีกครั้ง
หมายความว่าจะส่งร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯได้อีกครั้งระยะเวลาสั้นสุดคือ 3 เดือน นานสุดคือ 4 เดือน
หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ไม่แตะเรื่องระยะเวลาในการใช้พระบรมราชวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญหลังทูลเกล้าฯที่กำหนดไว้ 90 วัน
หมายความว่าเมื่อแก้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งใช้เวลา 3-4 เดือนเสร็จและนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ต้องรอพระบรมราชวินิจฉัยอีกไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน
หลังนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯแล้วจะโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไรก็ได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน จะเร็วกว่านั้นหรือไม่ก็ได้แต่ต้องไม่เกินกว่า 3 เดือน
หากพ้น 3 เดือนแล้วไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯลงมาร่างรัฐธรรมนูญจะมีอันตกไป ต้องไปเริ่มกระบวนการร่างฉบับใหม่
ส่วนระยะเวลาในการจัดเลือกตั้งใหม่หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่แตะเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้เดิมที่กำหนดไว้ว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมีเวลาร่างกฎหมายลูกสำคัญนาน 8 เดือน โดยให้เริ่มนับจากวันที่รัฐธรรมนูญใหม่ได้รับการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีเวลาพิจารณาร่างกฎหมายลูกอีก 2 เดือน
ทั้งนี้ กฎหมายลูกที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งมีอยู่ 4 ฉบับ
เมื่อ สนช. พิจารณากฎหมายลูกสำคัญ 4 ฉบับเสร็จแล้ว กำหนดให้ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือ 5 เดือน
จะเลือกตั้งได้เมื่อไรต้องดูว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการได้เมื่อไร
วันใดที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ก็นับนิ้วต่อไปอีก 10 เดือนเพื่อทำกฎหมายลูก เมื่อกฎหมายลูกเสร็จก็มีเวลาสำหรับจัดเลือกตั้งอีก 5 เดือน
นี่เป็นไปตามเงื่อนเวลาเดิมที่กำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 หากไม่มีการปรับแก้ในส่วนนี้
สถานการณ์การเมืองวันนี้จึงมีความชัดเจนว่า
1.จะมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเปิดทางให้สามารถนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติจากประชาชนแล้วกลับมาแก้ไขใหม่ได้ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯอีกครั้ง
2.การเลือกตั้งที่ตามโรดแม็พเดิมกำหนดไว้ว่าจะมีขึ้นภายในปลายปี 2560 นี้ มีอันต้องเลื่อนออกไปก่อน ส่วนจะจัดเลือกตั้งได้เมื่อไรให้รอดูความชัดเจนของรัฐธรรมนูญใหม่ว่าจะประกาศใช้ได้เมื่อใด
ส่วนสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนคือ
1.การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้สามารถดึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติที่นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วกลับมาแก้ไขใหม่ได้นั้น จะมีการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวในประเด็นใดบ้าง
จะแก้เฉพาะให้อำนาจดึงร่างรัฐธรรมนูญกลับมาแก้ไข หรือจะอาศัยโอกาสนี้แก้ไขวิธีการให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าหากร่างรัฐธรรมนูญที่ดึงมาปรับแก้แล้วมีอันต้องสิ้นสภาพไม่ว่าด้วยเหตุผลใด จะมีวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างไร จะให้ใครร่าง จะใช้เวลานานเท่าไร
2.การแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนเวลาต่างๆให้เกิดความชัดเจนเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งหรือไม่
วันนี้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งเลื่อนไปเป็นกลางปีหน้า ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเมื่อถึงเวลาจะมีอะไรทำให้ต้องเลื่อนไปอีกหรือไม่
ได้แต่หวังว่ากระแสข่าวที่ลอยมาเข้าหูว่าการเลือกตั้งอาจถูกลากยาวออกไปไกลกว่ากลางปี 2561 อย่างที่พูดกันนั้นจะไม่เป็นความจริง
ถ้าหากเป็นความจริงหมายความว่าการเลือกตั้งจะไม่ใช่แค่ถูกลากยาวไปนานเกินกว่ากลางปี 2561 แต่จะถูกลากยาวไปไกลกว่านั้น ซึ่งบางกระแสพูดกันว่าอาจจะข้ามไปถึงปี 2562 หรือ 2563 กันเลยทีเดียว
You must be logged in to post a comment Login