- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 7 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
เซเดอร์เร่ ปลื้มกำไรปี 59 พุ่งขึ้น 9 %
นายนัยธาดา นันทน์วิธู กรรมการบริหาร บริษัท ทีมเฟอร์น (ไทยแลนด์ ) จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอน แบรนด์ เซเดอร์เร่ ( ZEDERE)เปิดเผย ผลดำเนินงานในรอบปี 2559 ว่า สามารถทำกำไร และ มียอดขาย 790 ล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 30 ล้านบาทจากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 820 ล้านบาท แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 มีกำไรเติบโต 9 % โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 2 ส่วน คือ ภายในประเทศ 85 ล้านบาท คิดเป็น 10 % ของรายได้ทั้งหมด และ ต่างประเทศ 705ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้มีการเติบโต เนื่องจาก เซเดอร์เร่ (ZEDERE ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ต่อสรีระของคนเอเชีย และถูกกับสรีระของคนจีน จึงทำให้เรากลายเป็นเจ้าตลาดในประเทศจีนอย่างง่ายดายทั้งนี้ ในเรื่องการสร้างการรับรู้แบรนด์ เซเดอร์เร่ เราสามารถสื่อสารเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรง มีการจัดส่งที่รวดเร็วส่งผลทำให้เรามียอดจำหน่ายที่สูงขึ้นประกอบกับ การบริหารองค์กรของเรามีความแข็งแกร่งอยู่เสมอซึ่งทำให้ธุรกิจเราเติบโตดังกล่าว
แผนงานด้านการลงทุน บริษัทฯเตรียมทุ่มงบประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับลงทุนเปิดสาขาใหม่ 5 แห่ง ในประเทศจีนตามหัวเมืองใหญ่ๆ โดยจะเน้นขายเฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอน แบรนด์ เซเดอร์เร่ 4 แห่ง และ อีก 1 แห่ง จะทำเป็นไลฟ์สไตล์โชว์รูม เหมือนในกรุงเทพมหานครซึ่งจะมีการขายกาแฟ หรือ ชา ควบคู่กับการขายเฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอน แบรนด์ เซเดอร์เร่
สำหรับในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเราก็จะเร่งหาพันธมิตร และออกงานแฟร์ต่างๆ ในประเทศดูไบก่อนหลังจากนั้น จึงค่อยขยับขยายไปยังประเทศต่างๆ คือซาอุดิอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และ บาห์เรน ตามลำดับ
ส่วนประเทศญี่ปุ่น จะมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องการผลิตสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้นกว่าเดิมแต่เดิมจะผลิตให้กับผู้สูงอายุบางกลุ่ม แต่ปี 2560 จะเน้นการผลิตให้เข้ากับทุกกลุ่มของผู้สูงอายุ
ด้านประเทศอเมริกา เราจะมุ่งเน้นปรับกลยุทธ์การจัดจำหน่าย ให้อยู่ในรูปแบบ แพคเกจและ เร่งหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆเข้ามาเสริมทีมพร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะเข้าไปบุกตลาดใหม่ในประเทศอินโดนิเชีย เพื่อมองหากลุ่มคนที่จะมีแนวโน้มเป็นพันธมิตรธุรกิจกับเราและดึงเข้ามาทำธุรกิจร่วมกัน คาดว่า สิ้นปี 2560 ทำให้มียอดขายรวม 900 ล้านบาท เติบโต 15 %
“แนวทางการทำตลาดในต่างประเทศเราจะมุ่งเน้นช่องทางออนไลน์นับจากนี้ไป โดยเน้นการสื่อสารและสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ผ่านทางสื่อดิจิตอล อาทิ เฟซบุ๊ค กูเกิล อินตราแกรมและไลน์เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเราเป็นรายแรกๆ รวมทั้งเพิ่มรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นแพคเกจให้มากขึ้นและแจ้งข่าวสาร สิทธิพิเศษ การลดราคาต่างๆให้กลุ่มลูกค้าทราบ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่”นาย นัยธาดา กล่าว
ด้านแนวทางการทำตลาดในประเทศไทยเรามีแผนการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่ผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดยจะเปิดโชว์รูมในรูปแบบไลฟ์สไตล์ อีก 2 แห่งเพิ่มเติม ในเขตตัวเมือง และรอบปริมณฑล พร้อมทั้ง จะมีการออกงานแฟร์ในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น และ มองหา แอมบาสเตอร์ เพื่อมาสร้างความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นการ ตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ ดังนั้นการทำตลาดในประเทศไทยเราไม่ได้มุ่งหวังที่ยอดขาย แต่ต้องการสร้างการรับรู้และสื่อสารแบรนด์ เซเดอร์เร่ ( ZEDERE ) ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่านั้น หากขั้นตอนดังกล่าวประสบผลสำเร็จยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นตามมา
You must be logged in to post a comment Login