วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แด่เธอผู้ปกป้องฟ้าไทย / โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ

On January 19, 2017

คอลัมน์ : โดนไป บ่นไป
ผู้เขียน : น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ

วันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่คงมีโอกาสออกมาสนุกสนานและเรียนรู้กับกิจกรรมต่างๆที่ผู้ใหญ่จัดให้ ถือเป็นโอกาสพิเศษของเด็กทุกคน เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เห็นได้สัมผัสอาจไม่ได้พบเห็นง่ายๆในยามปรกติ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญต่างๆของทางราชการ ตลอดจนได้หยิบสัมผัสและปีนป่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่กองทัพขนมาแสดงให้ชมอย่างใกล้ชิด

ผมมีโอกาสได้เป็นนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ ส่วนหนึ่งก็มาจากไปเที่ยวงานวันเด็กที่กองทัพอากาศจัดขึ้น ถึงวันนี้ยังจำได้ดีว่ารู้สึกประทับใจและได้รับแรงจูงใจมากแค่ไหนในการตัดสินใจสมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหารในเหล่าทหารอากาศ เพราะเครื่องบินแต่ละแบบที่นำมาจอดหรือนำมาบินโชว์นั้นล้วนแล้วแต่สร้างความฝันให้เด็กในวัยเยาว์อย่างผมมีความมุ่งมั่นจะต้องตามล่าฝันนั้นให้จงได้

เมื่อผมสำเร็จการศึกษาและเป็นนักบินของกองทัพอากาศ ทุกครั้งที่มีการมอบหมายภารกิจการบินในวันเด็ก ผมแทบจะไม่เคยพลาดและไม่เคยปฏิเสธ เพราะมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆให้ดีที่สุด โดยหวังว่าการปฏิบัติการบินของผมและพี่น้องนักบินจากกองบินต่างๆทั่วประเทศจะสามารถสร้าง air mind ให้เด็กๆเยาวชนของเราเกิดแรงจูงใจเชิงบวกได้ก้าวเข้าสู่รั้วกองทัพอากาศเมื่อเขาโตขึ้นเช่นเดียวกับผม

แน่นอนว่าการปฏิบัติการบินทุกครั้งย่อมมีความเสี่ยง ที่ผ่านมาเราคงได้ยินข่าวเรื่องเครื่องบินตกอยู่เนืองๆ และหลายครั้งที่นักบินและผู้โดยสารต้องเสียชีวิต ต้องเรียนว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีอยู่มากมาย แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครหน้าไหนอยากจะให้เกิดการสูญเสียแน่นอน เพราะโดยธรรมชาติของอาชีพนักบินต้องยอมรับว่ามีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุได้แม้เราจะเตรียมการบินและองค์ประกอบอื่นๆไว้แล้วอย่างดีก็ตาม แต่ถ้ามันจะเกิดบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ

วันเด็กปีนี้เป็นอีกครั้งที่เราต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเครื่องบินแบบกริพเพนของกองทัพอากาศประสบอุบัติเหตุตกขณะแสดงการบินให้เด็กๆและผู้ปกครองได้ชมที่กองบิน 56 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นผลให้นาวาอากาศตรีดิลกฤทธิ์ ปัถวี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ตอนที่ผมทราบข่าวว่าเครื่องตกและนักบินไม่ได้ดีดตัวออกมาด้วยก็รู้อยู่แก่ใจว่านักบินต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน แต่พอทราบว่าเป็น “ดิลกฤทธิ์” หรือ “แอร์” ต้องเรียนตามตรงว่ารู้สึกตกใจและเสียใจแทนครอบครัวของน้องแอร์เป็นอย่างยิ่ง

ตอนผมเป็นศิษย์การบินชั้นมัธยมฯอยู่ที่โรงเรียนการบินกำแพงแสนของกองทัพอากาศเมื่อปี 2530 ครูใหญ่ของเราชื่อนาวาอากาศตรีอารมณ์ ปัถวี หรือที่พวกเราเรียกสั้นๆว่า “ครูหวี” ผมขึ้นบินกับครูหวีหลายครั้ง ท่านเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี และทุ่มเทในการอบรมสั่งสอนลูกนกที่เพิ่งหัดบินอย่างพวกเรา ท่านเป็นครูการบินที่ได้รับการยกย่องและยอมรับทั้งจากเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้ชีวิตรับราชการของท่านรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ จนกระทั่งได้รับพระราชทานยศสูงสุดเป็นพลอากาศเอกแห่งกองทัพอากาศไทย

คงไม่ต้องเดาว่า“น้องแอร์” คือลูกชายของท่านนั่นเอง ในฐานะคนที่เป็นพ่อ ตอนที่ทราบข่าวหัวใจคงแหลกสลาย แต่ในสถานะนายทหารนักบินที่เคยรับใช้ชาติมาก่อน ท่านคงเข้าใจและยอมรับว่าการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่คือเกียรติอันสูงสุดของทหาร ซึ่งลูกชายของท่านได้เดินทางไปสู่จุดนั้นแล้วอย่างสมเกียรติสมความภาคภูมิในฐานะเสืออากาศของประเทศไทย แม้ท่านไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ตาม

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามออกมามากมาย ซึ่งผมคงไม่ลงในรายละเอียด แต่อยากจะเรียนทุกท่านแบบตรงไปตรงมาว่า อุบัติเหตุด้านการบินไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน ที่ไหนในโลกที่มีการแสดงด้านการบิน ที่นั่นย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ควรเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการแสดงการบินในวันเด็ก เพราะนอกจากไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องแล้ว ยังกลายเป็นการตัดโอกาสไม่ให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นและสัมผัสกับความฝันที่เป็นสิทธิของเด็กไทยที่ควรได้รับรู้

สำหรับนักเลงคีย์บอร์ดที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ในทางลบกันอย่างเมามันสนั่นโซเชียลผมคงไปห้ามอะไรไม่ได้ เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่สิ่งที่ผมทำได้คือ การสะท้อนข้อเท็จจริงจากตัวเองที่เคยรับราชการอยู่ในอาชีพนี้มายาวนานกว่า 17 ปี และมีประสบการณ์ในการบินกับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศเกือบทุกแบบว่าอาชีพนักบินรบเป็นอาชีพที่ต้องมีวินัยและมีความเสี่ยงสูง

ภารกิจการบินที่พวกเราฝึกกันเป็นเช่นเดียวกับการรบจริง แม้แต่การแสดงการบินในวันเด็กก็ถือเป็นภารกิจที่นักบินต้องเตรียมตัวและวางแผนการบินเหมือนกับภารกิจอื่นๆ ดังนั้น ใครก็ตามที่ด่าว่ากองทัพอากาศและผู้เกี่ยวข้องท่านอื่นๆเสียๆหายๆ และใช้ข้อมูลที่บิดเบือนและเป็นเท็จ ผมอยากเรียกร้องให้ยุติพฤติการณ์และรับฟังข้อมูลที่ถูกต้องก่อนจะตัดสินใจด่าว่าใครต่อไป

ผมพอเข้าใจได้ว่าสิ่งที่พวกเราฝึกกันนั้น คนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่ทราบว่าวันๆไอ้พวกนี้มันทำอะไรกันบ้าง และถ้าผมจะเขียนอธิบายในที่นี้ก็คงจะผิดวัตถุประสงค์ของคอลัมน์ ผมจึงอยากสรุปสั้นๆว่า สิ่งที่เราฝึกนั้นเหมือนกับนักบินรบทั่วโลกเขาฝึกและมีมาตรฐานเดียวกัน สำหรับบางท่านที่ชอบชมภาพยนตร์สารคดีด้านการบินคงพอจะมองเห็นภาพว่านักบินรบเขาทำอะไรกันบ้าง

แต่ถ้าใครนึกไม่ออกลองเปรียบเทียบกับอาชีพนักบินสายการบินก็อาจจะพอมองเห็นภาพได้บ้าง เพราะหากนักบินพาณิชย์ไทยกับต่างชาติสามารถขับเครื่องบินของตนเองพาผู้โดยสารเดินทางไปได้ทั่วโลก ก็หมายความว่านักบินทุกคนที่มีใบอนุญาตขับเครื่องบินต้องถูกฝึกฝนมาในมาตรฐานเดียวกันและเป็นที่ยอมรับเป็นสากลเหมือนกันนั่นเอง ซึ่งนักบินรบของไทยก็ต้องถูกฝึกและประเมินค่าในมาตรฐานที่เป็นสากลเช่นเดียวกัน

สัปดาห์นี้ผมตั้งใจจะนำเรื่องต่างๆอีกหลายเรื่องมาบ่นให้ฟัง แต่พอเขียนเรื่องนี้แล้วปรากฏว่ายาวกว่าที่ตั้งใจไว้ ดังนั้น เรื่องอื่นๆขอยกยอดไปสัปดาห์หน้า ก่อนจากกันขอมอบเพลง “แด่เธอผู้ปกป้องฟ้าไทย” ให้กับ “แอร์น้องรัก” หลับให้สบายครับ

แผ่นฟ้ายาวไกลสุดปลายเวิ้งว้าง ขอบฟ้าดูราวจะแสนยาวไกล มองฟ้าคราใดคิดถึงเพียงเธอ ป่านนี้เธอคงอยู่บนท้องฟ้า และคอยดูแลแผ่นดินของเธอ ด้วยใจอันมั่นคง

อยู่บนแผ่นฟ้าสีคราม อ้างว้างและเดียวดาย ห่างแผ่นดินแสนไกล เธอไม่เคยนำพา เธอสู้ทนยอมเสี่ยงภัย ท่องไปบนนภา พลีเพื่อปวงประชา เพื่อไทยคงเสรี

อยากขอให้เธอโปรดจงรู้ไว้ ว่าหัวใจคนบนผืนแดนดิน ยังรักและห่วงทุกทุกคืนวัน

ส่งรักลอยลมเพื่อเป็นแรงใจ ให้คุ้มครองเธอตราบนานเท่านาน ส่งใจไปให้เธอ

แด่เธอผู้ปกป้องฟ้าไทย


You must be logged in to post a comment Login