- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
บุรุษนิรนาม / โดย ศิลป์ อิศเรศ
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
กลุ่มคนที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์จากทั่วโลกรวมตัวกันในโลกออนไลน์ภายใต้ชื่อ Anonymous หรือบุรุษนิรนาม ภารกิจหลักคือ ก่อวินาศกรรมฐานข้อมูลและช่องทางสื่อสารด้วยระบบดิจิตอลของกลุ่มเป้าหมาย
คืนวันที่ 22 ธันวาคม 2016 Anonymous หรือที่ปัจจุบันพวกเขานิยมเรียกชื่อกลุ่มตัวเองแบบย่อๆว่า Anon ได้บุกยึดเว็บไซต์องค์กรลับนานาชาติ Bilderberg ทำการเปลี่ยนหน้าโฮมเพจเป็นข้อความตักเตือน บอกกับสมาชิกองค์กรลับนี้ว่า Anonymous ได้ทำการยึดเว็บไซต์นี้ไว้แล้ว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวบางคนตั้งข้อสังเกตว่า Anonymous อาจเจาะระบบเข้ามาในเว็บไซต์ Bilderberg ก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว พวกเขาใช้เวลาดูดข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ที่มีปริมาณหลายเทราไบต์ออกมาทั้งหมดก่อนที่จะเปลี่ยนหน้าโฮมเพจประกาศชัยชนะ
ข้อมูลเหล่านั้นถูกนำไปกลั่นกรองหาข้อมูลสำคัญๆที่จะนำมาใช้ฉีกหน้ากากเปิดโปงเบื้องหลังขององค์กรลับ Bilderberg ในอนาคตหากพวกเขาไม่ทำตามข้อเรียกร้อง
ข้อความของ Anonymous ค่อนข้างยาว ไม่สามารถแปลคำต่อคำมาลงในคอลัมน์ได้ สรุปเฉพาะใจความสำคัญก็คือ เรียกร้องให้ Bilderberg เปลี่ยนนโยบายจากการหาผลประโยชน์ให้พรรคพวกมาเป็นทำเพื่อผลประโยชน์ต่อสาธารณชน พวกท่านมีเวลา 365 วันในการเปลี่ยนนโยบาย หากไม่ทำตามข้อเรียกร้อง กลุ่ม Anonymous จะนำข้อมูลลับของสมาชิก Bilderberg ทุกคนออกมาตีแผ่ให้ชาวโลกได้รู้ถึงความเลวร้ายของพวกท่าน
องค์กรลับ
บางคนพยายามออกมาแก้เกี้ยวแทนว่าองค์กรลับอย่าง Bilderberg คงไม่ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อเว็บไซต์แน่ เว็บไซต์ที่ Anonymous เจาะเข้าไปนั้นเป็นเว็บไซต์ที่ทำไว้หลอกเฉยๆ แต่ขณะเดียวกันวิกิพีเดียยืนยันว่า Bilderbergmeetings.org คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Bilderberg
ชื่อองค์กร Bilderberg เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่สิ่งที่เป็นความลับคือภารกิจของพวกเขา เปรียบคล้ายๆกับหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐ CIA ซึ่งมีตัวตนจริงและทุกคนรู้จัก แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาทำอะไรบ้างเพราะเป็นความลับ
Bilderberg กำเนิดขึ้นในปี 1954 หลังเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้นำชาติยุโรปหลายประเทศหวั่นเกรงว่าในอนาคตอาจเกิดวิกฤตที่สั่นคลอนความมั่นคงของชาติได้อีก จึงนัดแนะเชิญผู้นำชาติต่างๆในยุโรปและประเทศอเมริกามาปรึกษาหารือกันที่โรงแรม Bilderberg ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อองค์กร Bilderberg
ตัวแทน 11 ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกประเทศละ 2 คน และจากอเมริกา 11 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนั้น ประกอบด้วยบุคคลสำคัญๆ เช่น เจ้าชายเบิร์นฮาร์ดแห่งเนเธอร์แลนด์ พอล ฟาน ซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีเบลเยียม วัลเตอร์ สมิท ผู้อำนวยการซีไอเอ
โยเซฟ เรทิงเนอร์ นักการเมืองชาวโปแลนด์ นั่งตำแหน่งเลขาธิการ Bilderberg ใช้สิทธิเสนอชื่อเจ้าชายเบิร์นฮาร์ดแห่งเนเธอร์แลนด์เป็นประมุข Bilderberg
แรกเริ่มเดิมทีนั้นมุ่งเป้าไปที่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของกลุ่มประเทศที่มีอาณาเขตติดมหาสมุทรแอตแลนติก จึงเรียกว่านโยบายแอตแลนติกซิซึม (Atlanticism) ต่อมาภายหลังดูเหมือนกลุ่ม Bilderberg จะขยายอิทธิพลออกไปจนครอบคลุมทั่วโลก จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น Globalism
สร้างกระแส
กลุ่ม Anonymous กำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อราวปี 2003 จากเว็บไซต์ 4chan ซึ่งเป็นเว็บเน้นโพสต์รูปภาพ ก็คงคล้ายๆกับอินสตาแกรมสมัยนี้ 4chan แบ่งเป็นห้องหลายห้องตามหมวดหมู่ เช่น อานิเมะ กีฬา ดารา ฯลฯ
ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะปรากฏชื่อว่า Anonymous (ไม่ทราบชื่อผู้โพสต์) ซึ่งบุคคลในกลุ่มนี้มีจำนวนมากพอประมาณจนมีการล้อเลียนว่า Anonymous เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกือบทุกภาพ
ต่อมาในปี 2004 โปรแกรมเมอร์ได้เขียนโปรแกรมเพิ่มสิทธิผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกหรือไม่ได้ล็อกอินเข้ามาสามารถโพสต์ภาพได้ภายใต้ชื่อ Anonymous เช่นเดียวกับการแสดงความคิดเห็น นับตั้งแต่นั้นมาก็มีภาพของ Anonymous ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งจนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์
กลุ่มผู้สนใจในเรื่องเดียวกันในเว็บ 4chan มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาพวกเขาได้รวมกลุ่มกันเองโดยผ่านการสื่อสารแบบ IRC หรือการส่งข้อความถึงกันโดยตรง ไม่ต้องเข้าไปโพสต์ในเว็บไซต์
ต่อมาก็เริ่มมีคนคิดกิจกรรมแผลงๆใช้เทคโนโลยีแกล้งคนอื่น เช่น ใช้โปรแกรมสไกป์ (โปรแกรมสื่อสารแบบมีภาพ) สนทนากับบุคคลเป้าหมายโดยถ่ายทอดสดให้สมาชิกคนอื่นได้ดูด้วย สำนักข่าว Fox ประณามการกระทำของกลุ่ม Anonymous ว่าเป็นพวกแฮคเกอร์เมายา
เสรีภาพข่าวสาร
Anonymous เปิดปฏิบัติการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ครั้งแรกโจมตีลัทธิไซแอนโทโลจีเมื่อปี 2008 เนื่องจากลัทธิดังกล่าวสั่งสอนคนให้ความสำคัญกับจิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคอะไรก็ไม่ต้องไปหาหมอ ให้รักษาที่จิตอย่างเดียวพอ
บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนเป็นสาวกของลัทธิไซแอนโทโลจี และที่เป็นเรื่องเป็นราวเมื่อเร็วๆนี้คือดาราดัง ทอม ครูซ ที่ถูกภรรยาฟ้องหย่าเพราะทอมหมกมุ่นกับลัทธิไซแอนโทโลจีถึงขนาดจะพาลูกสาวไปเข้ารีต
Anonymous โจมตีเว็บไซต์ลัทธิไซแอนโทโลจีด้วยวิธี DDos อธิบายง่ายๆคือ การระดมคนเข้าไปในเว็บไซต์พร้อมๆกันแล้วทำการรีเฟรชถี่ๆ เช่น การกดคีย์ F5 รัวๆ เปรียบเสมือนเรานัดกันไปที่บ้านใครคนหนึ่งแล้วเคาะประตูพร้อมๆกันหลายๆคนจนกระทั่งประตูบ้านพัง
ปัจจุบันแทบไม่มีใครใช้วิธีนี้แล้ว เพราะมีโปรแกรมรีเฟรชที่สามารถตั้งค่ารีเฟรชได้อัตโนมัติ เพียงแค่กรอกข้อมูล URL เป้าหมาย ตั้งเวลาที่ต้องการ และกำหนดระยะเวลาที่ต้องการรีเฟรช จากนั้นก็ไปนั่งเล่นเกมสบายใจ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานด้วยตัวเอง
แต่การโจมตีด้วยวิธี DDos ทำให้เว็บเป้าหมายล่มเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างอื่น สมาชิก Anonymous บางคนออกมาเดินขบวนประท้วงให้รัฐบาลจัดการกับลัทธิไซแอนโทโลจี โดยพวกเขาสวมหน้ากากกาย ฟอกส์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม Anonymous
ขณะที่ Anonymous ที่มีความสามารถสูงๆที่เรียกกันทั่วไปว่า Boss จะใช้วิธีเจาะระบบ แฝงตัวเข้าไปในระบบปฏิบัติการเว็บไซต์เป้าหมาย เปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือลบข้อมูลทิ้งทั้งหมดก็ได้ แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือล้วงข้อมูลทั้งหมดออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ เพราะข้อมูลบางอย่างเป็นข้อมูลอ่อนไหว เช่น เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรประชาชน ฯลฯ และข้อมูลบางอย่างเป็นความลับ
ปัจจุบันสมาชิกกลุ่ม Anonymous มีอยู่ทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย พวกเขาจะร่วมมือกันประกาศสงครามกับหน่วยงานทุกแห่งที่เห็นว่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน เอารัดเอาเปรียบประชาชน หรือหมกเม็ดปิดบังความจริงที่ประชาชนควรรู้ ไม่ว่าหน่วยงานนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหน จะเป็น FBI, CIA, ISIS หรือ Bilderberg ก็ล้วนแต่ถูก Anonymous ล้วงตับทะลวงเอาข้อมูลลับออกมาแล้วทั้งสิ้น รอก็แต่เพียงวันที่พวกเขาจะนำข้อมูลลับเหล่านั้นออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนเท่านั้น
You must be logged in to post a comment Login