วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ออพชั่นแก้ตัว

On January 26, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

โบราณว่า “ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก” เรื่องสินบนโรลส์-รอยซ์ยังร้อนอยู่ในมือแท้ๆ สินบนสายเคเบิลที่เกี่ยวข้องกับสองการไฟฟ้าก็โผล่ขึ้นมา

แต่อะไรก็ไม่ร้อนเท่าข่าวใหญ่ญี่ปุ่นจับ นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ขโมยภาพวาด 3 รูป มูลค่า 15,000 เยน ขณะที่เป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปร่วมประชุมเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา

เรื่องนี้สร้างความอับอายให้ไทยเป็นอย่างมาก แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็พยายามทำให้เรื่องดูซอฟต์ลง โดยจิตแพทย์บางคนออกมาบอกว่าอาจเป็นโรคชอบหยิบฉวยโดยไม่ตั้งใจ ขณะที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ประกาศตัวต้องการล้างทุจริตให้ความเห็นทำนองว่า

“ทำไมข่าวทำนองนี้ออกมามาก หรือเพราะหมอดูออกมาบอกว่า ปีนี้สิ่งที่ปิดบังกันเอาไว้ จะถูกเปิดเผยมาทั้งหมด ผมดูโหราศาสตร์ จากหนังสือของสื่อ ว่าในปี 2560 เป็นปีแห่งการเปิดเผยข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร และผมก็พร้อมจะตรวจสอบให้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขอว่าอย่าขยายความกันมากนัก แต่เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป ถ้าขยายกันมากเดี๋ยวจะหาว่าประเทศไทยรวมทุกอย่างเลยหรือ ไม่ได้ปิดบัง แต่ต้องคิดสองด้านว่าผลดี ผลเสียมีอะไรบ้าง แต่สงสัยทำไมประเทศไทยติดอยู่หลายคดี ทั้งเรื่องการทุจริต เรื่องการให้สินบน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน…”

เรื่องน่าปวดหัวสำหรับท่านผู้นำยังไม่จบแค่นี้ เพราะประกาศตัวเข้ามาล้างบางคอร์รัปชัน แต่บริหารประเทศมาเกือบ 3 ปี อันดับความโปร่งใสของประเทศแทนที่จะดีขึ้น แต่กลับทรุดต่ำลงอย่างน่าใจหาย

ล่าสุด (25 ม.ค. 60) องค์กรเพื่อความโปร่งใส (ทีไอ) เผยแพร่รายงานดัชนีการจัดอันดับความโปร่งใส หรือ Corruption Perceptions Index (CPI) ปี 2016 ซึ่งทำการสำรวจจาก 176 ประเทศ พบว่า ประเทศที่มีความโปร่งใสมากที่สุด ได้แก่ นิวซีแลนด์ และเดนมาร์ก ที่ได้คะแนนเท่ากันคือ 90 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100

ส่วนประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 101 มีคะแนนแค่ 35 น้อยลงจากปี 2558 ที่ได้ 38 คะแนน ขณะที่คะแนนเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 43 คะแนน เท่ากับว่าไทยเราได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

เหตุผลที่ไทยได้คะแนนน้อยมาจาก การปราบปรามของภาครัฐ การขาดซึ่งอิสระในการควบคุมดูแล และการขาดซึ่งสิทธิเสรีภาพที่กลายเป็นเครื่องบ่อนทำลายความเชื่อมั่นสาธารณะ

ขณะที่ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการกำจัดคอร์รัปชันในไทย ระบุว่า

“ตกใจกับผลที่ออกมา เพราะเดิมคาดว่าน่าจะได้มากกว่าปีที่แล้วที่ได้ 38 คะแนน แต่กลับได้คะแนนต่ำลงเหลือ 35 คะแนน สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะใช้ความเป็นประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือในการจัดอันดับ”

อย่างไรก็ดี การใช้หลักการประชาธิปไตยมาเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะทั่วโลกถือว่ากลไกประชาธิปไตยเปิดทางให้ตรวจสอบได้ง่ายกว่าเผด็จการ

ทั้งนี้ ผลที่ออกมาถือว่าทำให้รัฐบาลทหารคสช.ต้องหน้าชาอยู่พอสมควร และอาจกระทบภาพลักษณ์เรื่องการเข้ามาล้างคอร์รัปชัน

อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี รัฐบาลทหารคสช.ยังมีออพชั่นในมือที่จะกู้ภาพลักษณ์การเป็นรัฐบาลต่อต้านคอร์รัปชันได้ นั่นก็คือการเดินหน้าตีแผ่สินบนโรลส์-รอยซ์และสินบนสายเคเบิล

ถ้าเอาตัวคนรับค่าหัวคิวสองเรื่องใหญ่นี้มาดำเนินคดีได้ภาพการเป็นรัฐบาลล้างคอร์รัปชันจะกลับมาใสปิ๊งอีกครั้ง


You must be logged in to post a comment Login