วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เปิดใช้ฟรีซอฟท์แวร์ “พาวเวอร์บีไอ”

On January 26, 2017

นายพรเทพ การศัพท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หนึ่งในปัญหาตลอดการดำเนินงานที่ ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการไทยยั งใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยี และดิจิทัลในการบริหารจัดการธุ รกิจได้น้อย ดังนั้น ในปี 2560 กสอ. จึงได้เร่งวางแนวทางในการเน้ นองค์ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยี สารสนเทศให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่ อง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ ประกอบการไทยตื่นตัวมากขึ้น จึงร่วมกับมหาวิทยาลั ยธรรมศาสตร์ และบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) นำระบบซอฟท์แวร์ Power BI (Business Intelligence) หรือซอฟท์แวร์รายงานผู้บริหาร มานำร่องให้บริการแก่ผู้ ประกอบการ SMEs โดยซอฟท์แวร์นี้ประกอบไปด้วยฟั งก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย ได้แก่
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ผลดำเนิ นงานของบริษัทในแต่ละช่ วงเวลาเพื่อการตัดสินใจลงทุนหรื อปรับเปลี่ยนนโยบายของผู้บริหาร
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real time ทั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ ยอดขายและการตลาด เพื่อประเมินสถานการณ์และปรั บกลยุทธ์การขายหรือการตลาด
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ งบกำไรขาดทุน เพื่อการวางแผนการขาย การตลาด การผลิตและคลังสินค้า
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ปัจจัยที่ มีผลกระทบต่อยอดขายของผลิตภัณฑ์ และบริการ
– ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ ยวกับคู่แข่งขัน อัตราการแลกเปลี่ยน ต้นทุน ฯลฯ

สำหรับการทำงานซอฟท์แวร์ Power BI นั้น ถือเป็นซอฟท์แวร์ที่เหมาะกับธุ รกิจ SMEs โดยเฉพาะ สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน ทั้งยังใช้งานร่วมกับไมโครซอฟท์ เอ็กเซลที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ คุ้นเคยและใช้เก็บข้อมูลของธุ รกิจส่วนใหญ่ได้ รวมถึงยังสามารถดึงข้อมู ลจากฐานข้อมูลที่ หลากหลายมาทำการวิเคราะห์ เช่น Informix, ORACLE, MS SQL Server, MySQL, Access, Excel, Dbase, FoxPro, DB2 เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริ มความได้เปรียบของการดำเนินธุ รกิจด้านการแข่งขันด้วยข้อมูล ลดภาระเรื่องเวลาและการใช้ แรงงานในการทำรายงานผล ผู้ประกอบการสามารถนำเอาข้อมู ลที่องค์กรมีอยู่มาใช้ให้เกิ ดประโยชน์สูงสุดผ่านการวิ เคราะห์และแสดงผลในรูปแบบที่เข้ าใจง่าย ช่วยให้การตัดสินใจดำเนินธุรกิ จเป็นไปอย่างแม่นยำและทันต่ อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่ างรวดเร็ว

ทั้งนี้ กสอ. ได้ทดลองนำซอฟท์แวร์ Power BI มาทดลองให้ผู้ประกอบการจำนวน 50 กิจการ ใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นครั้ งแรกเมื่อปี 2559 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ ประกอบการเข้าร่วมโครงการเป็ นจำนวนมาก แต่สามารถให้บริการได้จำนวนจำกั ดเพียง 50 กิจการเท่านั้น โดยผลจากการดำเนินงานนำร่องใช้ ระบบดังกล่าวพบว่าสามารถเพิ่ มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ และวางแผนด้านการบริหารธุรกิจ เช่น การลดต้นทุนของสต็อกวัตถุดิบซึ่ งเกิดจากประมาณการสั่งวัตถุดิ บได้ตรงกับความต้องการหรือช่ วยให้ผู้บริหารมีข้อมู ลประกอบการตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้ น ซึ่งประสิทธิภาพดังกล่าวยั งสามารถสร้างความได้เปรียบทางธุ รกิจและและช่วยเพิ่มยอดขายในกิ จการได้ คิดเป็นตัวเงินโดยเฉลี่ยกิ จการละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อปี และใน ปี 2560 กสอ. ยังคงดำเนินโครงการนี้อย่างต่ อเนื่อง ซึ่งให้ความรู้ที่เข้มข้นขึ้ นและบริการที่ปรึกษาการบริหารธุ รกิจด้วยเทคโนโลยีบิซิเนสอินเทล ลิเจนท์ (Business Intelligence) พร้อมให้ใช้งานซอฟท์แวร์ Power BI ฟรีแก่ผู้ประกอบการจำนวนเพิ่มขึ้ นเป็น 145 กิจการ โดยตั้งเป้าช่วยสร้างความได้ เปรียบทางธุรกิจและช่วยเพิ่ มยอดขายในกิจการได้ คิดเป็นตัวเงินเฉลี่ยกิ จการละไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 580 ล้านบาท นอกเหนือจากนี้ กสอ. ยังเร่งการสนับสนุนให้ผู้ ประกอบการนำระบบดิจิทัลมาใช้ ในการดำเนินธุรกิจผ่านโครงการต่ าง ๆ ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท อาทิ โครงการส่งเสริม SMEs ใช้ระบบ ERP by DIP โครงการส่งเสริม SMEs ใช้ Social Media เพื่อพัฒนาศักยภาพด้ านการตลาดและการสร้างแบรนด์ โครงการส่งเสริม SMEs ใช้ระบบ e-Supply Chain เพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจ และโครงการส่งเสริม SMEs ทำธุรกิจในรูปแบบ B2B ผ่านเว็บไซต์ Alibaba.com ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องตระหนั กเสมอว่ากลไกเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ จะไม่ได้เป็นแค่ส่วนสนับสนุ นการดำเนินธุรกิจและอุ ตสาหกรรมเท่านั้น แต่จะเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญต่ อกระบวนการผลิต การค้า การบริการ การวิเคราะห์ข้อมูล และกระบวนการทางสังคมอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมต่ าง ๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ นอกจากนี้ยังจะช่วยผู้ประกอบการ ลดต้นทุนในการทำการตลาด ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และช่วยจัดระบบให้กั บงานเอกสารที่จะทำให้ประสิทธิ ภาพในการเก็บข้อมูลดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเอื้อที่ส่ งเสริมแนวทางในการดำเนินงานที่ มีความชัดเจน ส่งผลถึงการปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้เกิดความแข็งแกร่งทางธุรกิ จได้ต่อไป นายพรเทพ กล่าวปิดท้าย

ด้านผศ.ดร.จิรพล สังข์โพธิ์ รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ Power BI นั้นปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่ วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจในธุรกิ จของตนเองมากขึ้น เนื่องจากทำให้สามารถเข้าถึงข้ อมูลในเชิงลึก ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย การลด-เพิ่มปริมาณสินค้าและวั ตถุดิบ ทราบถึงผลกำไรและการขาดทุน เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการที่ใช้ โปรแกรมนี้ส่วนใหญ่แล้ วจะทราบคำตอบและตัดสินใจได้ทั นทีว่าจะพาธุรกิจของตนไปในทิ ศทางใด สำหรับการนำซอฟต์แวร์ Power BI มาใช้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในขณะนี้ได้เข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว ผลจากการทดลองใช้พบว่า กว่า 90 % ของผู้ประกอบการรู้สึกพึ งพอใจและได้รับประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะด้านการเพิ่ มยอดขายและการลดต้นทุนในการผลิต นอกจากนี้ยังมีการจัดลำดั บจากหลายๆสถาบันว่า ซอฟต์แวร์ Power BI เป็นโปรแกรมที่ถูกจัดให้อยู่ ในลำดับต้นๆ ของโปรแกรมประเภทเดียวกันและได้ รับการยอมรับจากหลายๆองค์กรทั่ วโลก ดังนั้น ความน่าเชื่อถือในการนำมาใช้ ในการจัดการการดำเนินธุรกิจจึ งถือว่ามีอยู่สูง อย่างไรก็ดี ตนยังมีความเห็นว่า ซอฟต์แวร์ Power BI มีความคุ้มค่าอย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อการใช้ งานเฉลี่ยเพียงเดือนละ 350 บาท แต่สามารถทราบได้ถึงข้อมูลเพื่ อการดำเนินธุรกิจทได้อย่างไม่ จำกัด ซึ่งมั่นใจว่าในอนาคต โปรแกรมประเภทดังกล่าวจะยิ่งทวี คูณความสำคัญ และหากผู้ประกอบการรู้จักที่ จะนำมาปรับใช้ได้ก็จะยิ่งเสริ มความได้เปรียบทางธุรกิจได้ มากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายพรชัย รัตนตรัยภพ ประธานเครือข่าย DIP SMEs Network กล่าวว่า การตัดสินใจในลำดับขั้นต่อ ๆ ไปของการดำเนินธุรกิจในขณะนี้ จะไม่สามารถใช้ประสบการณ์เพี ยงอย่างเดียวมาเป็นตัวชี้วัดได้ แล้ว แต่จะต้องอาศัยข้อมูลและสถิติต่ าง ๆ มาใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ซึ่งซอฟท์แวร์ Power BI ถือเป็นโปรแกรมที่ช่วยตอบโจทย์ ให้กับทุกองค์กรได้อย่างมาก ด้วยการใช้งานที่ง่ายและค่าใช้ จ่ายเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน สามารถวิเคราะห์ผลดีผลเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นผ่านหน้าจอแล้วแก้ ไขปรับปรุงได้ทันที โดยภายในโปรแกรมยังสามารถเห็ นได้ถึงทุกมิติขององค์กรที่ จะทำให้รู้ว่าจุดใดอ่อน จุดใดแข็ง ลดเวลาในการจัดทำข้อมูล เข้าถึงการใช้งานได้อย่ างสะดวกทุกที่ทุกเวลา กล่าวโดยภาพรวมคือ Power BI เป็นเสมือนเลขาที่คอยแจ้งความคื บหน้าให้ผู้ประกอบการรู้จักเตื อนตัวเอง ซึ่งผลจากการตัดสินใจและการแก้ ไขต่าง ๆ  ที่ได้นั้นจะช่วยก่อให้เกิ ดประโยชน์สูงสุดกับกิจการอย่ างแน่นอน

สำหรับผู้ประกอบการที่ สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร 0 2202 4525 , 0 2202 4532 หรือ www.digitalforsme.com


You must be logged in to post a comment Login