วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ล้างประเทศเซตซีโร่ใหม่ / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On January 30, 2017

คอลัมน์ : ฟังจากปาก
ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

อาจารย์ไชยันต์มองการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยอ้างต้องการทำให้บ้านเมืองสงบ เพราะวิกฤตเสื้อเหลืองเสื้อแดง ตรงนี้ต้องยอมรับว่าทำสำเร็จ ไม่มีการตีกัน ไม่มีเดินขบวน แต่ประเด็นการปฏิรูปประเทศยังไม่เห็นอะไรเลย อยากเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. บอกก่อนว่าจะปฏิรูปอะไรบ้าง เรื่องการศึกษา ทหาร สาธารณสุข การปกครอง ศาล ที่ผมเห็นเพียงอย่างเดียวซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปคือการยืดเวลา เหมือนนักเรียนไม่ส่งงานครู เหมือนวิทยานิพนธ์นักศึกษายังไม่เห็นเลย งานไม่เสร็จก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ผมไม่เห็นผลงานเรื่องการปฏิรูปของรัฐบาล คสช. นับตั้งแต่เข้ามายึดอำนาจและบริหารประเทศ

ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะให้มีการเลือกตั้งปลายปี 2560 แต่มีแนวโน้มจะเลื่อนเป็นปี 2561 นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลื่อน แต่เลื่อนมาก่อนหน้านี้แล้ว จำเพลงที่ร้องหลังยึดอำนาจที่ว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” ได้หรือไม่ ผมคิดว่ามุสาจนเชื่อไม่ได้แล้ว คนที่พูดโกหกบ่อยๆเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ แม้ครั้งที่ 2 พูดจริง แต่คนไม่เชื่อ เพราะมุสามาก่อน จึงไม่มีเครดิต หมดความน่าเชื่อถือ สะท้อนพฤติกรรมรัฐบาล คสช. ว่าอยากเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ มาแล้วก็จะซื้อเรือดำน้ำ ซื้อรถถัง ซื้ออะไรต่างๆตามที่เป็นข่าว ไม่เห็นอะไรที่เป็นมรรคผลกับประชาชนเลย มีแต่มรรคผลกับฝ่ายทหารและพวกเดียวกัน

ผมคิดว่าประชาชนขณะนี้มีความรู้สึกเหมือนกันคือ เซ็ง ท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่รู้สึกมีความหวังกับอนาคต สถานการณ์ขณะนี้เราแทบไม่มีความหวังแม้กระทั่งจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลย เป็นเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย อาจเรียกว่าเป็นนิยายเรื่องเศร้า ไม่ต่างกับโศกนาฏกรรมทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ แต่คงไม่มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวอะไร คนที่จะลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวคัดค้านต้องเห็นว่ามีทางออก แต่ตอนนี้ไม่เห็นทางออก ทางออกมันลงอุโมงค์ที่เรียกว่ามืดมน

ผมประทับใจอันเดียวที่ คสช. ทำคือ เรื่องห้ามประมงออกที่อ่าวไทย ทำประมงเกินสมรรถภาพของผลผลิตในอ่าวไทย ตั้งแต่สมัยผมเรียนหนังสือที่เกษตรฯมีปัญหาจนป่านนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จน คสช. ออกมาตรการห้ามดังกล่าว ส่วนเรื่องอื่นๆไม่เห็นเลย มีแต่ความเสียหายหลายอย่าง เช่น ไม่ควบคุมดูแลเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณซื้ออาวุธ เรื่องเรือดำน้ำ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยมีพระราชดำรัสไม่เห็นด้วย แต่ตอนนี้อนุมัติให้ซื้อได้ ปากก็พูดว่าควรดำเนินการตามพระราชดำรัส แต่ทำไมรัฐบาล คสช. ทำตรงกันข้ามล่ะ งบประมาณนำมาสร้างโรงเรียนดีกว่า เปิดมหาวิทยาลัยให้เรียนฟรีเลย หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคก็ปรับมาเป็นโครงการ 10-15 บาทรักษาทุกโรค

ถามว่าตั้งแต่มีกองทหารประจำการมาเคยรบกับอริราชศัตรูที่ไหนเกิน 20 ชั่วโมงหรือไม่ เพราะฉะนั้นที่ทุ่มงบประมาณซื้อเครื่องบินรบ รถถัง อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทำให้เกิดความสูญเสียในการพัฒนาด้านอื่นๆที่เป็นประโยชน์มากกว่า เพราะเราไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวย เราจะป้องกันอะไร ซื้อมีด ซื้อคันไถไปทำนาดีกว่า

ถามว่าทำไมถึงมีความคิดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ มีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ มีคอร์รัปชันตามมาหรือไม่ การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยราชการทุกแห่งมักมีปัญหานี้ ผมเชื่อว่าการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหลายมีปัญหานี้ทั้งนั้น อีกด้านก็สะท้อนว่าการที่รัฐบาล คสช. ทุ่มงบประมาณมหาศาลซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆไม่มีแผนในการพัฒนาประเทศ มีแต่เรื่องความมั่นคงเหนือสิ่งอื่นๆ มันใช้ไม่ได้

ผมยกตัวอย่างประธานาธิบดีชิลีที่พูดว่า อาวุธยุทโธปกรณ์จะแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างไรในเมื่อปัญหาของประชาชนคือความหิวและความหนาว ผมถึงบอกว่ารัฐบาล คสช. ใช้เงินไม่ถูกทาง เพราะเศรษฐกิจบ้านเราไม่ดี เหมือนพ่อเอาเงินไปซื้อปืน แต่ลูกไม่มีรองเท้าใส่ ไม่ซื้อหนังสือเรียน ก.ไก่ให้ลูก

ปัญหาที่เห็นขณะนี้คือ การจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรก่อนหลัง ปัญหาปากท้อง ปัญหาสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ อย่างโรงพยาบาลประจำตำบลมีหมอไปแค่สัปดาห์ละครึ่งวัน ทำให้คนไข้ต้องไปโรงพยาบาลใหญ่ มีนโยบายแก้ตรงนี้มั้ย รถถัง เครื่องบินช่วยได้มั้ย เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนควรได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ บรรดานายทหารระดับนายพลไม่สบายก็เข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่ชาวบ้านจะไปนอนโรงพยาบาลอะไรเมื่อโรงพยาบาลตำบลหมอไปอาทิตย์ละครึ่งวัน

มองการสร้างความปรองดองอย่างไร

ผมอยากให้ช่วยถามหน่อยว่า รัฐบาล คสช. ใช้มาตรการอะไรบ้างในการสร้างความปรองดอง จับนักศึกษาและยังไม่ได้รับการประกันอีก เขานั่งรถไปตรวจทุจริตก็ไปจับเขา จับคนโน้นคนนี้ ผมถามว่าปรองดองอะไร ผมยังไม่เห็นว่ารัฐบาล คสช. สร้างความปรองดอง ที่ประกาศสร้างความปรองดอง เช่น ตั้ง ป.ย.ป. (คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง) เตรียมจะผลักดันร่างกฎหมายสร้างความปรองดอง หรือให้คู่ขัดแย้งทางการเมืองลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ผมว่าเป็นการโฆษณามากกว่า เหมือนโฆษณายาสระผมทำให้ผมดำ คุณเชื่อยาสระผมที่เขาโฆษณามั้ย

ผมขอถามว่าช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล คสช. ทำอะไรอยู่ แต่โฆษณาก็มีคนเชื่อ ไม่เช่นนั้นยาสระผมก็ขายไม่ได้ เพราะสติต่ำปัญญาน้อย แต่คนที่มีวิจารณญาณคงไม่เชื่อ หรือครีมทาผิวที่บอกว่ามีสรรพคุณทำให้ผิวดีอย่างนั้นอย่างนี้ เอาไปขายหมอโรคผิวหนังได้มั้ย คนบ้องตื้นส่วนหนึ่งก็เชื่อ ผมขอย้ำว่ายังไม่เห็นมาตรการอะไรในการสร้างความปรองดองอย่างแท้จริงเลย เห็นแต่ท้าตีท้าต่อยเกือบทุกวัน

ความขัดแย้งยังซึมลึก

มันเป็นความขมขื่น อย่างที่ผมพูดข้างต้นว่าเซ็ง แต่ขอเติมคำว่าขมขื่น ผมคิดว่าความขัดแย้งมันสั่งสม เหมือนเด็กนักเรียนจะต่อยกัน มันไม่ใช่ต่อยกันเลย มันหมั่นไส้เป็นเวลานานแล้วถึงมาท้าต่อยกัน สู้กัน เกิดจากความเกลียดชังสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมทำนายไม่ถูกว่าอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ทำนายไม่ได้ ไม่มีใครสามารถเป็นหมอดูทางการเมืองได้ แต่ที่แน่นอนคือปัญหาความขัดแย้งคงซึมลึกในสังคมไทยต่อไป

ทางออกในการแก้ปัญหา

ทางออกที่ดีที่สุดคือ เราควรจะขายชาติ ขายประเทศไทยไปเลย ใครมาซื้อก็ขายไปเลย เอาเงินมาแบ่งแล้วแจกพาสปอร์ต ใครจะอยู่ที่ไหนก็ไป ยกเลิกประเทศไทยไปเลย นั่นแหละครับทางออก คือขายไปเลย ประกาศขาย ลดราคา หรือให้ไปเลย ผมมองว่าคุณค่าของประเทศไทยเสื่อมลงทุกวัน ต้องรีบขายจะได้ราคาบ้าง ตอนนี้ยังมีโอกาสอยู่ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครซื้อ แม้จะลดราคาหรือแถมให้ก็ไม่มีใครเอา เพราะมูลค่าของประเทศจะค่อยๆลดลงจนไม่มีค่าอะไรเลย

การเลือกตั้งอาจเลื่อนไปปี 2561

ตรงนี้ผมไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เชื่อว่าไม่เป็นผลดีแน่ ไม่ว่าจะเป็นการปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จนถึงระดับชาติ ไม่มีการกลั่นกรองพิจารณากฎหมายให้ดี ไม่มีกฎหมายใหม่ออกมา ทั้งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจด้วย

ดังนั้น ทำยังไงที่จะรวมคน รวมพลังจากทุกฝ่ายมาช่วยกันพายเรือสยามนาวานี้ เท่าที่ดูไม่มีความพยายามจะไปในทิศทางนี้เลย อย่างที่ผมพูด มันไม่มีความหวัง ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมเลยบอกให้ขายประเทศไป เพราะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ขายให้จีน ให้รัสเซีย ใครอยากซื้อก็ขายไปเลย หรือขายให้สิงคโปร์ก็ได้ เพราะสิงคโปร์มีเงิน อนาคตของประเทศไทยยังมืดมนอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆตราบใดที่คนครองอำนาจไม่อยากจะแชร์อำนาจและยังไม่ยอมหมดอายุ

ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งไปปี 2561 คงไม่ทำให้ประเทศต่างๆแอนตี้ ตอนนี้ก็ไม่มีประเทศไหนจะคว่ำบาตรเราอย่างที่คว่ำบาตรพม่า แต่ผมขอย้ำว่าถ้าเลื่อนการเลือกตั้งออกไปปี 2561 จะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยและประชาชนทั่วไป จะดีต่อกลุ่มทหารบางกลุ่มเท่านั้น
การต่อสู้ของภาคประชาชน

ผมเห็นมีแต่นักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย คนอื่นไม่ได้มาช่วยเลย ทำให้สู้ลำบาก เหมือนกับเราอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีอะไรจะไปสู้กับนักเลงที่มีปืนมีอาวุธครบมือ ถามว่าทำไมมีแต่นักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย นี่แหละที่เราต้องเทิดทูนนักศึกษามากเลย คนที่ไม่ใช่นักศึกษาตาขาวกันหมด

อย่างที่ผมพูดว่าไม่มีความหวังกับประเทศนี้ ความจริงเราจะฝากความหวังไว้กับนักศึกษาให้เรียกร้องทวงคืนประชาธิปไตยเพียงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ นักศึกษามีจำนวนน้อยที่ออกมาเรียกร้องต่างๆ จะโยนภาระนี้ไปให้นักศึกษาไม่ได้ การต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยต้องอาศัยภาคประชาชนอื่นๆด้วย ผมอยากบอกว่านักการเมืองหัวหดกันหมด พวกนี้ดีแต่รอเลือกตั้ง รอผลประโยชน์ คล้ายสุภาษิตที่ว่าเสือนอนกิน รอจังหวะที่จะได้รับผลประโยชน์ แต่ไม่ทำอะไร นักการเมืองเป็นแบบนี้ ที่เขาด่านักการเมืองไทยผมเห็นด้วยบางอย่าง และคิดว่านักการเมืองควรจะไปเป็นลิงปีนต้นมะพร้าวดีกว่า เพราะฉะนั้นเราจะไปฝากความหวังกับนักการเมืองพวกนี้ไม่ได้ แม้จะมีนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย แต่ก็มีน้อยมาก

โอกาสเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

เมื่อสถานการณ์ภาคประชาชนเป็นอย่างนี้ โอกาสที่เราจะทวงคืนประชาธิปไตยคงยาก รัฐบาล คสช. และกองทัพยุคนี้แข็งแกร่งกว่าเผด็จการในอดีตหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาเขาแข็งแกร่งเสมอ เช่น สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร หรือจอมพลประภาส จารุเสถียร เขาก็แข็งแกร่ง สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็แข็งแกร่ง แต่ก็ล้มได้เหมือนกัน ตึกใหญ่ๆยังล้มเลย รู้จักอภิเดช ศิษย์หิรัญ นักมวยไทยเก่าไหม รุ่นผมรู้ว่าอภิเดชไม่มีใครสู้เขา แต่เขาก็แพ้ได้เช่นกัน

มีเยอะแยะที่ผู้มีอำนาจที่เราคิดว่ามีอำนาจมากมาย แต่ก็ล้ม เช่น นายพลออกุสโต ปิโนเชต์ อดีตผู้บัญชาการทหารชิลี นายพลเน วิน ผู้นำเผด็จการทหารพม่า ล้วนล้มครืนมาแล้ว เพราะฉะนั้นมีความเป็นไปได้ที่ คสช. จะเดินตามรอยนี้เช่นกัน ปัจจัยที่ทำให้ คสช. มีโอกาสล้ม ปรกติคือความขัดแย้งกันข้างใน อันนี้มีให้เห็นในประวัติศาสตร์หรือจากคนข้างนอกที่ลุกขึ้นมา อย่างเผด็จการทหารเกาหลีใต้ เผด็จการพลเรือนอย่างมาร์กอสก็ล้ม คสช. แม้จะเป็นเผด็จการที่แข็งแกร่งเพียงใดก็มีโอกาสล้มเหมือนกัน ทางออกของประเทศไทยจึงอยู่ 2 อย่างคือ ถ้าไม่ขายประเทศนี้ก็ต้องรอน้ำท่วม ล้างหมด คือต้องล้างทั้งประเทศกันเลย ล้างเสร็จจะได้เริ่มต้นเซตซีโร่ประเทศกันใหม่


You must be logged in to post a comment Login